ผบ.ตร.เผยนายกฯ เรียกถกมาตรการสกัดบุหรี่ไฟฟ้า

ทำเนียบ 26 ก.พ.- ผบ.ตร. เผยนายกฯ เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหามาตรการป้องกันปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้า สกัดการนำเข้า ส่งชุดสืบสวนตรวจสอบรอบสถานศึกษา ลั่นมีกฎหมายเข้ม-โทษชัดเจน สั่งฟันหากพบ ตร.-ขรก.เอี่ยว มีโทษทั้งวินัยและอาญา


พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวภายหลังนายกรัฐมนตรีเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหามาตรการป้องกันปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้า โดยระบุว่า นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญกับการป้องกันและปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้า เนื่องจากเป็นมติ ครม. ตั้งแต่เดือน เม.ย.67 โดยในส่วนของการปฎิบัติตำรวจได้มีการสืบสวนป้องกันปราบปรามมาโดยตลอด ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำ 2 เรื่อง คือ การสืบสวนจับกุม การนำเข้า โดยให้ตำรวจบูรณาการกับศุลกากร ซึ่งถ้าป้องกันการนำเข้าได้ก็จะทำให้บุหรี่ไฟฟ้าลดลง และยังเน้นย้ำกรณีที่หลุดจากการป้องกันการนำเข้าแล้วนำมาซุกซ่อน พักพิงและจำหน่าย

ส่วนกรณีของผู้ใช้อยู่ในขั้นตอนของการประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชน ส่วนกรณีที่มีการระบาดไปยังพื้นที่สถานศึกษา พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำมากเช่นกัน ซึ่งขณะนี้ พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) เป็นผู้รับผิดชอบ โดยมาตราการป้องกันปราบปรามของตำรวจก็เน้นไปที่สถานศึกษาด้วย ซึ่งในปี 2567 มีการจับกุมเกือบ 2,000 คดี และในปี 2568 ก็มีการจับกุมอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีการรับแจ้งเบาะแสจากประชาชนเข้ามาโดยตลอด และฝากเตือนไปยังผู้ที่เข้าใจผิดเกี่ยวกับเรื่องบุหรี่ไฟฟ้าไม่มีกฎหมายบังคับใช้ จริงๆมีข้อกฎหมายเรื่องนี้อยู่แล้ว หากจำหน่าย นำเข้าหรือซุกซ่อน หรือทำผิดกฎหมายมีโทษจำคุก ซึ่งตำรวจมีข้อมูลบางส่วนแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการปราบปรามจับกุม


เมื่อถามว่า ควรจะมีชุดเฉพาะกิจบริเวณหน้าสถานศึกษาหรือไม่เนื่องจากขณะนี้ปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าลุกลามไปถึงเด็กประถม พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า เรื่องชุดเฉพาะกิจ ขณะนี้พล.ต.อ. ประจวบรับผิดชอบอยู่ รวมถึงมีผู้ช่วยผบ.ตร.คนอื่นๆดูแลตามที่ได้รับมอบหมาย โดยในการปฏิบัติการได้ให้ชุดสืบสวนภูธรจังหวัด ชุดสืบสวนกองบังคับการตำรวจนครบาลที่เป็นชุดปฏิบัติการรับผิดชอบ เข้าไปตรวจสอบตามนโยบายและการสั่งการ โดยตนได้กำชับว่า ให้ทำอย่างเข้มข้นรอบสถานศึกษาหากพบการแอบจำหน่ายหรือมีแหล่งพักพิงต้องจับกุมทั้งหมด

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังกล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันได้เข้มข้นกับตำรวจหรือข้าราชการ หากพบมีส่วนรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องจะดำเนินการทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาด ซึ่งเรื่องนี้ได้มีการออกหนังสือตั้งแต่ปี 2567 พร้อมย้ำว่า ใครที่บอกว่ายังไม่มีกฎหมายจับไม่ได้นั้นไม่ใช่ เรื่องนี้มีกฎหมายชัดเจนทั้งนำเข้า ครอบครอง จำหน่าย และการใช้

ส่วนกรณีที่มีข้อสั่งการให้กลับมารายงานความคืบหน้าภายใน 15 วัน จะได้เห็นผลในด้านใดบ้าง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า จะเห็นผลด้านการปราบปราม โดยในระยะเวลา 1 เดือนจะมีการประเมิน โดยให้น.ส.จิราพร สินธุไพรรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งจะมีการประชุมทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในช่วงบ่ายวันพรุ่งนี้เพื่อหารือ และดำเนินมาตรการเชิงรุกในการปราบปราม


พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ยังเปิดเผยด้วยว่า นายกรัฐมนตรีได้สอบถามเรื่องปัญหาคอลเซ็นเตอร์ โดยพล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ก็ได้รายงานข้อมูลต่อนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับเรื่องที่กระทบความเป็นอยู่และสภาพเศรษฐกิจของประชาชน ซึ่งเรื่องบุหรี่ไฟฟ้าก็เป็นเรื่องของสุขภาพด้วย และอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศด้วย .-316 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สั่งย้ายครูแบทแมน

สั่งเด้ง “ครูแบทแมน” ถ่ายคลิปไม่เหมาะสมในโรงเรียน

กัน จอมพลัง บุก ก.ศึกษาธิการ ร้องเอาผิดครูชายสวมหน้ากากแบทแมน ถ่ายคลิปไม่เหมาะสมในโรงเรียน จ.อุทัยธานี ล่าสุดสั่งย้าย “ผอ.โรงเรียน-ครูแบทแมน” เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ด้าน “สส.ชาดา-กัน จอมพลัง” ลงพื้นที่ ขีดเส้นตายสอบเอาผิด

แม่อดีตครูสาว ยังติดใจสาเหตุ หลังพบศพในรถลานจอด รพ.

“น้องกิ๊ฟ” อดีตครูหายตัวไปเกือบ 1 เดือน พบอีกทีเป็นร่างไร้วิญญาณในรถยนต์บนลานจอดของโรงพยาบาล ญาติยังติดใจสาเหตุวอนตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิด ไขข้อสงสัย

สั่งจำคุก “อัจฉริยะ” 2 เดือน ไม่รอลงอาญา คดีละเมิดอำนาจศาล

ศาลอาญาสั่งจำคุก “อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์” 2 เดือน ไม่รอลงอาญา ฐานละเมิดอำนาจศาล เผยแพร่เอกสารสรุปย่อคำพิพากษาต่อสื่อมวลชนโดยไม่ได้รับอนุญาต

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เรียก “รมต.จิราพร-ผบ.ตร.” ถกปราบบุหรี่ไฟฟ้า

“แพทองธาร” นายกฯ เรียก “รมต.จิราพร-ผบ.ตร.” ประชุมปราบปราม “บุหรี่ไฟฟ้า” ขีดเส้น 30 วัน ดำเนินการให้เด็ดขาด สั่งเข้มห้ามขายใกล้สถานศึกษา ต้องจัดการผู้นำเข้า

รถบัสดูงานคว่ำ

เร่งหาสาเหตุรถบัสคณะดูงานบึงกาฬ พลิกคว่ำทางลงเขาศาลปู่โทน

เจ้าหน้าที่เร่งกู้ซากรถบัสคณะดูงานเทศบาลบึงกาฬ เสียหลักพลิกคว่ำบริเวณทางลงเขาศาลปู่โทน จ.ปราจีนบุรี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 18 คน บาดเจ็บอีกจำนวนมาก พร้อมเร่งหาสาเหตุของอุบัติเหตุ หลังมีรายงานว่าตอนลงเขารถบัสใช้ความเร็วเกิน 100 กม./ชม.

ดราม่ายิว

“มท.1” ลงพื้นที่โบสถ์ชาบัด ด้านผู้นำศาสนายูดาห์ ลั่นไม่เคยคิดยึดปาย

“มท.1” ลงพื้นที่โบสถ์ชาบัด เมืองปาย หลังมีกระแสข่าวชาวอิสราเอลตั้งถิ่นฐาน-ก่อความวุ่นวาย ด้านผู้นำศาสนายูดาห์ ลั่นประเทศไทยเป็นของคนไทย ไม่เคยคิดยึดปาย รับเสียใจคนเข้าใจผิด ทั้งที่คนอิสราเอลชอบประเทศไทยและคนไทย

รถบัสคว่ำ

รถบัสดูงานจากบึงกาฬ พลิกคว่ำดับ 18 – คนขับอ้างไม่ชินทาง

รถบัสทัศนศึกษาดูงานจากบึงกาฬ พลิกคว่ำทางลง “เขาศาลปู่โทน” ปราจีนฯ เสียชีวิต 18 คน บาดเจ็บกว่า 30 คน เบื้องต้นคนขับอ้างไม่ชินทาง