“เท้ง” เย้ย “นายกรัฐมนตรี” ไม่ใช่ตัวจริง ไม่มีอำนาจคุมรัฐบาล

พรรคประชาชน 25 ก.พ.- “เท้ง” ปิดชื่อซักฟอก รมต. บอกรู้กันทีเดียว 27 กพ.นี้ เย้ย “นายกรัฐมนตรี” ไม่ใช่ตัวจริง ไม่มีอำนาจคุมรัฐบาล ชี้ รอยร้าวเกิดจาก “ผลประโยชน์-เกมการเมือง” ขอรอดูเลย เสียงซักฟอก รมต. รายคน จะสะท้อน “ทักษิณ-เนวิน” เคลียร์กันได้หรือไม่ หัวเราะหลังถูกถามจะมีเรื่อง “ที่ดิน” ของคนพรรคร่วมฯ หรือไม่ บอกถ้าพูดไปก็รู้ทันที


นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันที่ 27 กุมภาพันธ์นี้ ว่า ตัวญัตติไม่มีปัญหาอะไร คาดว่าน่าจะพร้อมยื่นในวันดังกล่าว ซึ่งขอให้รอดูทั้งตัวญัตติ รายชื่อรัฐมนตรี ในวันพฤหัสบดีนี้ ตนบอกได้แค่ว่าถ้าเปิดรายชื่อออกมา ก็จะเห็นถึงความเข้มข้นร้อนแรงในการอภิปรายมากกว่าทุกครั้งแน่นอน

ส่วนที่คนในพรรคร่วมรัฐบาล ส่งข้อมูลมาให้นั้น นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ก็มีมาเรื่อยๆ ทั้งส่วนที่เป็นระบบราชการประจำ รวมถึงฝั่งการเมือง ซึ่งเป็นข้อมูลหลายเรื่อง ที่แสดงออกถึงความขาดคุณสมบัติของรัฐมนตรี การทุจริตคอรัปชั่น รวมถึงปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน คอลล์เซ็นเตอร์ และปัญหาอื่นที่เห็นตามหน้าข่าว


เมื่อถามว่าส่วนราชการได้มีการส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับที่ดินความขัดแย้งของพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น นายณัฐพงษ์ หัวเราะ พร้อมกล่าวว่า “ถ้าบอกประเด็นนี้ก็น่าจะรู้ได้ทันทีว่ามีประเด็นไหนบ้าง”

นายณัฐพงษ์ ยังกล่าวย้ำว่า ตอนนี้วางตัวผู้อภิปรายไว้หลายคน ซึ่งในส่วนของพรรคประชาชน มีคนที่เข้าเนื้อเข้าหนังหลัก 10 คนขึ้นไปแน่นอน แต่ยังไม่อยากบอกรายละเอียดขนาดนั้น เราต้องปกป้องคนอภิปรายด้วย

เมื่อถามว่า ถ้าเปิดรายชื่อรัฐมนตรีออกมาแล้ว จะทำให้เกิดการล็อบบี้ซื้อเสียงหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า พรรคประชาชนเลือกอภิปราย ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับรัฐมนตรีจริงๆ ในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาล การยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจแต่ละครั้ง ย่อมต้องส่งแรงกระเพื่อมในพรรคร่วมรัฐบาลเอง ซึ่งพรรคประชาชนก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่สิ่งที่ประชาชนอยากเห็น คือ การตอบชี้แจงอย่างตรงไปตรงมาของรัฐมนตรีในสภาฯ มากกว่า ส่วนเกมการเมืองในฝั่งพรรคร่วมจะเป็นอย่างไร พวกเราไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย


ส่วนที่ฝั่งรัฐบาล หลายคนออกมาพูดว่าเร็วเกินไปที่จะอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลนั้น นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ถ้าคิดว่าเร็วไปตนก็คิดว่า รัฐมนตรีหรือนายกรัฐมนตรีอาจจะยังไม่พร้อมทำหน้าที่ เพราะผ่านเวลามาหลายเดือนแล้ว พรรคเพื่อไทยก็ขึ้นมาบริหารครึ่งเทอมแล้วเช่นกัน เพราะฉะนั้นปฏิเสธไม่ได้ว่าตัวนายกรัฐมนตรีจะสามารถมาตอบชี้แจงในสภาฯ ได้ด้วยตัวเอง ตนไม่อยากให้นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้รัฐมนตรีคนอื่นมาตอบแทน

เมื่อถามว่ามองการทำงานของนายกรัฐมนตรีอย่างไร นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า หลายอย่างเราไม่เห็นความชัดเจนจากตัวนายกฯ มีการโยนกันไปโยนกันมาระหว่างพรรคร่วมด้วยกันเอง ซึ่งประชาชนไม่อยากเห็น เราอยากเห็นนายกฯ ที่กล้าออกมาใช้อำนาจที่ตัวเองมี เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน

เมื่อถามถึงรอยร้าวรัฐบาลและท่าทีการตอบคำถามของนายกรัฐมนตรีเมื่อวานนี้ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตัวนายกฯ มีอำนาจในการยุบสภาฯ ดังนั้นการควบคุมเสียงพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันเอง นายกฯ ย่อมมีอำนาจเต็ม ในการควบคุมเสียงของรัฐบาลอยู่แล้ว แต่สถานะตอนนี้ นายกฯ ก็ไม่ใช่ผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจตัวจริง เลยไม่สามารถควบคุมเสียงในรัฐบาลได้ รอยร้าวที่เกิดขึ้นเกิดจากการต่อรองผลประโยชน์ การปัดความรับผิดชอบในพรรคร่วม

ผู้สื่อข่าว ถามย้ำว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ไม่ใช่นายกรัฐมนตรีตัวจริงใช่หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เราก็เห็นกันอยู่แล้วว่าใครเป็นผู้มีอำนาจตัวจริงในการบริหารประเทศในปัจจุบัน ซึ่งเวทีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะเป็นเวทีที่ทำให้นายกฯ ได้พิสูจน์ตัวเอง ถ้ามาตอบชี้แจงด้วยตัวเอง ก็จะมีภาวะความเป็นผู้นำมากขึ้นในสายตาประชาชน

เมื่อถามว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะนำไปสู่การปรับคณะรัฐมนตรีได้มากน้อยแค่ไหน นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เป็นไปได้สูงที่การอภิปรายไม่ไว้วางใจแต่ละครั้ง จะเกิดการต่อรองในพรรคร่วม อาจไม่ต้องถึงขั้นโหวตไม่ไว้วางใจ แต่จำนวนเสียงที่แตกต่างกันของแต่ละรัฐมนตรี ก็มีความหมาย พรรคประชาชนเน้นที่ประเด็นเนื้อหาส่วนเกมการเมืองก็เป็นเรื่องของพรรคร่วม

เมื่อถามถึงการที่ นายเนวิน ชิดชอบ และนายทักษิณ ชินวัตร มีนัดเคลียร์ใจกัน เพื่อสยบรอยร้าวในพรรคร่วม นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ควรมีวาระที่จะมานั่งเคลียร์ใจกัน ถ้าถูกพรรคร่วมรัฐบาลตั้งใจที่จะผลักดัน นโยบายที่แถลงไว้ต่อรัฐสภาให้สำเร็จ แต่กลายเป็นว่าสภาพการเมืองตอนนี้เป็นเพราะการจัดตั้งรัฐบาลแบบนี้มาตั้งแต่แรก ทำให้กลายเป็นการต่อรองผลประโยชน์เป็นเกมทางการเมือง จึงทำให้ไม่สามารถผลักดันนโยบายได้

“ผมว่าไปดูที่ผลโหวต ตัวเลขอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี ดีกว่าจะเป็นคำตอบว่าเคลียร์กันได้หรือเคลียร์กันไม่ได้ มากกว่าการจัดดินเนอร์พรรคร่วมวันนี้” นายณัฐพงษ์กล่าว

นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการพูดคุยระหว่างฝ่ายค้านและวิปรัฐบาลว่าจะใช้เวลาอภิปรายกี่วัน เราขอไป 5 วันอย่างน้อยควรจะได้ 4 วัน แต่เห็นรัฐบาลจะให้เราแค่ 2 วัน ก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น โดยเราก็ได้เตรียมการไว้อยู่แล้ว.-312 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ไทยฝนเพิ่มขึ้น ตกหนักบางแห่ง

กทม. 10 ส.ค.-กรมอุตุฯ รายงานไทยฝนเพิ่มขึ้น ตกหนักบางแห่งบริเวณภาคอีสาน ตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก คลื่นลมทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% ของพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวตอนบนและประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนจะมีกำลังค่อนข้างแรง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. วันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ […]

รฟท.เร่งกู้รถไฟตกรางที่กุยบุรี คาดเสร็จภายในเที่ยงคืนนี้

ประจวบคีรีขันธ์ 9 ส.ค. – รฟท.เร่งกู้รถไฟตกรางที่กุยบุรี คาดเสร็จสิ้นภายในเที่ยงคืนนี้ ด้าน พฐ.ร่วมตรวจหาสาเหตุตกรางกับนายช่างรถไฟ สันนิษฐานเบื้องต้นนอตล็อกประแจสับรางหลุด ส่วนผู้บาดเจ็บ 10 ราย ออกจาก รพ.แล้ว ความคืบหน้าเหตุรถไฟขบวนด่วนพิเศษ สุไหงโก-ลก ปาดังเบซาร์ ปลายทางสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ประสบอุบัติเหตุตกราง ก่อนถึงสถานีรถไฟกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ประมาณ 100 เมตร เหตุเกิดเมื่อช่วงตี 5 วันนี้ โดยตู้โดยสารที่เกิดเหตุคือ 3 ตู้สุดท้าย 10-12 ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 10 คน นำส่งโรงพยาบาลกุยบุรี ผู้โดยสารตู้ที่ตกราง เจ้าหน้าที่จัดรถบัสนำส่งต่อไปยังจุดหมายปลายทาง ส่วนตู้โดยสารที่ไม่ตกราง เดินทางต่อจนถึงสถานีกรุงเทพอภิวัฒน์ ล่าสุดตำรวจ สภ.กุยบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ลงพื้นที่ตรวจหาสาเหตุรถไฟตกราง ร่วมกับนายช่างวิศวกรของการรถไฟฯ อีกครั้ง จากการตรวจสอบสันนิษฐานเบื้องต้นคาดว่าเกิดจากนอตยึดอุปกรณ์ประแจตัวสับรางหลุด ขณะที่ขบวนรถไฟวิ่งผ่านไปแล้ว 9 ตู้ เหลือ 3 ตู้สุดท้าย ทำให้ไม่สามารถบังคับให้วิ่งตามไปด้วยกันได้ จึงถูกกระชากหลุดด้วยแรงเฉื่อยของความเร็วรถไฟแล้วตกจากราง หรืออาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ […]

“บุ๋ม” รับผ้ายันต์-เหรียญครุฑ หลวงพ่อวราห์ แจกทหารชายแดน

9 ส.ค. – “บุ๋ม ปนัดดา” เริ่มภารกิจโฆษกจิตอาสา ศบ.ทก. วันแรก เข้ารับผ้ายันต์-เหรียญครุฑ จากหลวงพ่อวราห์ นำไปมอบให้ทหารชายแดนไทย-กัมพูชา สร้างขวัญกำลังใจแนวหน้า บุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี โฆษกจิตอาสา ศบ.ทก. ที่ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ หรือบิ๊กเล็ก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แต่งตั้ง เข้าพบหลวงพ่อวราห์ พระเทพวชิระวิทยานุสิฐ วราห์ ปุญฺญวโร ตำนานผู้สร้างพญาครุฑ เพื่อรับผ้ายันต์และเหรียญครุฑ ไปแจกให้ทหารตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจทหารแนวหน้า บุ๋ม ปนัดดา กล่าวว่า ได้รับการประสานจากหลวงพ่อวราห์ ให้เข้ามารับผ้ายันต์และเหรียญครุฑ นำไปมอบให้กับทหารชายแดน เพราะทหารต้องการขวัญและกำลังใจ ดังนั้น อะไรที่ทำให้ทหารอุ่นใจและมีกำลังใจก็จะทำให้ สำหรับผ้ายันต์หลวงพ่อวราห์ แห่งวัดโพธิ์ทอง บางมด กรุงเทพฯ ผ้ายันต์รุ่นบูชาครู จำนวน 2,000 ผืน และเหรียญครุฑ รุ่นเฉพาะกิจ จำนวน 2,000 เหรียญ ที่บุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี […]

“มาริษ” เผยเห็นภาพชัดขึ้น หลังลงพื้นที่เสียหาย จ.สุรินทร์

สุรินทร์ 9 ส.ค.- “มาริษ” เผยเห็นภาพชัดขึ้น หลังลงพื้นที่ จ.สุรินทร์ สำรวจความเสียหายจากการโจมตีของกัมพูชา เตรียมใช้เป็นข้อชี้แจงนานาชาติ กัมพูชาใช้อาวุธระยะไกลโจมตีพื้นที่พลเรือน ยันพร้อมประสานให้ ICRC – UN มาดูพื้นที่ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนภายหลังการลงพื้นที่สำรวจความเสียหายที่จังหวัดสุรินทร์ จากเหตุการณ์ปะทะกันตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา ว่า เรื่องข้อมูลของการละเมิดสิทธิ และละเมิดกฎสหประชาชาติกฎหมายระหว่างประเทศของกัมพูชา เรามีข้อมูลครบถ้วนอยู่แล้ว เมื่อวันนี้ได้มาเห็นสภาพจริง และมาเก็บข้อมูลเพิ่มเติม ได้เห็นภาพนอกเหนือจากข้อมูล ก็เป็นภาพที่เห็นชัดเจน รวมถึงการบรรยายสรุปของผู้ว่าราชการจังหวัด เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ที่อธิบายให้เห็นการโจมตีเป้าหมายที่ห่างไกลออกจากเขตแดน ซึ่งตนเองใช้เป็นข้อชี้แจงกับนานาชาติ และองค์กรสหประชาชาติว่าการใช้ประเภทอาวุธระยะไกลของฝ่ายกัมพูชาจะทำให้เกิดปัญหา และจะทำให้ประชาชนพลเรือนได้รับผลกระทบโดยตรง ซึ่งเป็นการโจมตีเป้าหมายไปยังพลเรือน แต่ยังไม่สามารถเข้าไปดูพื้นที่กับระเบิด และวันนี้ทราบว่ามีทหารเหยียบกับระเบิดที่วางอยู่ตามแนวชายแดน โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศชี้แจง และแสดงความผิดหวัง และไม่ปราถนาที่จะเห็นผลกระทบที่เกิดขึ้นในช่วงการเจรจา เพื่อแก้ไขปัญหาระหว่างกันให้สำเร็จอย่างยั่งยืน ส่วนนี้เราจะแสดงจุดยืนที่ไม่เห็นด้วยกับการใช้อาวุธ หรือทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ที่ละเมิดอนุสัญญาออตตาวา อย่างชัดเจน นายมาริษ กล่าวว่าการเดินทางมาครั้งนี้ ได้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้นในสิ่งที่เราเรียกร้องมาโดยตลอด ว่าเราทำตนอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศ เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว และได้แสดงตนให้ประชาคมโลก […]