ทำเนียบรัฐบาล 4 มี.ค.- “พล.อ.ประวิตร” ประชุม กก.สถานการณ์ฉุกเฉิน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ขยายเวลา พ.ร.ก.ฉุกเฉินอีก 3 เดือน ให้การแก้ปัญหาต่อเนื่อง เพิ่มประสิทธิภาพงานข่าว บังคับใช้กม.เป็นธรรม ประชาชนมีส่วนร่วม มุ่งรักษาความสงบปลอดภัย คู่พัฒนาเศรษฐกิจ-สังคม ชื่นชมจนท.ทุ่มเท เสียสละปฏิบัติงาน

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง เป็นประธานประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน ครั้งที่ 1/2564 ณ ห้องประชุมวิจิตรวาทการ สภาความมั่นคงแห่งชาติ ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งที่ประชุมรับทราบผลการปฏิบัติงานตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ระหว่างวันที่ 20 ธ.ค.63 ถึง 20 ก.พ.64 ซึ่งในภาพรวมสถานการณ์ดีขึ้น เหตุการณ์การก่อเหตุรุนแรงมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง ประชาชนในพื้นที่ได้รับการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง พร้อมทั้งมีความเข้าใจความจำเป็นการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐ โดยได้ให้การสนับสนุนและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
ทั้งนี้ จากการประเมินสถานการณ์ด้านการข่าวพบว่า มีสิ่งบอกเหตุที่อาจจะก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงรูปแบบอื่น ๆ ในพื้นที่ จึงยังมีความจำเป็นต้องคงการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต่อไป นอกจากนี้ที่ประชุมรับทราบเรื่องที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ภาค 4 ส่วนหน้า(กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า) จัดทำแผนปรับลดพื้นที่การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อรองรับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงการส่งเสริมให้การสร้างงาน สร้างอาชีพให้แก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่ด้วย

คณะกรรมการฯ เห็นชอบตามที่ กอ.รมน.ภาค4 เสนอขอขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยกเว้น อ.แม่ลาน อ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี อ.เบตง จ.ยะลา และอ.สุไหงโก-ลก อ.สุคิริน อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาสออกไปอีกเป็นเวลา 3 เดือนตั้งแต่ 20 มี.ค.64 ถึง 19 มิ.ย.64 (ครั้งที่ 63) เพื่อแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ให้มีความต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพต่อไป
พล.อ.ประวิตร กำชับฝ่ายความมั่นคงให้เข้มงวดงานด้านการข่าว และประเมินสถานการณ์ในพื้นที่อย่างละเอียด รอบคอบ ทั้งสถิติการก่อเหตุ การสูญเสียและการบังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรม ต้องดํารงการบูรณาการทำงานร่วมกันระหว่างทหารตำรวจและฝ่ายปกครองอย่างแน่นแฟ้น พร้อมกล่าวขอบคุณกำลังพลในพื้นที่ที่ตั้งใจปฏิบัติภารกิจด้วยความทุ่มเท เสียสละเพื่อประเทศชาติ และกล่าวเป็นกำลังใจให้บรรลุภารกิจ ด้วยความปลอดภัยทุกคน.-สำนักข่าวไทย