ระบบขนส่งอ่วม! โควิดระลอกใหม่ทำขาดทุนถ้วนหน้า


กรุงเทพฯ 11 ม.ค. – ผู้ให้บริการระบบขนส่ง ทั้งรถโดยสาร ระบบราง เรือโดยสาร ยอมรับสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ ทำอ่วม ทำผู้โดยสาร-รายได้ลดลงถ้วนหน้าแล้ว


นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะกรรมการ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ยอมรับว่าผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ บขส.คนใหม่นั้น ต้องเข้ามาทำงานในช่วงที่ธุรกิจมีความท้าทาย เนื่องจากพฤติกรรมการเดินทางของผู้โดยสารได้เปลี่ยนแปลงไป ขณะที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด- 19 ทำให้ปริมาณการเดินทางของผู้โดยสารลดลงอย่างมาก หากเปรียบเทียบการเดินทางตั้งแต่เดือน มี.ค.63 ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันมีผู้โดยสารหายไปกว่า 60-70% โดยพบว่ามีปริมาณผู้โดยสารเดินทางเฉลี่ยที่ 30,000 คน/วัน จากเดิมมีปริมาณเดินทางเฉลี่ยอยู่ที่ 80,000 คน/วัน ส่วนยอดคืนตั๋วการเดินทางก็มีมาต่อเนื่อง

นายสรพงศ์ กล่าวว่า ปัจจุบัน บขส. ประสบปัญหาขาดทุนกว่า 43 ล้านบาท/เดือน หรือ รวมจากที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานขาดทุนรวมกว่า 500 ล้านบาท ดังนั้น บขส.จึงต้องปรับลดรายจ่ายทั้งองค์กร ชะลอการรับพนักงานใหม่ หรือ เปิดโครงการหยุดทำงานโดยไม่รับค่าตอบแทน รวมถึงให้เน้นเพิ่มรายได้ ต่อยอดธุรกิจที่มีอยู่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้บริการขนส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์อย่างเต็มตัว เพิ่มจากเดิมที่ขนส่งผู้โดยสารอย่างเดียว เนื่องจากปัจจุบันได้มีการขนส่งสินค้าพัสดุภัณฑ์ใต้ท้องรถ และ มาเสริมวางบนที่นั่งที่ไม่มีผู้โดยสารพบว่า ทำรายได้ให้ บขส. กว่า 170 ล้านบาท/ปี ซึ่งล่าสุดทาง บขส.ได้เตรียมเสนอมายังกระทรวงคมนาคม เพื่อเสนอ ครม.มีมติอนุมัติในการเปลี่ยนมติ ครม.ให้ บขส. สามารถดำเนินธุรกิจ ขนส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ได้ จากเดิม มติ ครม.ได้ให้ บขส. ทำธุรกิจขนส่งผู้โดยสารอย่างเดียว


นางเครือวัลย์ วงศ์รักมิตร ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นครชัยแอร์ จำกัด กล่าวยอมรับว่าสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่นี้ ทำให้นครชัยแอร์ประสบปัญหามีผู้โดยสารลดลงและขณะนี้สามารถวิ่งเที่ยวรถเพื่อให้บริการไม่ถึง 15 % ของในช่วงปกติเท่านั้น โดยเป็นการลดเที่ยววิ่งในทุกเส้นทางทั่วประเทศ ขณะเดียวกันยอมรับว่า ปัจจุบันบริษัทยังมีภาระค่าใช้จ่ายอื่นๆเหมือนปกติทั้งในเรื่องของค่าขา ค่าเข้าใช้พื้นที่จอดสถานีในส่วนภูมิภาค และแม้ว่าจะให้บริการเที่ยววิ่งน้อยลง แต่นครชัยแอร์ก็ไม่สามารถลดจำนวนพนักงานได้เนื่องจาก ปัจจุบันทั้งพนักงานขับรถและพนักงานประจำรถก็ถือว่าเป็นแรงงานฝีมือ พี่ไม่สามารถหาทดแทนได้ง่ายหากสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ

นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งแห่งประเทศไทย (รฟม.) ยอมรับว่า ผลกระทบของการระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ ทำให้ผู้ใช้บริการระบบรถไฟฟ้าในกำกับดูแลของ รฟม. ลดลงประมาณ 50% เช่นในส่วนของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินซึ่งปกติมีผู้ใช้บริการต่อวันประมาณ 400,000 คนขณะนี้เหลือเพียงเกือบ 200,000 คนเท่านั้น ส่วนรถไฟฟ้าสายสีม่วงซึ่งปกติมีผู้โดยสารใช้บริการต่อวัน 40,000 ถึง 50,000 คน ปัจจุบัน มีผู้โดยสารเดินทางเฉลี่ยวันละ 20,000 คนเท่านั้น

โดยสาเหตุสำคัญที่จำนวนผู้โดยสารลดลงก็มาจากส่วนหนึ่ง ที่มีการพบผู้ติดเชื้อในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลและมีการแจ้งไทม์ไลน์ การเดินทางของผู้ติดเชื้อ ส่งผลให้ผู้โดยสารที่เคยใช้บริการก็มีการหลีกเลี่ยงการเดินทาง รวมถึงนโยบายในการ Work from home ก็ทำให้มีผู้ใช้บริการเดินทางลดลงอยู่แล้วส่วนหนึ่ง


อย่างไรก็ตามยืนยันว่า แม้จำนวนผู้โดยสารปัจจุบันจะลดลงแต่ รฟม. ยังคงเข้มเรื่องมาตรการเฝ้าระวังการระบาดของไวรัสโควิด โดยขณะนี้มีการนำมาตรการเว้นระยะห่างบนรถ รวมถึงการคัดกรองผู้โดยสารที่ลงมาในพื้นที่ส่วนชานชาลา ไม่ให้มีการกระจุกตัวอยู่แล้ว

นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอสซี ยอมรับว่า ในส่วนของรถไฟฟ้าบีทีเอสผู้โดยสารก็ลดลงในสัดส่วนเท่ากันคือ 50% โดยขณะนี้บีทีเอส มีผู้โดยสารใช้บริการเฉลี่ยวันละประมาณ 300,000 คนจากช่วงก่อนที่จะมีการระบาดของโควิดระลอก 2 ซึ่งบีทีเอสมีผู้โดยสารใช้บริการเฉลี่ยวันละ 600,000 -700,000 คน และต้องยอมรับว่าหากไม่มีการระบาดของไวรัสโควิด ทั้ง 2 ครั้งนี้ บีทีเอสจะมีผู้โดยสารใช้บริการแตะ 1,000,000 คนไปแล้ว

นายเชาวลิต เมธยะประภาส หรือลุงถั่ว กรรมการผู้จัดการ บริษัท ครอบครัวขนส่ง (2002) ผู้ให้บริการเรือด่วนคลองแสนแสบ บอกว่า การระบาดของไวรัสโควิดระลอกใหม่ ทำให้ผู้โดยสารลดลงประมาณ 30% โดยขณะนี้เรือด่วนคลองแสนแสบมีผู้ใช้บริการประมาณ 20,000 คนจากช่วงก่อนหน้า ที่มีผู้ใช้บริการประมาณกว่า 30,000 คน/วัน โดยต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาเรือคลองแสนแสบไม่เคยมีปัญหาขาดทุนแต่ในขณะนี้ก็ประสบภาวะขาดทุนแล้ว

โดยปัจจัยที่ทำให้การลดลงของผู้โดยสารรอบนี้มากกว่าการระบาดในรอบแรก เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันต้องยอมรับว่าประชาชนผู้เดินทางมีการปรับตัวในเรื่องของการเดินทางและการทำงานได้แล้ว โดยใช้แนวทางของการ work from home ในขณะเดียวกันก็ยอมรับว่ามีสถานการณ์น่าเป็นห่วง ในส่วนของผู้ประกอบการค้าขาย ธุรกิจขนาดเล็กที่ขณะนี้ ประสบปัญหาขาดทุนต้องเลิกกิจการ ก็ทำให้ทั้งพนักงานลูกจ้างต่างๆต้องลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางวัน ต่อวันลงไปด้วย

ส่วนผลกระทบต่อบริการสายการบินนั้น นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กำกับดูแลงานด้านขนส่งอากาศ กล่าวว่า ได้รับรายงานจากกรมท่าอากาศยาน (ทย.) จำนวนเที่ยวบินในแต่ละเส้นทางมีการปรับลดลงจากเดิมประมาณร้อยละ 40 แต่รายละเอียดของการยกเลิกเที่ยวบินจะต้องรอข้อมูลสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย สรุปตัวเลขที่เป็นทางการ

ด้านการติดต่อขอมาตรการเยียวยาของผู้ประกอบการสายการบินต่างๆ ยังไม่ทราบ เนื่องจาก กพท. เป็นผู้รวบรวมข้อมูลทั้งหมด แต่ในส่วนของสนามบินภูมิภาคที่ ทย.กำกับ ขณะนี้ยังไม่มีผู้ประกอบการสายการบินรายใดติดต่อผ่านเข้ามา

ทั้งนี้มีรายงานข่าวจากกรมท่าอากาศยาน เปิดเผยว่า ปัจจุบันทั้ง 6 สายการบิน ที่ใช้บริการสนมาบิน 28 แห่งของกรม ประกอบด้วย ไทยสมายล์ บางกอกแอร์เวย์ส นกแอร์ ไทยเวียทเจ็ท แอร์เอเชีย ไลออนแอร์ ได้ยกเลิกเส้นทางบินอย่างต่อเนื่องทุกวัน

เบื้องต้น กรมฯ ได้เสนอมาตรการเยียวยาผู้ประกอบการสายการบินไปยัง กพท. เพื่อเสนอให้รัฐบาลพิจารณาแล้ว จะลดค่าธรรมเนียมขึ้น – ลงอากาศยานร้อยละ 50 ค่าจอดอากาศยานร้อยละ 90 และลดค่าเช่าให้ผู้ประกอบการร้านค้าในสนามบินร้อยละ 50 ไปถึงวันที่ 31 ธันวาคมนี้ คาดว่า จะทำให้รายได้หายไปประมาณ 200 ล้านบาท ซึ่งกรมจะต้องขอรับการเยียวยาจากรัฐต่อไป

สำหรับผลกระทบที่มีต่อภาพการเดินทางนั้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก. ได้ออกเอกสารแจ้งสื่อมวลชนว่า จากสถานการณ์ปัจจุบัน ผู้ใช้บริการรถโดยสารของ ขสมก.มีจำนวนลดลง ประมาณ 40 % ขสมก.จึงได้มีการประชุมผู้บริหารเขตการเดินรถที่ 1- 8 และบริษัทเหมาซ่อม เพื่อวางแผนในการบริหารจัดการเดินรถให้สอดคล้องกับจำนวนผู้ใช้บริการ โดยลดจำนวนรถออกวิ่งลงให้มีความสอดคล้องกับจำนวนผู้ใช้บริการในปัจจุบัน (เฉพาะเส้นทางที่มีผู้ใช้บริการลดลง )

ขณะที่ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท. ) ก็ได้ออกประกาศงดเดินขบวนรถท่องเที่ยว และขบวนรถเชิงพาณิชย์ รวด 42 ขบวน โดยเป็นขบวนรถท่องเที่ยว จำนวน 12 ขบวน ตั้งแต่วันที่ 9 มกราคม 2564 และขบวนรถเชิงพาณิชย์ จำนวน 30 ขบวน ตั้งแต่วันที่ 13 มกราคม – 28 กุมภาพันธ์ 2564 เพื่อหลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 โดยผู้โดยสารสามารถคืนเงินตั๋วโดยสารเต็มราคา ซึ่งแน่นอนว่าการงดขบวนรถทั้ง 42 ขบวนก็จะทำให้ รฟท.มีรายได้ลดลงเช่นกัน . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก