สมุทรปราการ 6 ก.ค. – เป็นเวลากว่า 25 ชั่วโมง หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานในซอยกิ่งแก้ว 21 ล่าสุดควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว หลังเจ้าหน้าที่ปิดวาล์วในบ่อสารเคมี และระดมรถโฟมดับเพลิงขนาดใหญ่เข้ามาดับไฟ ซึ่งยังต้องฉีดโฟมเลี้ยงไว้ เพื่อป้องกันการปะทุซ้ำ
ภาพความเสียหายจากเหตุไฟไหม้โรงงานในซอยกิ่งแก้ว 21 ที่ไฟสงบลงแล้ว เหลือเศษซากสังกะสีของอาคารที่พังถล่มลง เหลือเพียงเห็นโครงเหล็ก โดยเมื่อวานนี้ตลอดทั้งวันจนถึงช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้พยายามดับไฟที่ลุกไหม้ ระดมรถโฟมที่ใช้ดับเพลิงขนาดใหญ่จากจังหวัดใกล้เคียงมา 5 คัน เจ้าหน้าที่ดับเพลิงพร้อมด้วยผู้เชี่ยวชาญ ร่วมกันปฏิบัติการเข้าไปปิดวาล์วในบ่อสารเคมีได้สำเร็จ ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องทำงานด้วยความระมัดระวังและแข่งกับเวลา รวมทั้งไฟที่ยังมีโอกาสปะทุขึ้นอีกต่อเนื่อง
ประมาณช่วงประมาณตีห้าวันนี้ เจ้าหน้าที่แจ้งว่าคุมเพลิงได้ แต่อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่บอกว่ายังไม่สามารถวางใจได้ 100% เพราะยังมีโอกาสที่เพลิงจะลุกไหม้มาอีกได้ ทำให้ยังเห็นเฮลิคอปเตอร์บินขึ้นปฏิบัติการใช้โฟมและสารเคมีในการดับไฟดับอยู่เป็นระยะๆ และยังต้องฉีดน้ำเพื่อลดอุณหภูมิ แม้จะปิดวาล์วถังสารเคมีได้แล้ว
ด้านอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ พร้อมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่นำอุปกรณ์ที่ใช้วัดค่าสารต่างๆ ที่ลอยอยู่ในอากาศ โดยเฉพาะสารสไตรีนโมโนเมอร์ และเพนเทน จากการตรวจสอบเบื้องต้นในบริเวณนี้ยังไม่มีค่าสารในอากาศที่เกินมาตรฐานเป็นอันตราย และวันนี้ในพื้นที่มีลมค่อนข้างแรง ทำให้อากาศบริเวณนี้ค่อนข้างปลอดภัย แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังในรัศมีใกล้เคียง เพราะสารในอากาศที่อันตรายอาจจะไปกระจุกตัวตามความเร็วของลม รวมทั้งการดูค่าความปลอดภัยของน้ำที่อาจจะมีสารอันตรายปนเปื้อนลงไป
ขณะที่ พล.ต.ต.ชุมพล พุ่มพวง ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สมุทรปราการ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นพบเพียงผู้จัดการโรงงานที่มาแสดงตัวให้ข้อมูลเมื่อวานนี้ ซึ่งผู้จัดการโรงงานให้ข้อมูลว่า คืนที่เกิดเหตุอยู่กับพนักงานที่กำลังทำงานอีก 8 คน และทราบจากพนักงานว่าเกิดเปลวไฟขึ้น แต่ยังไม่รู้ว่าเกิดได้อย่างไร ตำรวจอยู่ระหว่างสอบสวนถึงสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ดังกล่าว โดยจะต้องดูว่าเกิดจากอุบัติเหตุหรือเกิดจากความประมาท
ทั้งนี้จะแบ่งการดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญา หากพบการกระทำจากความประมาทจนเกิดไฟไหม้ขึ้น ซึ่งตั้งแต่เมื่อวาน มีประชาชนที่บ้านได้รับความเสียหายกว่า 160 หลังคาเรือนเข้ามาแจ้งความไว้แล้ว และขอให้ประชาชนที่บ้านในรัศมีใกล้เคียงกับโรงงาน อยู่ที่ศูนย์อพยพเพื่อความปลอดภัยก่อน จนกว่าจะมีการประกาศแจ้งให้กลับเข้ามาได้. – สำนักข่าวไทย