กรุงเทพฯ 11 ก.พ.-พรุ่งนี้! ลงทะเบียนรับสิทธิ “เราชนะ” วันสุดท้าย ล่าสุดมีประชาชนสนใจลงทะเบียนแล้วมากกว่า 10.73 ล้านคน
นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าเกี่ยวกับการเปิดรับลงทะเบียนโครงการเราชนะ (โครงการฯ) สำหรับกลุ่มประชาชนทั่วไปในระหว่างวันที่ 29 มกราคม – 12 กุมภาพันธ์ 2564 ทางเว็บไซต์ www.เราชนะ .com ว่า จากข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2564 มีประชาชนสนใจลงทะเบียนแล้วมากกว่า 10.73 ล้านคน โดยมีผู้ที่ผ่านการคัดกรองขอคุณสมบัติเบื้องต้นก่อนยืนยันรับสิทธิ์โครงการฯ แล้วกว่า 6.8 ล้านคน
โฆษกกระทรวงการคลังเน้นย้ำว่า ในวันพรุ่งนี้ (12 กุมภาพันธ์ 2564) จะเป็นวันสุดท้ายของการเปิดรับลงทะเบียนโครงการฯ สำหรับกลุ่มประชาชนทั่วไป จึงขอเชิญชวนประชาชนที่สนใจให้มาลงทะเบียนได้ทางเว็บไซต์ www.เราชนะ .com อย่างไรก็ดี สำหรับประชาชนที่ลงทะเบียนแล้ว แต่ได้รับข้อความสั้น (SMS) แจ้งเตือนสถานะ “ลงทะเบียนไม่สำเร็จ” สามารถลงทะเบียนใหม่ทางเว็บไซต์ www.เราชนะ .com ได้ทันทีหลังจากที่ได้รับ SMS แจ้งเตือนและต้องดำเนินการให้เสร็จภายในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2564 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายในการเปิดรับลงทะเบียนโครงการฯ
สำหรับกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (กลุ่มผู้ถือบัตรฯ) จะได้รับวงเงินสิทธิ์เข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐงวดที่ 2 ในวันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2564 โดยสามารถสะสมวงเงินสิทธิ์เพื่อใช้จ่ายผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้ จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2564 ทั้งนี้ กลุ่มผู้ถือบัตรฯ สามารถตรวจสอบวงเงินสิทธิ์คงเหลือ (Balance) ได้ที่เครื่องกดเงินสดอัตโนมัติ (Cash Machine หรือ ATM) ของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (ธนาคารกรุงไทย) เครื่องรูดบัตร (Electronic Data Capture หรือ EDC) ที่ร้านค้าธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น หรือระบบตรวจสอบวงเงินสิทธิ์คงเหลือผ่านระบบอัตโนมัติของธนาคารกรุงไทย โทร 0 2109 2345 กด 3 (ตลอด 24 ชั่วโมง)
อนึ่ง ธนาคารกรุงไทยจะเปิดรับลงทะเบียนสำหรับกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ เช่น ไม่สามารถเข้าถึงระบบอินเทอร์เน็ต ไม่มีสมาร์ทโฟนทำให้ไม่สามารถใช้งานแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ได้ หรือผู้ที่อยู่ในภาวะพึ่งพิง ตั้งแต่วันที่ 15 – 25 กุมภาพันธ์ 2564 โดยประชาชนในกลุ่มดังกล่าวที่สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการฯ สามารถนำบัตรประชาชนแบบสมาร์ทการ์ด (Smart Card) ไปติดต่อขอลงทะเบียนได้ที่สาขาหรือจุดบริการเคลื่อนที่ของธนาคารกรุงไทย หากประชาชนท่านใดที่อยู่ในกลุ่มดังกล่าวไม่มีบัตรประชาชนสมาร์ทการ์ด ขอให้ติดต่อขอทำใหม่ได้ที่สำนักงานเทศบาล สำนักงานเขต ที่ว่าการอำเภอ หรือสำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง หน่วยบริการจัดทำบัตรเคลื่อนที่ของกรมการปกครอง หรือสำนักงานหรือที่ทำการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นภายในระยะเวลาดังกล่าว .-สำนักข่าวไทย