ในหลวง-พระราชินี ทรงเปิดสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ และสวนจากภูผาสู่มหานที

25 ก.พ. – พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ และสวนจากภูผาสู่มหานที

วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 17 นาฬิกา 24 นาที พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ เขตจตุจักร ทรงเปิดสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ สวนพฤกษศาสตร์สากล มาตรฐาน BGCI (Botanic Gardens Conservation International) และสวนจากภูผาสู่มหานที

ในการนี้ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระรัตนตรัย ทรงศีล เมื่อประธานสงฆ์ถวายศีล จบ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นางนฤมล ล้อมทอง กรรมการและผู้ช่วยเหรัญญิกมูลนิธิสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ และนางวันทนีย์ วัฒนะ กรรมการมูลนิธิฯ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายสูจิบัตร จากนั้น ท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ทีขะระ กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิฯ กราบบังคมทูลสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ กราบบังคมทูลรายงานความเป็นมาและวัตถุประสงค์ของการจัดงาน

จบแล้ว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงกดปุ่มไฟฟ้าเปิดป้ายสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ สวนพฤกษศาสตร์สากล มาตรฐาน BGCI และสวนจากภูผาสู่มหานที แล้วเสด็จเข้าพลับพลาพิธีฯ ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมถวายพระสงฆ์ ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก

โอกาสนี้ ทอดพระเนตรการแสดงดนตรีโดยวงเฉลิมราชย์ ควบคุมวงโดยนายวิรัช อยู่ถาวร ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีสากล) พุทธศักราช 2560 ในเพลงต้นไม้ของพ่อ ขับร้องโดย นายธงไชย แมคอินไตย์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไทยสากล-ขับร้อง) พุทธศักราช 2565 ร่วมกับ ศิลปินนักร้องจากโรงมหรสพหลวง ศาลาเฉลิมกรุง พร้อมการแสดงประกอบเพลงจากคณะนักแสดงโขนศาลาเฉลิมกรุง และคิดบวกสิปป์ กำกับการแสดงโดย นายยุทธนา และนายกล้ากูล อัครเดชานัฏ นักแสดงโขน ศาลาเฉลิมกรุงรุ่นแรก ประกอบด้วย องก์ที่ 1 เปิดป่า, องก์ที่ 2 หยั่งรากพระบารมี, องก์ที่ 3 พฤกษชาติรื่นรมย์, องก์ที่ 4 ส่งต่อพระราชปณิธาน และองก์ที่ 5 พระเมตตาบารมี รัชกาลที่ 10 รวมทั้ง เพลงตามรอยความดี บทเพลงที่ประพันธ์ขึ้น เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567

จากนั้น ทอดพระเนตรแบบจำลองและนิทรรศการสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ สวนพฤกษศาสตร์สากล มาตรฐาน BGCI และสวนจากภูผาสู่มหานที ซึ่งสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ คณะรัฐมนตรีได้น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพื้นที่ จำนวน 200 ไร่ แด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ 12 สิงหาคม 2535 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชปณิธานในการสืบสาน รักษา ต่อยอดพระราโชบายของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่มีรูปแบบการจัดสวนเป็นไปตามหลักระบบนิเวศ และความหลากหลายของพืชพรรณ เช่นเดียวกับผืนป่าในธรรมชาติ ให้เป็น “ป่าเล็กในเมืองใหญ่” ที่สมบูรณ์ สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ จึงมีลักษณะเป็นสวนป่า สวนดอกไม้สวยงาม ร่มรื่น เป็นสถานที่พักผ่อน เป็นปอดให้กับคนกรุงเทพมหานคร รวมทั้ง เป็นแหล่งเรียนรู้และศึกษาวิจัยพรรณไม้ สำหรับเด็ก เยาวชน และประชาชนทั่วไป เพื่อเป็นการปลูกฝังให้ทุกคนช่วยกันรักษาระบบนิเวศ และอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมต่อไป จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้แต่งตั้ง คณะกรรมการมูลนิธิสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ให้พัฒนาและดูแลรักษาสวนแห่งนี้ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

ทั้งนี้ คณะกรรมการมูลนิธิฯ ได้พัฒนาสวนในทุกด้าน เพื่อก้าวสู่การเป็นสวนพฤกษศาสตร์ที่สมบูรณ์ตามข้อกำหนดมาตรฐานขององค์การสวนพฤกษศาสตร์สากล หรือ BGCI ซึ่งสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ได้รับการรับรองเป็นสวนพฤกษศาสตร์สากล มาตรฐาน BGCI เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2567 เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยเป็นสวนพฤกษศาสตร์มาตรฐานสากลแห่งแรกในกรุงเทพมหานคร และเป็นแห่งที่ 3 ของประเทศไทย

ส่วนสวนจากภูผาสู่มหานที มูลนิธิสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ร่วมกับ กรุงเทพมหานคร จัดสร้างขึ้นบนเนื้อที่ 26 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่ว่างผืนสุดท้ายใน 200 ไร่ เชื่อมต่อกับสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ น้อมนำพระราชกรณียกิจด้านการอนุรักษ์ป่าของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และแนวพระราชเสาวนีย์ “ปลูกป่าในใจคน” มาเป็นแนวความคิดหลักในการออกแบบ รวมทั้งเพื่อบอกเล่าถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร, พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว, สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และพระบรมวงศ์ทุกพระองค์ ที่เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรทั่วทุกภาคของประเทศ และพระราชทานโครงการพระราชดำริ เพื่อประโยชน์สุขแก่ปวงชนชาวไทย

สวนจากภูผาสู่มหานที เป็นสถานที่เก็บรวบรวมพรรณไม้นานาพันธุ์จากทั่วประเทศ รวมถึงพรรณไม้ทรงปลูกในสถานที่ต่าง ๆ ตั้งแต่พรรณไม้บนที่สูง จนถึงพรรณไม้ในที่ลุ่ม ตามแนวคิด “จากภูผาสู่มหานที” ด้วยการสร้างให้เกิดระบบนิเวศป่าที่สมบูรณ์ในพื้นที่ รวมทั้งมีพื้นที่สำหรับฝึกอบรมเด็กและเยาวชนเกี่ยวกับการปลูกป่า พื้นที่พักผ่อน และสถานที่ทำกิจกรรมต่าง ๆ ตลอดจนเป็นพื้นที่เรียนรู้เส้นทางศึกษาพรรณไม้ทรงปลูก พื้นที่ชุ่มน้ำ ป่าเศรษฐกิจ เนินทุ่งดอกหญ้า บ่อเป็ด ชลประทานจำลอง พื้นที่ลุยน้ำ หอชมวิว ศาลาริมน้ำ สะพานชมวิว ป่าทึบ ลานบัว สวนกล้วยเดิม อัฒจันทร์หญ้า อัฒจันทร์ริมน้ำ อาคารฝึกอบรม และอาคารอเนกประสงค์ ด้วย

จากนั้น ทรงปลูกต้นรวงผึ้ง แล้วเสด็จพระราชดำเนินไปทรงปล่อยปลาคาร์ป ซึ่งได้พระราชทานลูกปลาคาร์ปทรงเลี้ยง จำนวน 172 ตัว จำนวน 6 สายพันธุ์ ได้แก่ พันธุ์โคฮากุ พันธุ์อากา มัทจึบะ พันธุ์คิอุจึริ พันธุ์เบนิกอย พันธุ์คาราชิกอย และพันธุ์คาราชิโกโยะ เพื่อทรงปล่อยที่สระในสวนจากภูผาสู่มหานที ให้ประชาชนที่มาพักผ่อนได้เพลิดเพลินกับความสวยงาม และศึกษาประโยชน์ของปลาคาร์ป รวมทั้งเรียนรู้ความสำคัญของระบบนิเวศ ขณะนั้น วงดนตรีเฉลิมราชย์ บรรเลงและขับร้องเพลงแม่แห่งแผ่นดิน ซึ่งเป็นเพลงที่อัญเชิญคำขวัญพระราชทานเนื่องในวันแม่แห่งชาติ พุทธศักราช 2550 คือ “ข้าวในนา ปลาในน้ำ คำโบราณ คือตำนานความอุดม สมบูรณ์สิน ฝากลูกไทย ร่วมหวงแหน รักแผ่นดิน ถนอมไว้ อย่าให้สิ้น แผ่นดินไทย” มาเป็นส่วนหนึ่งของการประพันธ์เป็นบทเพลง

ต่อมาเวลา 18 นาฬิกา 59 นาที พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พระพรหมวชิรากร (สุนทร สุนฺทราโภ) เจ้าอาวาสวัดราชผาติการาม พร้อมด้วย พระครูวิจิตรสีลาภรณ์ (ปราณี สุปภาโต) เจ้าอาวาสวัดป่าสิริวัฒนวิสุทธิ์ ในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ จังหวัดนครสวรรค์ และพระสงฆ์ เฝ้า ถวายเสาเทียนชัยมงคลเนื้อทองสัมฤทธิ์ พร้อมฐานรองรับซึ่งทำจากไม้มงคล 3 ชนิด ได้แก่ ไม้สักทอง ไม้พะยูง และไม้ขนุน แกะสลักลายไทยปิดทองคำเปลว เพื่อใช้บรรจุเทียนชัยมงคลสำหรับจุดถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และถวายพระแผนที่ประเทศไทย เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เพื่อพระราชทานแก่วัดและเทวสถาน ตามพระราชอัธยาศัย

เสาเทียนชัยมงคลนี้ ออกแบบและจัดสร้างโดยพระพรหมวชิรากร (สุนทร สุนฺทราโภ) เจ้าอาวาสวัดราชผาติการาม เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เสาเทียนชัยสร้างขึ้นจากทองสัมฤทธิ์ รูปทรงกระบอกเทียนแห สูง 173 เซนติเมตร ภายในกระบอกบรรจุน้ำ เพื่อให้เปลวไฟที่ยอดเทียนชัย ลอยพ้นเหนือน้ำอยู่ได้ตลอดเวลา โดยรอบเสาประกอบด้วยตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ตราสัญลักษณ์วัดราชผาติกราม และตราสัญลักษณ์วัดป่าสิริวัฒนวิสุทธิ์ฯ รูปเทพนพเคราะห์ทั้ง 9 องค์ รูปจักรราศี 12 ราศี รูปเทพนักษัตร 12 ราศี ปลายยอดเสามีรูปปั้นลวดลายมังกร ฐานมีรูปปั้นลวดลายพญานาคพ่นน้ำ ยอดเสามีดอกบัวบาน 3 ชั้น กว้าง 30 เซนติเมตร เสาเทียนชัยวางอยู่บนฐานทรงน้ำเต้า มียักษ์แบกอยู่บนฐานบัวคว่ำ กว้าง 47 เซนติเมตร ปากพญานาคมีที่ระบายน้ำออกได้ เพื่อใช้ใส่เทียนชัยมงคลสำหรับจุดถวายพระพร-211-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ทบ.ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิด สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน

กรุงเทพฯ 9 ส.ค. – โฆษก ทบ. ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวนเส้นทาง พื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จ.ศรีสะเกษ บาดเจ็บ 3 นาย สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า วันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 กรณีกำลังพลของหน่วยกองร้อยทหารราบที่ 111 เหยียบกับระเบิด ขณะทำการลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ 1. จ่าสิบเอก ธานี พาหา ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ป้องกัน บาดเจ็บรุนแรง ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด2. พลทหาร ภาคภูมิ ไชยสุระ ตำแหน่งพลปืนเล็ก บาดเจ็บบริเวณแขนและด้านหลัง3. พลทหาร ธนันชัย ไกรวงค์ […]

จับผับรังสิต

สั่งเด้งผู้การปทุมธานี ขาดจากตำแหน่งเดิม เซ่นจับผับดังรังสิต

8 ส.ค. – โดนด้วย! สั่งเด้งผู้การปทุมธานี โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม พร้อมพวกอีก 5 นาย เซ่นจับผับดังรังสิต พบฉี่ม่วงเพียบเฉียด 200 คน พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ลงนามในคำสั่งตำรวจภูธรภาค 1 ที่ 209/2568 เรื่อง ข้าราชการตำรวจช่วยราชการ ใจความว่า ด้วย ตำรวจภูธรภาค 1 มีคำสั่งที่ 208/2568 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 2568 แต่งตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในกรณีเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 เวลา 01.00 น. ชุดปฏิบัติการ พิเศษกรมการปกครอง ได้มีการจัดระเบียบสังคม โดยเปิดปฏิบัติการ (Zero Drug) โดยนำกำลังเข้าทำการ ตรวจสอบและจับกุมสถานบริการ ชื่อ ร้าน “Skin […]

ข่าวแนะนำ

พบหลุมระเบิดที่กัมพูชายิงใส่ไทย 824 หลุม ใน 4 จังหวัดชายแดน

กทม. 10 ส.ค.-เพจกองทัพบก ทันกระแส โพสต์เจ้าหน้าที่ EOD เข้าเก็บกู้ระเบิด พบหลุมระเบิดที่เกิดจากฝีมือกัมพูชามากถึง 824 หลุม ใน 4 จังหวัดชายแดนไทย ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่พลเรือนและโรงพยาบาล เพจเฟซบุ๊ก “กองทัพบก ทันกระแส” โพสต์ว่า เจ้าหน้าที่ EOD เข้าพื้นที่เก็บกู้ระเบิด พบหลุมระเบิดที่เกิดจากฝีมือกัมพูชามากถึง 824 หลุม ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่พลเรือนและโรงพยาบาล ซึ่งสร้างความเสียหายและความหวาดกลัวให้ประชาชน ที่กำลังทยอยกลับเข้าพื้นที่เพื่อสำรวจความเสียหายของบ้านพักอาศัย ข้อมูลที่เพจโพสต์แสดงให้เห็นถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นใน 4 จังหวัดชายแดน ได้แก่ สุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ซึ่งเป็นผลจากการยิงอาวุธของกัมพูชาใส่เป้าหมายพลเรือน ทำให้ประชาชนในพื้นที่ต้องอพยพหนีภัยสงคราม และหากสถานการณ์เริ่มคลี่คลายลง ประชาชนเริ่มกลับเข้าสู่พื้นที่ตนเอง แต่ต้องเผชิญกับอันตรายจากระเบิดที่ยังคงหลงเหลืออยู่ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ EOD ทำงานอย่างหนัก เพื่อเร่งเก็บกู้ระเบิดให้แล้วเสร็จ เพื่อให้ประชาชนได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างปลอดภัยในบ้านของตนเองอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย

ชวนชมดวงไฟประดับรอบกรุงเทพฯ วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม

ทำเนียบ 10 ส.ค.-รัฐบาลเชิญชวนชมความงดงามของดวงไฟประดับรอบกรุงเทพฯ ในโอกาสเฉลิมพระเกียรติ วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง วันที่ 12 สิงหาคมของทุกปี (วันแม่แห่งชาติ) กรมทางหลวงชนบท (ทช.) และ MEA หรือการไฟฟ้านครหลวง ร่วมใจกัน ติดตั้งไฟประดับทั้ง 2 ข้างทาง เพื่อเฉลิมพระเกียรติและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ขอเชิญชวนประชาชนได้ร่วมสัมผัสความงดงามของดวงไฟประดับ เนื่องในโอกาสมหามงคลนี้ โดยการไฟฟ้านครหลวง ได้ดำเนินการติดตั้งไฟประดับจำนวนกว่า 2 ล้านดวง เพื่อประดับในสถานที่ต่าง ๆ ได้แก่ พระที่นั่งอัมพรสถาน วังศุโขทัย พระบรมมหาราชวัง บริเวณท้องสนามหลวง รอบพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน วังสระปทุม พระที่นั่งอนันตสมาคม ลานพระบรมรูปทรงม้า สนามเสือป่า ทำเนียบองคมนตรี กระทรวงมหาดไทย ถนนราชดำเนินใน ถนนราชดำเนินกลาง ถนนราชดำเนินนอก ถนนศรีอยุธยา ตั้งแต่วันนี้ – […]

ไทยฝนเพิ่มขึ้น ตกหนักบางแห่ง

กทม. 10 ส.ค.-กรมอุตุฯ รายงานไทยฝนเพิ่มขึ้น ตกหนักบางแห่งบริเวณภาคอีสาน ตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก คลื่นลมทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% ของพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวตอนบนและประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนจะมีกำลังค่อนข้างแรง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. วันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ […]

รฟท.เร่งกู้รถไฟตกรางที่กุยบุรี คาดเสร็จภายในเที่ยงคืนนี้

ประจวบคีรีขันธ์ 9 ส.ค. – รฟท.เร่งกู้รถไฟตกรางที่กุยบุรี คาดเสร็จสิ้นภายในเที่ยงคืนนี้ ด้าน พฐ.ร่วมตรวจหาสาเหตุตกรางกับนายช่างรถไฟ สันนิษฐานเบื้องต้นนอตล็อกประแจสับรางหลุด ส่วนผู้บาดเจ็บ 10 ราย ออกจาก รพ.แล้ว ความคืบหน้าเหตุรถไฟขบวนด่วนพิเศษ สุไหงโก-ลก ปาดังเบซาร์ ปลายทางสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ประสบอุบัติเหตุตกราง ก่อนถึงสถานีรถไฟกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ประมาณ 100 เมตร เหตุเกิดเมื่อช่วงตี 5 วันนี้ โดยตู้โดยสารที่เกิดเหตุคือ 3 ตู้สุดท้าย 10-12 ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 10 คน นำส่งโรงพยาบาลกุยบุรี ผู้โดยสารตู้ที่ตกราง เจ้าหน้าที่จัดรถบัสนำส่งต่อไปยังจุดหมายปลายทาง ส่วนตู้โดยสารที่ไม่ตกราง เดินทางต่อจนถึงสถานีกรุงเทพอภิวัฒน์ ล่าสุดตำรวจ สภ.กุยบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ลงพื้นที่ตรวจหาสาเหตุรถไฟตกราง ร่วมกับนายช่างวิศวกรของการรถไฟฯ อีกครั้ง จากการตรวจสอบสันนิษฐานเบื้องต้นคาดว่าเกิดจากนอตยึดอุปกรณ์ประแจตัวสับรางหลุด ขณะที่ขบวนรถไฟวิ่งผ่านไปแล้ว 9 ตู้ เหลือ 3 ตู้สุดท้าย ทำให้ไม่สามารถบังคับให้วิ่งตามไปด้วยกันได้ จึงถูกกระชากหลุดด้วยแรงเฉื่อยของความเร็วรถไฟแล้วตกจากราง หรืออาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ […]