สองหลักของปีนี้ ติดเชื้อ 59 ราย

ทำเนียบ 20 ม.ค.- ตัวเลขสองหลักของปี 64 ศบค. แถลงผู้ติดเชื้อรายใหม่ 59 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย จ.นครพนม ไข่แตกพบผู้ติดเชื้อ ยอมรับเป็นเรื่องยากทำให้ตัวเลขติดเชื้อเป็นศูนย์


แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงสถานการณ์ประจำวันว่าพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 59 ราย แบ่งเป็นติดเชื้อในประเทศ 51 ราย และติดเชื้อจากต่างประเทศ 8 ราย ซึ่งเป็นผู้ป่วยรายใหม่จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 28 ราย จากการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 23 ราย และผู้เดินทางจากต่างประเทศเข้าสถานที่กักกันจากรัฐจัดให้ 8 ราย ทำให้ประเทศไทยมีผู้ป่วยยืนยันสะสม 12,653 ราย หายป่วยแล้ว 9,621 ราย รักษาตัวอยู่ 2,961 ราย ในจำนวนนี้มีผู้ป่วยอาการหนัก ใช้เครื่องช่วยหายใจ 10 ราย และมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย รวมผู้เสียชีวิตเป็น 71 ราย โดยผู้เสียชีวิตเป็นหญิงไทยอายุ 48 ปี อาชีพขับรถรับส่งแรงงานเมียนมาร์ ที่ด่านสะพานสอง อ.แม่สอด จ.ตาก  เริ่มมีอาการตั้งแต่ 16 ธ.ค.2563 เข้ารับการตรวจพบว่าเป็นคออักเสบ และอาการไม่ดีขึ้น จากนั้นตรวจยืนยันพบโควิด-19 เมื่อ 27 ธ.ค.2563 และอาการแย่ลง ไม่ตอบสนองการรักษา และเสียชีวิตเมื่อ 18 ม.ค.2564

สำหรับสถานการ์โควิด-19 ทั่วโลก มียอดผู้ติดเชื้อรวม 96,621,459 ราย อาการรุนแรง 112,147 ราย รักษาหายแล้ว 69,269,968 ราย และเสียชีวิต 2,065,624 ราย ประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด คือ สหรัฐอเมริกา จำนวน 24,806,964 ราย  อินเดีย จำนวน 10,596,442 ราย  บราซิล จำนวน 8,575,742 ราย รัสเซีย จำนวน 3,612,800 ราย และสหราชอาณาจักร  จำนวน 3,466,849 ราย โดยประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 128


แพทย์หญิงอภิสมัย กล่าวว่าขณะนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่เริ่มลดลง โดยมี 15 จังหวัด ที่ยังไม่พบผู้ติดเชื้อ และมี 37 จังหวัดที่ไม่มีผู้ติดเชื้อติดต่อกัน 7 วัน ขณะที่ผู้ติดเชื้อกระจายอยู่ใน 62 จังหวัด ล่าสุดคือ จ.นครพนม เป็นผู้หญิงเดินทางจากกรุงเทพฯไปเยี่ยมญาติ โดยไม่มีอาการ และไม่คิดว่าตัวเองติดเชื้อ จึงอยากให้ทุกคนเฝ้าระวังตัวเองกันให้มาก

“สถานการณ์ปัจจุบันจำนวนผู้ติดเชื้อยังคงตัว ยอมรับว่าจะทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อลงมาเป็นศูนย์ไม่ได้ แต่ขออย่าหมดกำลังใจและสิ่งที่ทำได้ดี ขอให้รักษาความเข้มข้นและเข้มงวด ป้องกันตัวเองสม่ำเสมออย่างต่อเนื่อง ส่วนมาตรการตามโรงงานต่างๆ เน้นย้ำให้ดูแลตนเอง อย่ารับประทานอาหารร่วมกัน หลีกเลี่ยงการชุมนุมและรวมกลุ่มกันจำนวนมาก เพราะมาตรการต่างๆที่ออกมาจะไม่มีประโยชน์ ถ้าไม่ปฏิบัติตาม”แพทย์หญิงอภิสมัยกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ที่พบในวันนี้จำนวน 59 ราย ถือเป็นจำนวนที่ลดลง และถือเป็นจำนวนตัวเลข 2 หลัก  นับตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคมปีที่ผ่านมา และจนถึงวันที่ 20 มกราคม 2564 หลังจากในช่วงที่ผ่านมาจะพบตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มหลักร้อยอย่างต่อเนื่อง.- สำนักข่าวไทย      


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย