WHO เปลี่ยนชื่อโควิดกลายพันธุ์โดยใช้อักษรกรีก

เจนีวา 1 มิ.ย. – องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศเมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่นว่า จะใช้ตัวอักษรกรีกเรียกแทนชื่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่ปรับปรุงสายพันธุ์ใหม่ เพื่อเลี่ยงการตีตราประเทศที่พบการระบาดเป็นครั้งแรก


องค์การอนามัยโลกเผยว่า ระบบเรียกชื่อใหม่ดังกล่าวจะนำมาใช้กับเชื้อโควิดกลายพันธุ์ในระดับน่ากังวล ซึ่งมีอยู่ 4 สายพันธุ์ที่กำลังแพร่ระบาดรุนแรง รวมถึงเชื้อโควิดกลายพันธุ์ระดับน่าสนใจ ซึ่งเป็นระดับรองลงมาและต้องเฝ้าระวัง ทั้งนี้ ระบบดังกล่าวใช้ชื่อเรียกเชื้อโควิดกลายพันธุ์ต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ เชื้อโควิดสายพันธุ์ B.1.1.7 หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ เชื้อโควิดสายพันธุ์อังกฤษ จะใช้ชื่อว่า แอลฟา (Alpha) เชื้อโควิดสายพันธุ์ B.1.351 หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ เชื้อโควิดสายพันธุ์แอฟริกาใต้ จะใช้ชื่อว่า บีตา (Beta) และเชื้อโควิดสายพันธุ์บราซิเลียน P.1 จะใช้ชื่อว่า แกมมา (Gamma) ขณะที่เชื้อโควิดสายพันธุ์ B.1.617 หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ เชื้อโควิดสายพันธุ์อินเดีย ได้แบ่งออกเป็นหลายสายพันธุ์ย่อย แต่สายพันธุ์ระดับน่ากังวลคือ B.1.617.2 จะใช้ชื่อว่า เดลตา (Delta) และสายพันธุ์ระดับน่าสนใจคือ B.1.617.1 จะใช้ชื่อว่า แคปปา (Kappa)

นอกจากชื่อดังกล่าวแล้ว ยังมีชื่อเรียกทางวิทยาศาสตร์อื่น ๆ อีก 2 ชื่อที่ใช้เรียกเชื้อโควิดกลายพันธุ์ ขณะที่ชื่อเรียกทางภูมิศาสตร์ที่แตกต่างกันยังคงนำมาใช้เรียกชื่อเชื้อโควิดกลายพันธุ์ในสายพันธุ์เดียวกันได้ เช่น ในอังกฤษจะไม่เรียกชื่อเชื้อโควิดสายพันธุ์อังกฤษตามประเทศอื่น ๆ แต่จะเรียกว่า เชื้อโควิดสายพันธุ์เคนต์ ซึ่งเป็นชื่อเมืองที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของอังกฤษและพบการระบาดของสายพันธุ์ดังกล่าวเป็นครั้งแรก ทั้งนี้ ชื่อสายพันธุ์ของเชื้อโควิด เช่น B.1.1.7.2 จะยังคงใช้เรียกในแวดวงวิทยาศาสตร์ต่อไป เพื่อสื่อถึงข้อมูลการกลายพันธุ์


องค์การอนามัยโลกยังระบุในแถลงการณ์ว่า แม้ชื่อทางวิทยาศาสตร์จะมีข้อดี แต่ก็ยากต่อการเรียกและจดจำ อีกทั้งยังทำให้เกิดการรายงานผิดพลาด ผู้คนจึงมักหันไปใช้ชื่อเรียกเชื้อโควิดกลายพันธุ์ตามสถานที่พบการระบาดเป็นครั้งแรก ซึ่งถือเป็นการตีตราและเลือกปฏิบัติ ดังนั้น องค์การอนามัยโลกขอให้ทางการประเทศต่าง ๆ สื่อมวลชน และผู้คนทั่วโลกปรับมาใช้ชื่อใหม่ เพื่อเลี่ยงปัญหาที่ระบุไว้ข้างต้นและให้ง่ายต่อการสื่อสารต่อสาธารณชน. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง