กรุงเทพฯ 15 มี.ค. – ก.คมนาคม เตรียมคิกออฟ เส้นทางถนนนำร่องใช้ความเร็วสูงสุดได้ 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง เบื้องต้นเป็นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 32 เริ่มวันที่ 1 เมษายนนี้
นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวภายหลังการประชุมความคืบหน้าในการผลักดันนโยบายปรับเพิ่มอัตราความเร็วสูงสุดของรถยนต์บนถนนทางหลวงให้สามารถใช้ความเร็วสูงสุดได้ 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพการจราจรในปัจจุบัน โดยตามปกติรถที่วิ่งนอกเมือง จะใช้ความเร็วไม่เกิน 90 กิโลเมตร/ชั่วโมง แต่สภาพปัจจุบันมีการพัฒนาความเร็วรถให้มีระบบเบรกที่ดีขึ้น ซึ่งมีถนนหลายเส้นที่สามารถรองรับความเร็วได้มากขึ้น
เบื้องต้นที่ประชุมกำหนดนำร่องทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 32 โดยจะเริ่มคิกออฟได้ในวันที่ 1 เมษายนนี้ หลังจากนี้จะมีการแจ้งเตือนผู้ขับขี่ให้ทราบว่า กำลังเข้าและออกจากพื้นที่กำหนดความเร็วสูงสุดตามกฎกระทรวงฉบับใหม่ โดยจะมีป้ายกำกับความเร็วข้างทาง ซึ่งเป็นป้ายวงกลมขอบแดง ตัวอักษรดำ พื้นขาว มีสัญลักษณ์กำกับความเร็วบนพื้นถนน และติดตั้งอุปกรณ์สั่นสะเทือน
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้เห็นชอบในหลักการของเส้นทางที่มีศักยภาพสามารถประกาศเพิ่มเติม ทั้งในส่วนของทางหลวงแผ่นดินและทางหลวงชนบท โดยได้กำหนดให้กรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท สำรวจงานปรับปรุงลักษณะทางกายภาพ ติดตั้งป้ายกำกับความเร็ว รวมทั้งกรอบวงเงินลงทุนที่ต้องใช้ในการดำเนินงาน
สำหรับเส้นทางหลวงแผ่นดินที่มีศักยภาพ ได้แก่ ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 35 จังหวัดสมุทรสงคราม ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 32 จังหวัดอ่างทอง จังหวัดสิงห์บุรี จังหวัดชัยนาท และจังหวัดนครสวรรค์ ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2 จังหวัดนครราชสีมา ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 347 จังหวัดปทุมธานี และทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 จังหวัดเพชรบุรี
สำหรับเส้นทางหลวงชนบทที่มีศักยภาพ ได้แก่ ถนนราชพฤกษ์ ถนนนครอินทร์ ถนนข้าวหลาม จังหวัดชลบุรี จังหวัดระยอง และถนนสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี
อย่างไรก็ตาม การกำหนดอัตราความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง แต่หากไม่เข้าข่าย 6 ประเภท เช่น รถบรรทุกที่มีน้ำหนักเกิน 2,200 กิโลกรัม จะต้องใช้ความเร็วไม่เกิน 90 กิโลเมตร/ชั่วโมง รวมถึงถนนจะต้องมี 4 ช่องจราจร มี barrier ไม่มีจุดกลับรถเสมอระดับ จึงจะอนุญาตให้วิ่งได้ 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง
แต่ทั้งนี้ อธิบดีกรมทางหลวง และอธิบดีกรมทางหลวงชนบท ในฐานะผู้อำนวยการทาง จะต้องเป็นผู้ออกประกาศพิจารณาว่าจะสามารถใช้เส้นทางใดได้ โดยทั้ง 2 หน่วยงาน ต้องให้วิศวกรเข้ามาดูว่าเข้าข่ายตามเกณฑ์หรือไม่ ก่อนจะมีการปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น มีการติดตั้งอุปกรณ์การสั่นสะเทือน และป้ายบอกความเร็ว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในวันที่ 1 เมษายน ซึ่งมีการกำหนด kickoff จะมีการประกาศถนนเส้นอื่นๆ ตามมา ซึ่งขณะนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดูว่า ถนนเส้นอื่นๆ ในแต่ละจังหวัดจะมีเส้นใดบ้างที่สามารถทำได้ตามเกณฑ์. – สำนักข่าวไทย