ทำเนียบรัฐบาล 23 ธ.ค.-นายกฯ ให้แรงงาน-มท.ออกบัตรสีชมพูขึ้นทะเบียนแรงงานชั่วคราว แก้ปัญหานายจ้างปล่อยทิ้ง เล็งแบ่งโซนพื้นที่เป็นสีตามระดับความเสี่ยงโควิด
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมพิจารณากำหนดวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 โดยคาดว่าสถานการณ์การเงินของประเทศจะดีขึ้นในปี 2564 และ 2565 โดยเฉพาะหากมีวัคซีนป้องกันโควิด จะสามารถเดินหน้าด้านการค้า การลงทุนได้ดี รายได้ของรัฐบาลจะเพิ่มมากขึ้น
“ช่วงนี้ต้องยอมรับว่าภาคการท่องเที่ยวลดลงมากพอสมควร โดยรัฐบาลได้นำงบประมาณ2564 ไปดูแลผู้มีรายได้น้อยและเกษตรกร จึงเป็นเรื่องที่ภาคเอกชนต้องเข้ามาร่วมมือด้วย ทั้งการค้าการลงทุน ซึ่งได้มอบหมายให้คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ออกมาตรการส่งเสริมนักลงทุนในต่างประเทศ เพื่อให้ค่าเงินบาทอ่อนลง ขอทุกคนอย่าตื่นตระหนกเรื่องสถานการณ์การเงินของรัฐบาล เพราะยังอยู่ในเกณฑ์ดี” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนการแพร่ระบาดของโควิด เท่าที่รับรายงาน ขณะนี้พบว่าตัวเลขการติดเชื้อใหม่ลดลง เนื่องจากควบคุมได้มากขึ้น แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือสาเหตุที่เป็นต้นทางของการแพร่ระบาดมาจากแรงงานต่างด้าว หากเป็นแรงงานที่ถูกกฎหมายและอยู่ในประเทศไทยมานานไม่น่าเป็นห่วงเท่ากับแรงงานที่ลักลอบเข้ามาอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งต้องขจัดขบวนการลักลอบนี้ให้ได้ สิ่งที่น่ากังวลคือคนที่เห็นแก่ตัวว่างจ้างแรงงานที่หลบเลี่ยงเข้ามา ซึ่งต้องขจัดให้หมดทั้งขบวนการ
“โรงงานบางแห่งลักลอบนำแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายไปทิ้งตามจุดต่าง ๆ และไล่ออกจากงาน ซึ่งได้สั่งการ ศบค.หามาตรการแก้ไขร่วมกับกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงแรงงาน โดยให้หาแนวทางเช่นเดียวกับการขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวชั่วคราว ที่ออกเป็นบัตรสีชมพู พร้อมย้ำความร่วมมือของประชาชนเป็นเรื่องสำคัญ” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งสำคัญในการประชุม ศบค. ชุดใหญ่พรุ่งนี้(24 ธ.ค.) จะได้ข้อยุติและมีแนวปฏิบัติที่ชัดเจนสำหรับเทศกาลปีใหม่ โดยจะกำหนดพื้นที่ทั้งหมดของประเทศเป็นสีต่าง ๆ ตามระดับของการพบผู้ติดเชื้อและการแพร่ระบาด แบ่งเป็นสีเขียว ส้มและแดง ซึ่งมีมาตรการเฉพาะให้พื้นที่ในแต่ละสีสามารถดำเนินกิจกรรมอะไรได้บ้าง ขณะเดียวกันขอความร่วมมือสื่อมวลชน ในการนำเสนอข่าว ขอให้เผยแพร่ข้อมูลที่น่าเชื่อถือ โดยเฉพาะให้นำข้อมูลจาก ศบค.เป็นหลัก เนื่องจากในโซเชียลมีเดียที่พบการใส่ข้อมูลเท็จและแชร์ข้อมูล ทำให้ประชาชนตื่นตระหนก ภาพลักษณ์ประเทศเสียหาย
“ยืนยันว่ารัฐบาลสามารถควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดได้ เพราะเป็นการพบเชื้อแบบรู้ที่มาและมีมาตรการควบคุมดูแล ทั้งนี้ การพบผู้ติดเชื้อครั้งนี้ไม่รุนแรง ไม่ร้ายแรงเท่าประเทศอื่น จากนี้ต้องขอความร่วมมือจากทุกคน หากมีข้อมูลการนำแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายมาทำงาน ขอให้แจ้งโดยตรงมาที่สำนักนายกรัฐมนตรี ทุกเรื่องจะถูกปิดเป็นความลับ เพื่อจะทำลายขบวนการผิดกฎหมาย โดยเฉพาะประชาชนในพื้นที่ หากปล่อยปละละเลยปัญหาเดิม ๆ จะกลับมาอีก” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อยากถามคนที่ชอบให้ข้อมูลเท็จในโซเชียลมีเดีย ที่ไม่เกิดประโยชน์ว่าคนเหล่านี้เป็นคนไทยหรือไม่ หากเป็นคนไทยจะต้องช่วยกันทำประโยชน์ให้ประเทศ ไม่ขยายความขัดแย้ง ขณะที่การดำเนินคดีต่าง ๆ เป็นเรื่องของศาล ตนไม่สามารถเข้าไปสั่งหรือก้าวล่วงได้ แม้จะมีการร้องทุกข์กล่าวโทษ บางคดีศาลสั่งไม่มีความผิด แต่คนที่มีความผิดจะมากหรือน้อย ศาลเป็นผู้พิจารณาด้วยความเป็นธรรมตามกระบวนการยุติธรรม ดังนั้น เรื่องคดีความต่าง ๆ จะทำตามใจชอบใครไม่ได้ และตนจะไม่เข้าไปก้าวล่วงกระบวนการยุติธรรม.-สำนักข่าวไทย