ทดลองเปิดช่องทางด่วนเฉลิมมหานคร ด่านดาวคะนอง ขาเข้ากรุงเทพฯ

ทางด่วนเฉลิมมหานคร

กทม. 17 มี.ค.-ทดลองเปิดช่องทางด่วนเฉลิมมหานคร ด่านดาวคะนอง ขาเข้ากรุงเทพฯ ชั่วคราว หวังระบายรถติดถนนพระราม 2 หลังเหตุชิ้นส่วนโครงสร้างทางถล่ม

วันนี้เป็นวันแรกที่เจ้าหน้าที่ทดลองเปิดช่องทางจราจร 1 ช่องทาง ฝั่งขาเข้าทางด่วนเฉลิมมหานครช่วงด่านดาวคะนองตรงบริเวณใกล้เคียงกับจุดที่โครงสร้างถล่มลงมา หลังก่อนหน้านี้ตั้งเป้าว่าอาจจะใช้ระยะเวลา 7 วัน ในการเคลียร์พื้นที่ แต่เมื่อคืนที่ผ่านมาหลังจากที่เจ้าหน้าที่เร่งระดมกำลังตลอด 24 ชั่วโมงจึงทำให้สามารถที่จะเปิดเส้นทางได้ ซึ่งการเปิดช่องทางดังกล่าวเพื่อหวังบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัดบนถนนพระราม 2


นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธวัช วงศ์สง่า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ดูแลงานจราจร ลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพการจราจรบริเวณ ด่านดาวคะนอง ทางพิเศษเฉลิมมหานคร หลังเกิดเหตุคานสะพานก่อสร้างทรุดตัว ส่งผลให้การจราจรติดขัดและต้องมีการปรับแผนการสัญจรชั่วคราว

นายสุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า ทางการทางพิเศษแห่งประเทศไทย และ กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) ร่วมกัน
วางแผนเปิดทางเบี่ยงให้ประชาชนใช้สัญจร โดยถนนบริเวณดังกล่าวมีความพร้อมสำหรับการเปิดใช้งาน หวังช่วยบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัดบนถนนพระราม 2


สำหรับการรื้อถอนเศษซากคานที่พังถล่มลงมาตอนนี้มีความคืบหน้าไปแล้วกว่าร้อยละ 70 เจ้าหน้าที่ทำงานตลอด 24 ชั่วโมง คาดจะเสร็จภายใน 7 วัน แต่ในส่วนของขาออกคาดว่าอาจต้องใช้ระยะเวลาตามเวลา 30 วัน เนื่องจากวัสดุก่อสร้างที่ถล่มลงมามีขนาดใหญ่และรื้อถอนยาก แต่จะพยายามเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จเร็วกว่ากำหนด

ด้าน พล.ต.ต.ธวัช วงศ์สง่า เปิดเผยว่า ปกติเส้นทางนี้จะมีรถใช้มากกว่า 1,000 คัน ในช่วงเวลาเร่งด่วน แต่การเปิดช่องทางดังกล่าวไม่ใช่การเปิดแบบสมบูรณ์ และใช้ได้เฉพาะรถยนต์ 4 ล้อเท่านั้น หากประชาชนที่ไม่มีความจำเป็นเบื้องต้นยังไม่ขอแนะนำให้เข้ามาใช้เส้นทางนี้ คาดการเปิดเส้นทางจะช่วยลด ปัญหารถติดได้ประมาณร้อยละ 30

โดยสภาพการจราจรช่วงเช้ายังสามารถเคลื่อนตัวได้ดี ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอยู่ในช่วงปิดเทอมทำให้ปริมาณรถลดลง คาดว่าหลัง 08.00 น. เป็นต้นไป ปริมาณรถจะเริ่มหนาแน่นมากขึ้น


ตำรวจจราจรได้เตรียมแผนรองรับเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน โดยแนะนำให้ประชาชน หลีกเลี่ยงเส้นทางดาวคะนอง และใช้เส้นทางเลี่ยง ดังนี้

ถนนกาญจนาภิเษก → เอกชัย → เพชรเกษม
ถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก → พระประแดง
ถนนบางขุนเทียนชายทะเล → บางบอน 1 → เอกชัย → ดาวคะนอง

โดยขณะนี้มีการ เปิดทางเบี่ยง 2 ช่องจราจร ซึ่งปกติใช้เป็นเส้นทางของผู้รับเหมาที่ก่อสร้างสะพาน อย่างไรก็ตาม เส้นทางเบี่ยงนี้ยังไม่สะดวกเต็มที่ เนื่องจากบางจุดยังมีอุปกรณ์ก่อสร้างกีดขวางอยู่ จึง ไม่แนะนำให้รถขนาดใหญ่ใช้เส้นทางนี้

สำหรับการจราจรบน ถนนพระราม 2 ซึ่งเป็นเส้นทางหลักเข้าเมือง คาดจะหนาแน่นขึ้นโดยเฉพาะในช่วงเปิดเทอม เนื่องจากมีรถจากเขตปริมณฑลเข้าสู่กรุงเทพฯ เป็นจำนวนมาก หลัง 08.30-09.00 น. ปริมาณรถบรรทุกขนาดใหญ่ก็จะเพิ่มขึ้นอีก ทำให้การจราจรอาจชะลอตัว

จึงขอแนะนำให้ประชาชน เผื่อเวลาเดินทางอย่างน้อย 1 ชั่วโมง โดยเฉพาะผู้ที่ต้องเดินทางเข้าเมืองผ่านเส้นทางนี้ โดยการเปิดทางเบี่ยงนี้แม้จะไม่สามารถทำให้การจราจรคล่องตัวเหมือนปกติ แต่ก็ช่วยบรรเทาปัญหาได้ระดับหนึ่ง

ขณะที่ เจ้าหน้าที่ได้ตั้งศูนย์วอร์รูมที่ด่านดาวคะนอง เพื่อติดตามสถานการณ์การจราจรแบบเรียลไทม์ และจะมีการประชุมสรุปปัญหาและวิเคราะห์แนวทางแก้ไขเป็นรายวัน โดยจะพิจารณาปรับปรุงเส้นทางให้เหมาะสม.-416.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]