กทม.18 พ.ค.- ตำรวจค้านประกัน “ประสิทธิ์ เจียวก๊ก” นักธุรกิจชื่อดัง ชี้คดีมีผู้เสียหายมาก หวั่นหลบหนี นำตัวฝากขังผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ แจงยังไม่พบผิด ม.112
พนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ หรือ บก.ปอศ. ดำเนินการยื่นคำร้องฝากขังนายประสิทธิ์ เจียวก๊ก นักธุรกิจชื่อดัง ที่ควบคุมตัวอยู่ที่กองบังคับการปราบปราม ต่อศาลอาญา ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเร้นซ์ แล้ว หลังจากทึ่นายประสิทธิ์เข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายจับคดีที่ร่วมกับพวกรวม 6 คน ฉ้อโกงประชาชน หลอกลงทุนในหลากหลายรูปแบบ มูลค่าความเสียหายกว่า 1,000 ล้านบาท
พ.ต.อ.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ รองผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ หรือ บก.ปอศ. เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ศาลอาญาเพื่อขอฝากขังนายประสิทธิ์ ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ไปแล้ว พร้อมกับได้ยื่นคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีที่มีผู้เสียหายและมีมูลค่าเสียหายจำนวนมาก ประกอบกับนายประสิทธิ์ถือเป็นผู้ต้องหาคนสำคัญ เกรงว่าจะยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน เเละอาจจะหลบหนีได้ หลังจากนี้ต้องรอฟังคำสั่งจากศาลว่าจะมีคำสั่งออกมาอย่างไร หากศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ประกันตัว ก็จะดำเนินการปล่อยตัวจากที่กองบังคับการปราบปรามได้ทันที แต่หากไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว เจ้าหน้าที่ก็จะควบคุมตัวไปส่งควบคุมไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครต่อไป
ส่วนการสอบสวนปากคำนายประสิทธิ์ เบื้องต้นให้การรับสารภาพแค่ว่าเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ และเป็นประธานบริษัทดังกล่าวจริง และมีอำนาจในการลงนามช่วงที่เกิดเหตุ ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ทั้งประเด็นเรื่องการลงทุน การชักชวนผู้เสียหาย ไม่ขอให้การในชั้นพนักงานสอบสวน ซึ่งก็เป็นไปตามคาดการณ์ ส่วนการติดตามจับกุมตัวนายกิตติศักดิ์ เย็นนานนทน์ รองประธานกรรมการบริหารบริษัทในเครือ เอ็มกรุ๊ป ที่ยังอยู่ระหว่างการหลบหนี ทราบว่านายประสิทธิ์ ระบุว่าจะเป็นผู้ประสานให้เข้ามอบตัว ซึ่งคาดว่าน่าจะอยู่ระหว่างการตั้งหลักก่อนเข้าพบพนักงานสอบสวน แต่อย่างไรก็ตามชุดจับกุมของกองปราบปราม ก็ยังอยู่ระหว่างการสืบสวนติดตามจับกุมอีกทางหนึ่งด้วย
อย่างไรก็ตาม สำหรับประเด็นที่วานนี้นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะผู้รับมอบอำนาจจากผู้เสียหาย 30 คน ที่นำหลักฐานต่างๆ รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 70 ล้านบาท เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายประสิทธิ์ เพิ่มเติม และอ้างว่ามีข้อมูลที่อาจจะเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 112 จากการสอบถามพนักงานสอบสวน ทราบว่าในการรับแจ้งความยังไม่พบมีประเด็นดังกล่าวในการให้การ ทั้งจากตัวนายแทนคุณ และผู้เสียหายกว่า 20 คน ที่พามาพบพนักงานสอบสวน.-สำนักข่าวไทย