ศปถ.เผยสงกรานต์วันแรก อุบัติเหตุ 348 ครั้ง ตาย 25 เจ็บ 356

ปภ. 11 เม.ย. – ศปถ.ประสานจังหวัดเข้มข้นดูแลความปลอดภัยเส้นทางเชื่อมต่อสู่ภูมิภาค พบอุบัติเหตุ 348 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 25 ราย ผู้บาดเจ็บ 356 ราย โดยการขับรถเร็วยังคงเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด รองลงมาดื่มแล้วขับ กำชับด่านตรวจยานพาหนะและความพร้อมผู้ขับขี่ ควบคู่เฝ้าระวังโควิด-19


นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะเลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) เปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2564 โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และความร่วมมือของหน่วยงานภาคีเครือข่าย ได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนน ประจำวันที่ 10 เมษายน 2564 ซึ่งเป็นวันแรกของการรณรงค์ “สงกรานต์สุขใจ ขับขี่ปลอดภัย ห่างไกลโควิด” เกิดอุบัติเหตุ 348 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 25 ราย ผู้บาดเจ็บ 356 ราย สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็ว ร้อยละ 31.61 ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 22.99

ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 82.91 ส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง ร้อยละ 63.22 ถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 39.94 ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 33.91


ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 16.01-20.00 น. ร้อยละ 27.87 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุด อยู่ในช่วงอายุ 50 ปีขึ้นไป ร้อยละ 32.81

ทั้งนี้ ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 1,913 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 60,201 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 342,028 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 58,372 ราย มีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 14,852 ราย ไม่มีใบขับขี่ 16,125 ราย โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ พัทลุง (20 ครั้ง)

จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ชลบุรี เชียงใหม่ (จังหวัดละ 2 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ พัทลุง (22 คน)


ทั้งนี้ ในวันนี้ (11 เม.ย.) เส้นทางหลายสายยังคงมีปริมาณรถหนาแน่นต่อเนื่องตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยเฉพาะเส้นทางเชื่อมต่อไปยังภูมิภาคต่างๆ และเส้นทางเลี่ยงเมือง จึงได้ประสานจังหวัดดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชน ควบคู่กับการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กำชับจุดตรวจเพิ่มความเข้มข้นในการเรียกตรวจยานพาหนะและความพร้อมของผู้ขับขี่ เน้นการบังคับใช้กฎหมายอย่างต่อเนื่องกับผู้ขับขี่ที่ใช้ความเร็วเกินกำหนด ดื่มแล้วขับ อย่างไรก็ตาม บางพื้นที่ยังคงเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ทำให้ถนนเปียกลื่น และทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทางลดลง จึงขอให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังในการขับรถเป็นพิเศษ และปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด เพื่อให้การเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์มีความปลอดภัย. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

แม่อดีตครูสาว ยังติดใจสาเหตุ หลังพบศพในรถลานจอด รพ.

“น้องกิ๊ฟ” อดีตครูหายตัวไปเกือบ 1 เดือน พบอีกทีเป็นร่างไร้วิญญาณในรถยนต์บนลานจอดของโรงพยาบาล ญาติยังติดใจสาเหตุวอนตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิด ไขข้อสงสัย

บอร์ดคดีพิเศษ เลื่อนโหวตคดีฮั้วเลือก สว.

บอร์ดคดีพิเศษ เลื่อนโหวตคดีฮั้วเลือก สว. เชิญประธาน กกต. ชี้แจง 5 มี.ค. ก่อนเคาะอีกครั้ง 6 มี.ค. เสียงแตก แย้งให้ส่งอนุกรรมการกลั่นกรองคดีพิเศษตามขั้นตอนก่อน ขณะที่กรรมการบางส่วน เสนอรับเฉพาะที่เกี่ยวกับคดีอาญา “ภูมิธรรม” ยันไม่กระทบสัมพันธ์พรรคร่วม “เพื่อไทย-ภูมิใจไทย”

ดินเนอร์พรรคร่วมฯ เริ่มแล้ว “อนุทิน” ขอทุกคนอเมริกันแชร์ค่าอาหาร

ดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาลเริ่มแล้ว “อนุทิน” ขอทุกคนอเมริกันแชร์ค่าอาหารหัวละ 7,000 บาท เหตุค่าโรงแรมสูง ก่อนเสิร์ฟสปาเกตตี้ซอสเนื้อ

ค้นพบโครงกระดูกมนุษย์ อายุกว่า 29,000 ปี พื้นที่เขาสามร้อยยอด

กรมอุทยานแห่งชาติฯ ร่วมกับกรมศิลปากร แถลงข่าวค้นพบโครงกระดูกมนุษย์ยุคน้ำแข็งโบราณ อายุกว่า 29,000 ปี เก่าแก่ที่สุดในไทย ในพื้นที่ อช.เขาสามร้อยยอด เตรียมพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรมเชื่อมโยงเส้นทางท่องเที่ยวธรรมชาติ