กรุงเทพ 2 พ.ค.-“สุริยะ” หารือ รมว.คค.มาเลเซีย ขับเคลื่อนความร่วมมือด้านคมนาคมขนส่ง ฟื้นฟูเส้นทางรถไฟสายสุไหงโกลก – รันเตาปัง เชื่อมเศรษฐกิจ-การเดินทาง ไทย-มาเลเซีย
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้การต้อนรับ H.E. Loke Siew Fook รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ประเทศมาเลเซีย ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทย เพื่อหารือความร่วมมือและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการพัฒนาโครงข่ายคมนาคม และการยกระดับการเชื่อมโยงระบบคมนาคมขนส่งระหว่างไทย – มาเลเซีย ให้เกิดความสะดวกรวดเร็วและปลอดภัยยิ่งขึ้น โดยมี นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมหารือ ในวันที่ 2 พฤษภาคม 2568 ณ ห้องประชุมกระทรวงคมนาคม
นายสุริยะ เปิดเผยว่า การเยือนของฝ่ายมาเลเซียในครั้งนี้เกิดขึ้นภายหลังการเยือนมาเลเซียอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร เมื่อเดือนธันวาคม 2567 สะท้อนเจตจำนงทางการเมืองที่แน่วแน่ของทั้งสองฝ่ายในการกระชับความสัมพันธ์และผลักดันความร่วมมือทวิภาคี โดยมุ่งเน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการคมนาคมขนส่งระหว่างประเทศ เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจ การค้า การท่องเที่ยวและการพัฒนาพื้นที่ชายแดนร่วมกัน ซึ่งการประชุมครั้งนี้ได้มีการหารือถึงประเด็นสำคัญด้านการขนส่งทางถนนและทางราง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเชื่อมโยง การอำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชน และการขนส่งสินค้า ตลอดจนสนับสนุนการบูรณาการร่วมกันในระดับภูมิภาค
สำหรับการขนส่งทางถนน ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องถึงการเร่งรัดการพิจารณาร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างไทย – มาเลเซีย 2 ฉบับ ได้แก่ 1) ร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนระหว่างไทยและมาเลเซีย (Memorandum of Understanding on Cross Border Transport of Goods between Thailand and Malaysia: CBTG) และ 2) ร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการขนส่งผู้โดยสารข้ามพรมแดนระหว่างไทยและมาเลเซีย (Memorandum of Understanding on Cross Border Transport of Passengers between Thailand and Malaysia: CBTP) เพื่อสนับสนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจ แก้ไขปัญหาการขนส่งสินค้า และอำนวยความสะดวกการเดินทางของประชาชนทั้งสองประเทศ ตลอดจนเพื่อให้เกิดสิทธิในการขนส่งทางถนนที่เท่าเทียมกัน โดยตั้งเป้าหมายให้การเจรจาได้ข้อยุติและลงนามร่างบันทึกความเข้าใจทั้ง 2 ฉบับ ภายในเดือนกรกฎาคม 2568 พร้อมกันนี้ยังสนับสนุนแนวทางการเชื่อมโยงข้อมูลระบบใบอนุญาตขับรถแบบดิจิทัลกับใบขับขี่ระหว่างประเทศ ผ่านกลไกอาเซียนให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม
ด้านการขนส่งทางราง ได้หารือการฟื้นฟูการเดินรถไฟเส้นทางสุไหงโกลก – รันเตาปันยัง โดยที่ประชุมมอบหมายให้การรถไฟแห่งประเทศไทยและการรถไฟมาเลเซีย (Keretapi Tanah Melayu: KTMB) ใช้กลไก KTMB – SRT Joint Conference เพื่อร่วมกันพิจารณากระบวนการและกำหนดแผนการกลับมาเปิดให้บริการที่ชัดเจน เพื่อฟื้นฟูโครงข่ายการคมนาคมข้ามพรมแดนในอดีต และสอดคล้องกับการพัฒนาระบบรางชายฝั่งตะวันออกของมาเลเซีย (Eastern Corridor Rail Link: ECRL) ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างและจะเปิดให้บริการในไตรมาส 4 ของปี 2569 นอกจากนี้ ได้หารือในประเด็นการอำนวยความสะดวกการขนส่งสินค้าทางรางระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการผลักดันการทำพิธีการศุลกากรเพียงครั้งเดียว ณ จุดขาเข้า (Single Window Inspection: SSI) ซึ่งจะช่วยลดระยะเวลาการตรวจสินค้าอย่างมีนัยสำคัญ
ในโอกาสนี้ นายสุริยะได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการประสานความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะการเตรียมความพร้อมด้านพิธีการศุลกากรของฝ่ายมาเลเซีย เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างไร้รอยต่อ มีประสิทธิภาพ สามารถรองรับปริมาณการขนส่งสินค้าที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังแสดงความยินดีต่อการกลับมาให้บริการเดินรถไฟในเส้นทางสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – ปาดังเบซาร์ – บัตเตอร์เวิร์ธ รัฐปีนัง ซึ่งอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมคาดว่าจะเปิดให้บริการเที่ยวแรก ภายในเดือนกรกฎาคม 2568 ถือเป็นกลไกสำคัญในการส่งเสริมความเชื่อมโยงระหว่างประเทศ และอำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชนทั้งสองประเทศอีกด้วย
ในส่วนของฝ่ายมาเลเซีย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมมาเลเซีย ได้รายงานความคืบหน้าโครงการ Perlis Inland Port (PIP) ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากด่านปาดังเบซาร์ จังหวัดสงขลา ประมาณ 5 กิโลเมตร ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการระยะที่ 1 ภายในปี 2568 เพื่อบรรเทาความแออัดของการขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์จาก Padang Besar Container Terminal (PBCT) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“การหารือร่วมกันในครั้งนี้ เป็นโอกาสสำคัญในการยืนยันเจตนารมณ์ร่วมของทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และกำหนดแนวทางความร่วมมือในอนาคต เชื่อมั่นว่าการหารือจะนำไปสู่ความก้าวหน้าในการเสริมสร้างความเชื่อมโยงระหว่างไทย – มาเลเซีย และในระดับภูมิภาคได้อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนทั้งสองประเทศ” นายสุริยะ กล่าว.-513.-สำนักข่าวไทย