กระทรวงคลัง 19 ก.พ.- คลังเตรียมเสนอแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ หวังดันจีดีพีโตร้อยละ 3.5 ในปี 68 เร่งศึกษากองทุน LTF-ESG ดูแลผู้ลงทุน
นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เตรียมเสนอนายกรัฐมนตรีพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในหลายด้าน มีทั้งการใช้เงิน และมาตรการอื่นที่ไม่ใช้เงิน เช่น เร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุน ของหน่วยงานรัฐและรัฐวิสาหกิจ ประสานบีโอไอผลักดันเอกชนผู้ได้รับบีโอไอในปี 67 หลังมียอดขอรับการส่งเสริมการลงทุนปี 2567 มูลค่ากว่า 1.13 ล้านล้านบาท สูงสุดในรอบ 10 ปี จำนวนกว่า 3,100 โครงการ สูงสุดตั้งแต่ก่อตั้งบีโอไอ หากผลักดันให้เกิดการลงทุนจริงได้จะเป็นเครื่องจักรสำคัญกระตุ้นเศรษฐกิจได้ในปี 68 นี้
“ขณะนี้หลายหน่วยงาน รวมทั้งกระทรวงการคลัง เตรียมเสนอออกมาตรการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ให้เหมาะสมในแต่ละช่วงเวลาตลอดทั้งปี เมื่อภาครัฐและเอกชน ร่วมกันทำอย่างจริงจัง คลังหวังว่าจะสามารถผลักดันจีดีพีเติบโตร้อยละ 3.5 ได้ตามเป้าหมาย ยอมรับว่าเป็นเป้าหมายท้าทายอย่างมาก เพราะหากไม่มีมาตรการใดเพิ่มเติม จีดีพีอาจทำได้เพียงร้อยละ 2.8-3 ” นายลวรณ กล่าว
สำหรับแนวทางดูแล และสร้างความเชื่อมั่นในตลาดทุนนั้น กระทรวงคลังยังเดินหน้าศึกษา แนวทางการรวมกองทุน LTF รวมกับ กองทุน ESG ด้วยการตั้งกองทุนขึ้นใหม่ ให้นักลงทุนถือครองระยะเวลา 5 ปี เพื่อช่วยเหลือและดูแลไม่ให้นักลงทุนขายกองทุน LTF ออกมาในช่วงนี้ ยอมรับผู้ถือหน่วยลงทุนขณะนี้เจ็บหนักเหมือนกัน หลังกองทุน LTF ครบกำหนดมูลค่าประมาณ 2.4 แสนล้านบาท แต่ขณะนี้ มูลค่ากองทุนลดเหลือ 1.8 แสนล้านบาท คลังจึงต้องศึกษาเพิ่มเติมว่า จะให้สิทธิ์ประโยชน์ทางภาษี หรือว่า ดูแลนักลงทุนกลุ่มนี้อย่างไรบ้าง คาดว่าสรุปเงื่อนไขทั้งหมดได้ภายในไตรมาส 1 ปี 68 นี้ ยอมรับว่า หากออกเป็นกองทุนใหม่แล้ว ยังจะได้รับความสนใจในการเข้าซื้อกองทุนใหม่ LTF-ESG เนื่องจากในช่วงเปิดให้ออกกองทุน LTF จำหน่ายหน่วยลงทุนได้ 2.5-3 หมื่นล้านบาทต่อปี ขณะที่กองทุน Thai ESG จำหน่ายได้เต็มวงเงินกำหนด 2.7 หมื่นล้านบาท จึงคาดว่าจะดูแลนักลงทุนไม่ให้ขาย LTF ออกไปได้ในช่วงนี้. -515- สำนักข่าวไทย