นายกฯ เช็กเสียง ส.ว.ใครไม่เชื่อมั่น ยันอยู่ครบเทอม ยิ่งไล่ ยิ่งสู้

รัฐสภา 14 มิ.ย.- นายกฯ แจงออกเงินกู้ 5 แสนล้าน ต่อวุฒิสภา ย้ำไม่เคยมีทุจริต เช็กเสียง ส.ว. ใครไม่เชื่อมั่น ยันอยู่ครบเทอม ยิ่งไล่ ยิ่งสู้


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการประชุมวุฒิสภา วันนี้ (14 มิ.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ชี้แจงการตราพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพ่อแก้ขัญหาเศรษฐกิจและสังคมจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 วงเงินไม่เกิน 5 แสนล้านบาท โดยย้ำความจำเป็นเร่งด่วนในการกู้เงิน เพื่อแก้ปัญหาสถานการณ์โควิด-19 ทั้งการเยียวยาประชาชน และฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะการระบาดในระลอกที่ 3 โดยคาดว่าจะช่วยทำให้เศรษฐกิจของประเทศขยายตัวได้ 1.5-2.5 ส่วนงบประมาณสำหรับระบบสาธารณสุข คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติไปแล้วกว่า 44,700 ล้านบาท ครอบคลุมค่าตอบแทนบุคลากรทางการพทย์, ค่าวัคซีน ,เงิน อสม. ,อุปกรณ์การแพทย์ และรถตรวจชีวนิรภัยเพิ่มเติม เป็นต้น

นายกรัฐมนตรี ยังชี้แจงถึงแผนการบริหารงานของรัฐบาลที่ผ่านมาว่า ในปี 2564 รัฐบาลตั้งเป้าหมายว่าจะสามารถกระจายวัคซีนได้กว่า 100 ล้านโดส เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้ได้ภายในเดือนมีนาคม 2565 การกระจายวัคซีนสู่ประชาชน จะต้องคำนึงถึงจำนวนวัคซีนที่ประเทศไทยมี โดยจะต้องพิจารณาจากปัจจัยเบื้องต้นว่าทุกจังหวัดจะต้องได้รับวัคซีน จังหวัดใดจะมีการแพร่ระบาดมาก ก็ต้องกระจายวัคซีนให้มากขึ้น และสำรองไว้สำหรับการป้องกันการระบาดที่อาจมีขึ้น เช่น กลุ่มแรงงาน หรือบุคลากรครูที่จะมีการเปิดภาคการศึกษา แต่ปัญหาขณะนี้ คือ การจับจองวัคซีนของประชาชนมากกว่าจำนวนวัคซีนที่จ่ายให้แต่ละพื้นที่ และจำนวนวัคซีนทยอยแบ่งมาจากผู้ผลิต ดังนั้น การกระจายวัคซีนจะต้องมีการปรับแผน เพื่อไม่ให้การนัดฉีดวัคซีนของประชาชน มีจำนวนมากกว่าวัคซีนที่มี จึงต้องยืดระยะเวลาเพื่อให้สอดรับกับจำนวนวัคซีนที่มี


นายกรัฐมนตรียังยอมรับด้วยว่า ปัญหาการระบาดโควิด-19 มีปัญหาการเมืองเข้ามาแทรกทั้งหมด ทั้งการสร้างการรับรู้ และการบิดเบือน แต่ตนก็ให้ความเคารพทั้งฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล และพยายามแก้ปัญหา จัดหาวัคซีนให้ได้ถึงปีหน้า พร้อมย้ำว่ามีการเจรจาจัดซื้อต่อเนื่อง ตามสัญญาหลัก แต่วัคซีนจะทยอยส่งมา และตระหนักว่าการฉีดวัคซีน จะต้องฉีดให้ทุกคน และทุกปีเหมือนวัคซีนไข้หวัดใหญ่ และรัฐบาลจะรับผิดชอบทุกคนที่ได้รับผลกระทบจากการฉีดวัคซีน และรัฐบาลฉีดให้ประชาชนฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย

“การบริหารฉีดวัคซีน ผมให้หน่วยงานบริหารจัดการเอง เช่นเดือนปัจจุบันได้วัคซีน 5 แสนโดส หน่วยงานต้องบริหารให้ได้ภายใน 1 เดือน หากเร่งฉีด 4 แสนโดส ภายในวันเดียวการฉีดก็ไม่ถึงเดือน ดังนั้นต้องยืดให้ยาวเพื่อรอวัคซีนล็อตใหม่เข้ามา” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี ยังยืนยันด้วยว่า รัฐบาลไม่เคยมีการปิดกั้นการขึ้นทะเบียนวัคซีน แต่จะต้องเป็นบริษัทที่เป็นตัวแทนในประเทศไทย มาขึ้นทะเบียนต่อ อย. เพื่อขึ้นทะเบียน และการจัดซื้อ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อประชาชน ซึ่งวัคซีนไฟเซอร์อยู่ระหว่างการต่อรองเงื่อนไขสัญญา จำนวน 20 ล้านโดส คาดว่าจะได้ในไตรมาส 3 เช่นเดียวกับวัคซีนจอห์นสัน แอนด์จอห์นสัน จำนวน 5 ล้านโดส รวมถึงวัคซีนโมเดอร์นา , ซิโนฟาร์ม และสปุตนิก-วี โดยจะต้องมีบริษัทที่มาขึ้นทะเบียนในประเทศไทย เป็นตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย พร้อมย้ำว่า รัฐบาลไม่ได้แทงม้าตัวเดียวจัดซื้อวัคซีนเพียงชนิดเดียว แต่แทงทั้งวิน ทั้งเพรส


นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการออกมาตรการเยียวยาประชาชนว่า เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพของประชาชน และยืนยันว่าไม่เคยหาเสียงจากนโยบายคนละครึ่ง โดยส่งเงินตรงถึงมือประชาชน พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลทำให้เงินถึงมือประชาชนโดยผ่ายโครงการต่างๆ ทาง E-Wallet ช่วยประชาชนเพื่อต่อลมหายใจกว่า 41 ล้านราย

นายกรัฐมนตรียังยืนยันว่า พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ใช้จ่ายไปตามแผน เหลือสำรองค่าประปา ค่าไฟ ส่วนที่การจัดเก็บรายได้ของรัฐลดลง เพราะเกิดปัญหาโควิด ก็ต้องแก้ไขไปตามสถานการณ์ ย้ำว่า 5 แสนล้าน มีแผนการใช้จ่ายครบถ้วน ทั้งนี้ การใช้เงินกู้ด้านสาธารณสุข หากไม่พอก็พร้อมจัดสรรเพิ่มเติมให้ พร้อมยืนยันตลอด 7 ปีที่บริการงบประมาณมา ไม่มีเงินผ่านมือตนสักบาท ดังนั้นหากพบว่ามีโครงการทุจริตใดขอให้แจ้งมาพร้อมข้อมูล พร้อมที่จะตรวจสอบ เพราะไม่ต้องการให้ใครทำผิด จากนโยบายที่ให้ไป ส่วนที่หลายคนมองว่ายึดอำนาจ รวบอำนาจเพราะมีกฎหมาย 30 ฉบับไว้เพื่อสั่งการเอง ขอยืนยันว่า ไม่อยากยึดอำนาจ แต่ต้องการปลดล็อกให้ทุกกระทรวงเพื่อจัดสรรปันส่วนวัคซีน

“รัฐบาลทำเงินให้ถึงมือประชาชน ไม่ผ่านมือคนอื่น ทั้งนี้มีคนไม่พอใจงบปี 2565 เพราะพอตัดลดงบลงไม่สามารถตั้งโครงการใหม่ ส่วนที่หลายคนบอกว่ารัฐบาลนี้แทคโนแครตนั้น หากไม่ให้ช้าราชการทำ หรือครอบงำราชการ ทุกคนก็ติดคุกหมด การสื่อสารต้องฟังรัฐบาล หากไม่ฟังจะไปกันใหญ่ มีปัญหาสร้างการรับรู้บิดเบือน ผมคิดถึงอนาคตตลอด ผมเลือกวัคซีนที่ดีที่สุดให้คนไทย ไม่ใช่จองไปเรื่อย หัวใจผมมีแต่ให้เขา บางครั้งก็ลืมคิดถึงตัวเองว่าปลอดภัยหรือเปล่า” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกษิดิศ อาชวคุณ ส.ว. ได้สอบถามเกี่ยวกับประเด็นการเปิดประเทศที่จังหวัดภูเก็ต โดยจะต้องอยู่ในภูเก็ต 14 วัน มีความเป็นไปได้จะไปจังหวัดอื่นหรือไม่

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ทำแซนด์บ็อกซ์ที่ภูเก็ตก่อน โดยเร่งให้ฉีดวัคซีนให้ครบโดม 80% ก่อน และยังมีสมุย พีพี พะงัน อยู่ในกลุ่มนี้ด้วย ยังมีเวลา ตั้งใจเปิดเดือนกรกฎาคมเปิดสมุย 60% แล้ว ซึ่งเป็นวิสัยทัศน์รัฐบาล ในแต่ละจังหวัดลงทะเบียนหลายหน่วยงาน ย้ำคนไทยได้ฉีดวัคซีนเดือนมิถุนายนแน่นอนแต่บางส่วนอาจจะขยับไป เดือนหน้า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกรัฐมนตรีระบุว่า ประธานในที่ประชุมส่งข้อความเตือนให้มีการซักถามภายหลัง และพูดติดตลกว่า “ไล่ผมแล้วนี่ ในนี้ไม่มีพวก”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในช่วงท้ายของการชี้แจง นายกรัฐมนตรี ได้ถาม ส.ว. ว่ามีใครไม่เชื่อมั่นตนไหม ขอให้ยกมือ แต่ปรากฏว่าไม่มีใครยกมือ หลายคนหัวเราะออกมา นายกรัฐมนตรี จึงกล่าวว่า ก็ไม่มีอีก ตนบังคับใครไม่ได้อยู่แล้วเคารพมาตลอด 5 ปี 7ปีไม่เคยบังคับท่าน ไม่เคยยุ่งกับท่าน เชื่อในวุฒิภาวะของท่าน ภายใต้พื้นฐานความเข้าใจซึ่งกันและกัน สิ่งสำคัญคือการแก้ไขปัญหาที่พะรุงพะมาโดยตลอด และยังยืนยันด้วยว่า จะอยู่ทำหน้าที่ครบเทอม

“ผมต้องทำตัวให้มีเกียรติ ผมตั้งเกียรติของตัวเองมาได้เพราะเกียรติเป็นสิ่งที่คนอื่นเขายกย่อง หากผมทำดีควรให้เกียรติ ถ้าไม่ดีก็ไม่ให้เกียรติ ฝากไว้ด้วยว่าถ้ามีการเลือกตั้งในอนาคต ผมยืนยันจะอยู่ไปจนครบนี่แหละ จะได้เลิกพูดกันสักที ครั้งหน้าก็เลือกกันให้ดีแล้วกัน ผมก็โดนไล่ทุกวัน ยิ่งไล่ผมยิ่งสู้โอเคไหม ใครจะสู้กับผม ไม่มีเลยหรือ ผมรู้ว่าท่านส่งใจให้ผมทุกคนอยู่แล้วขอบคุณครับ” นายกรัฐมนตรีกล่าว

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ข่าวแห่งปี 2567 : รวมฉ้อโกง “ดารา-คนดัง” ไม่รอด

ตลอดปี 2567 ยังมีผู้คนตกเป็นเหยื่อของกลโกง มิจฉาชีพ ที่มาในรูปแบบต่างๆ รวมถึงการลงทุนรูปแบบใหม่ๆ บางคนถึงขั้นสิ้นเนื้อประดาตัว และที่น่าตกใจเริ่มมีคนดังเข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีมากขึ้น

หมอชิต 2 คึกคัก ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาฉลองปีใหม่

บรรยากาศการเดินทางหมอชิต 2 คึกคัก ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวในช่วงหยุดยาวปีใหม่ ด้าน รฟท. คาดผู้โดยสารเดินทางขาออกวันนี้ 1 แสนคน

รถเริ่มแน่น! สายเหนือ-อีสาน การจราจรชะลอตัว

ประชาชนทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา หยุดยาวปีใหม่ ถ.พหลโยธิน มุ่งหน้าสายอีสาน รถแน่น ส่วนถนนสายเอเชีย ขึ้นเหนือ รถเคลื่อนตัวได้ช้า