รัฐสภา 12 มี.ค.-สภา รุกสอบบุหรี่ไฟฟ้า “กรวีร์” เรียก 6 หน่วยงานแจง หลัง 1 เดือน คำสั่งนายกฯ หวั่นคุมยากหากนำขึ้นบนดิน ส่วน สส. โชว์ดูดกลางสภา ถ้าถูกแจ้งความก็ว่าตามกฎหมาย ไม่จำเป็นต้องเตือน ถูกถ่ายรูปไปคงระมัดระวังมากขึ้น
นายกรวีณ์ ปริศนานันทกุล ประธานกรรมาธิการปกครอง แถลงภายหลังเชิญสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สภาคุ้มครองผู้บริโภค สภายุวทัศน์แห่งประเทศไทย กรมศุลกากร กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงมหาดไทย ชี้แจงแนวทางในการควบคุมและแก้ไขปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าว่า ขอบคุณ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ได้เข้มงวดในการปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้า โดยประเด็นแรกที่พูดคุยกันคือให้แต่ละหน่วยงานรายงานผลการดำเนินการตามคำสั่งของนายกฯ ในรอบ 1 เดือนที่ผ่าน ซึ่งทาง สตช. ได้นำเสนอว่ามีการจับกุมผู้กระทำความผิดไปกว่า 1,000 ราย มูลค่าหลายสิบล้านบาท ส่วนกรมการปกครองได้มีนโยบายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้กำชับฝ่ายปกครองในอำเภอต่างๆ ให้เข้มงวดกวดขันเรื่องการจัดจำหน่าย ส่วนกรมศุลกากรให้ควบคุมการนำเข้าที่ผิดกฎหมาย ซึ่งมีการเข้มงวดในการสกัดกั้นการนำเข้า
ส่วนเสียงสะท้อนจากหน่วยงานต่างๆ นายกรวีณ์ กล่าวว่า ต้องเข้าใจว่ากฎหมายที่ควบคุมเรื่องบุหรี่ไฟฟ้าไม่ได้เฉพาะเจาะจงเหมือนกับยาเสพติด การที่หน่วยงานต่างๆ จะจับกุมจะต้องอาศัยกฎหมายของศุลกากรในการนำเข้าสิ่งผิดกฎหมายเข้าประเทศ และกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคในเรื่องการจำหน่ายสิ่งผิดกฎหมาย หมายความว่าถ้าไม่จำหน่ายก็จับไม่ได้ ซึ่งเราก็ได้เห็นช่องว่างของกฎหมายที่ตามไม่ทัน
ทั้งนี้ตนได้สอบถามในที่ประชุมเรื่องการทำให้บุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมายและมีกฎในการควบคุมอย่างเข้มงวดเหมือนกับบุหรี่ทั่วไป ซึ่งทุกหน่วยงานพูดตรงกันว่ามีความกังวลที่จะนำเรื่องนี้ขึ้นมาบนดิน ทำให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้นจะส่งผลกระทบต่อประชาชน แม้จะมีกฎหมายควบคุมอย่างเข้มวดก็ตาม ซึ่งฝ่ายบังคับใช้กฎหมายก็มีความกังวล เพราะขณะนี้บุหรี่ทุกชิ้นที่อยู่ในประเทศถือว่าผิดกฎหมายและยากที่จะปราบปรามอยู่แล้ว ถ้าหากทำให้ขายได้เฉพาะกลุ่มจะทำให้การควบคุมยากขึ้น
นอกจากนี้ภายหลังบางหน่วยงานลงพื้นที่สำรวจ พบว่า มีการนำบุหรี่ไฟฟ้าเข้ามาในโรงเรียนมากขึ้น รวมถึงมีร้านที่วางจำหน่ายอยู่ใกล้กับสถานศึกษาเป็นจำนวนมาก ซึ่งทางตำรวจ ได้รับปากว่า จะไปปราบปราม และเข้มงวดกับการบังคับใช้กฎหมายมากขึ้น เชื่อว่าเราจะได้เห็นการปราบปราม จับกุมจากเจ้าหน้าที่มากขึ้นอย่างแน่นอน
เมื่อถามถึงกรณีปรากฏภาพ สส. สูบบุหรี่ไฟฟ้า ภายในอาคารรัฐสภา นายกรวีร์ ระบุว่า ได้มีการสอบถามและพูดคุยกัน แต่ไม่ได้เฉพาะเจาะจงแค่กรณีที่เป็น สส. ว่าคนที่สูบบุหรี่ไฟฟ้าจะมีความผิดหรือไม่อย่างไร เนื่องจากกฎหมายมีเพียงห้ามครอบครองสิ่งที่ห้ามนำเข้าประเทศ จึงคงต้องมีการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายเข้มงวดต่อไปมากขึ้น สำหรับเรื่องเพื่อนสมาชิก ก็เป็นเรื่องส่วนบุคคลไป หากมีการแจ้งความดำเนินคดี ก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย ส่วนจะต้องมีการขอความร่วมมือกับ สส.หรือไม่นั้น ตนมองว่า สส.ที่ถูกถ่ายภาพไป น่าจะมีความระมัดระวังมากขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย