กาญจนบุรี 18 ม.ค.-ผอ.เขื่อนวชิราลงกรณ แจงสภาวะน้ำขุ่นและมีกลิ่น เกิดจากการพลิกกลับของชั้นน้ำ เมื่ออุณหภูมิลดต่ำลงประกอบกับสภาพน้ำในอ่างมีปริมาณน้อยกว่าปกติในรอบ 5 ปี ขณะนี้น้ำใสขึ้นแล้ว
กรณีชาวบ้านในพื้นที่ อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งอาศัยอยู่บริเวณท้ายน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ กฟผ. พบสภาพน้ำในแม่น้ำขุ่นและมีกลิ่น จึงแจ้งและสอบถามมายังเขื่อนวชิราลงกรณ เพื่อคลายความกังวลให้กับชาวบ้าน
นายอมร แก่นสารี ผู้อำนวยการเขื่อนวชิราลงกรณได้นำผู้อำนวยการสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 8 (ราชบุรี) กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เข้าเก็บตัวอย่างน้ำในซึ่งผลตรวจออกมาว่า มาตรฐานคุณภาพน้ำผิวดินอยู่ในเกณฑ์ปกติ ส่วนปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากเขื่อนมีระดับน้ำและปริมาณน้ำในอ่างน้อย เมื่อวันที่ 13 มกราคมระดับน้ำอยู่ที่ 141.79 เมตร เหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง มีปริมาตรน้ำเขื่อน 4,570 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 52 ของความจุอ่าง ซึ่งต่ำสุดในรอบ 5 ปี และประกอบกับเป็นช่วงเวลาที่อุณหภูมิในพื้นที่อำเภอทองผาภูมิมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยต่ำสุดอยู่ที่ 13.5 องศาเซลเซียส
ซึ่งทั้ง 2 ปัจจัยที่เกิดขึ้นพร้อมกันทำให้เกิดปรากฏการณ์ การพลิกกลับของชั้นน้ำ คือ การที่ในฤดูหนาว บริเวณน้ำชั้นบนและผิวน้ำมีอุณหภูมิต่ำลง น้ำด้านบนจะมีความหนาแน่นเพิ่มขึ้น ทำให้เกิดการจมลงด้านล่างของอ่าง ซึ่งจะไปทำให้ชั้นน้ำก้นอ่างพลิกกลับและลอยขึ้นด้านบนแทน การพลิกตัวของน้ำก้นอ่างจะนำพาตะกอนที่ทับถมอยู่ด้านล่างขึ้นมาบนผิวน้ำ ซึ่งถือว่าเป็นปรากฏการณ์ตามธรรมชาติ
ด้านนายเนรมิต เหลืองอร่ามฟ้า ปลัดอาวุโส ทำการแทนนายอำเภอทองผาภูมิ นำทีมผู้เกี่ยวข้อง ลงเรือตรวจสถานการณ์น้ำในเขื่อน พบว่าสภาพน้ำค่อนข้างใส คาดว่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติใน 1-2 วันนี้.-สำนักข่าวไทย