สภาเห็นชอบ กม.ทำแท้งได้ตามเงื่อนไข

รัฐสภา 20 ม.ค. – สภาฯ เห็นชอบแก้ ป.วิอาญา เปิดทางยุติตั้งครรภ์แบบมีเงื่อนไข ทำแท้งกรณีไม่พร้อมได้ อายุครรภ์ต้องไม่เกิน 20 สัปดาห์ ยันไม่ใช่ทำแท้งเสรี


ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติเสียงข้างมาก 276 ต่อ 8 เสียง เห็นชอบให้ประกาศใช้ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา เพื่อแก้ไขในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการทำแท้ง ตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ภายหลังกรรมาธิการฯ พิจารณาแล้วเสร็จ โดยมีสาระสำคัญในการแก้ไข ได้แก่ การกำหนดอายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ สามารถยุติการตั้งครรภ์ได้โดยมีเงื่อนไข และการลดโทษหญิงที่ยอมให้ผู้อื่นทำให้ตนเองแท้งลูก เมื่ออายุครรภ์เกิน 12 สัปดาห์ จากไม่เกิน 6 เดือนเป็น 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท

ทั้งนี้ การแก้ไขกฎหมายให้การทำแท้ง ทำได้หากแพทย์รับรองให้จำเป็นต้องกระทำจากความเสี่ยง หรือเชื่อได้ว่าทารกที่จะคลอดออกมามีความผิดปกติ ทุพพลภาพอย่างร้ายแรง หรือหญิงที่ยืนยันต่อแพทย์ว่ามีครรภ์จากการกระทำผิดทางเพศ และการแก้ไขกฎหมายให้หญิงที่มีอายุครรภ์ 12 แต่ไม่เกิน 20 สัปดาห์ หรือประมาณ 4-5 เดือน ที่ยืนยันจะยุติการตั้งครรภ์ หลังรับคำปรึกษาจากแพทย์ตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกัน และหน่วยง่านที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น อาทิเช่น ปัญหาการท้องไม่พร้อม เป็นต้น


นายสันติ กีระนันท์ ประธานคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา ยืนยันว่าการแก้ไขกฎหมายครั้งนี้ ไม่ได้เปิดให้ทำแท้งเสรี หรือยุติการตั้งครรภ์แบบเสรี เพียงแต่ยินยอนให้ยุติการตั้งครรภ์แบบมีเงื่อนไขตามที่กำหนดไว้ เพื่อเปิดช่องทางให้หญิงยุติการตั้งครรภ์ได้ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด

ขณะที่ ส.ส.มุสลิม เห็นว่าการปฏิสนธิเมื่อเป็นตัวอ่อนแล้ว ย่อมได้วิญญาณจากพระผู้เป็นเจ้า หลังพ้นอายุครรภ์ 120 วันแล้ว ดังนั้นการทำแท้งหลัง 120 วัน จึงไม่สามารถทำได้ เพราะผิดหลักศาสนา เว้นแต่จะมีเหตุจำเป็นพิเศษ เช่น เป็นอันตรายต่อชีวิตมารดา และแม้อายุครรภ์จะเกิน 120 วันไปแล้ว พบภายหลังว่าร่างกายไม่สมบูรณ์ก็ไม่สามารถไปทำลายชีวิตนั้นได้ ขณะที่ ส.ส.อีกส่วนหนึ่งเสนอให้สามารถทำแท้งได้ กรณีที่ถูกกระทำผิดทางเพศ โดยไม่จำกัดอายุครรภ์

สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ ประธานสภาผู้แทนราษฎร จะส่งร่างกฎหมายดังกล่าวให้วุฒิสภา นำไปพิจารณาให้ความเห็นชอบตามขั้นตอน ก่อนส่งร่างกฎหมายกลับไปยังนายกรัฐมนตรี เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ ประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษา เพื่อให้มีผลใช้บังคับต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

เร่งประสานอินเตอร์โพลขอหมายแดงล่าตัว “หมอบุญ”

ตำรวจเตรียมออกหมายจับเครือข่าย “หมอบุญ” ฉ้อโกง ลอต 2 รวมทั้งเร่งประสานอินเตอร์โพล ออกหมายแดงล่าตัว “หมอบุญ” กลับมาดำเนินคดี

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ศึกชิงนายก อบจ.สุรินทร์ “ธัญพร มุ่งเจริญพร” เข้าป้าย

ศึกชิงนายก อบจ.สุรินทร์ ลุ้นกันจนนาทีสุดท้าย “ธัญพร มุ่งเจริญพร” พลิกชนะ “พรชัย มุ่งเจริญพร” แชมป์เก่าแบบขาดลอย คว้าเก้าอี้มาครอง นั่งนายก อบจ.หญิงคนแรกของจังหวัด

เลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ครึ่งวันเช้าคึกคัก

ภาพรวมการใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ครึ่งวันเช้าค่อนข้างคึกคัก มีประชาชนทยอยใช้สิทธิต่อเนื่อง ยังไม่มีรายงานการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง