สถานีกลางบางซื่อ 15 ธ.ค.-นายกฯ นำครม.เยี่ยมชมสถานีกลางบางซื่อ พร้อมทดลองนั่งรถไฟฟ้าสายสีแดง ก่อนเปิดให้บริการประชาชน เปรียบสวยงามเหมือนนครปารีส ระบุ คืออนาคตที่ดีของประเทศ มั่นใจ ประชาชนจะได้รับความสะดวก ปลอดภัย รวดเร็ว
![](https://tna.mcot.net/wp-content/uploads/2020/12/IMG_20201215150704000000.jpg)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นำคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขึ้นรถบัสจากทำเนียบรัฐบาลไปยังสถานีกลางบางซื่อ เพื่อตรวจเยี่ยมและการทดลองนั่งรถไฟฟ้าสายสีแดง ก่อนเปิดให้บริการประชาชนอย่างเป็นทางการต่อไป นายกรัฐมนตรีกล่าวอย่างอารมณ์ดีกับผู้สื่อข่าวว่า “yes จะขึ้นรถบัส ไปขึ้นรถไฟ”
เมื่อนั่งประจำที่แล้ว นายกรัฐมนตรีโบกมือทักทาย พร้อมกล่าวว่า นี่คืออนาคต เทียบได้กับนครปารีสและหอไอเฟลเลยทีเดียว และนี่คือสิ่งดี ๆ ที่เกิดขึ้น จากนั้นบรรดาคณะรัฐมนตรีทยอยขึ้นรถบัสที่จัดไว้ให้ รวมถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ที่แม้จะมีอาการเจ็บที่ขาแต่ก็เดินขึ้นรถบัสร่วมคณะไปด้วย สำหรับรถบัสคันที่นายกรัฐมนตรีและ ครม.นั่ง เลขทะเบียน 34-1830 กทม.
![](https://tna.mcot.net/wp-content/uploads/2020/12/IMG_20201215150715000000-1024x684.jpg)
เมื่อเดินทางถึง นายกรัฐมนตรีและคณะเยี่ยมชมสถานีกลางบางซื่อ รับฟังแผนการพัฒนาที่ดินบริเวณรอบสถานีกลางบางซื่อ และทดลองเดินขบวนรถไฟฟ้าสายสีแดง ระหว่างสถานีกลางบางซื่อ – สถานีรังสิต โดยสายสีแดงมีระยะทางรวม 26.3 กิโลเมตร แบ่งเป็น 10 สถานี ก่อสร้างเป็นทางยกระดับจากบางซื่อถึงดอนเมือง ระยะทาง 19.2 กิโลเมตร และลดระดับเป็นระดับพื้นจากสถานีดอนเมือง ถึงสถานีรังสิต ระยะทาง 7.1 กิโลเมตร
สำหรับสถานีกลางบางซื่อ เป็นศูนย์กลางการเดินทางระบบราง ทำให้เกิดการพัฒนา กระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งเสริมการค้าการลงทุนและการท่องเที่ยว รวมถึงขยายตัวของเมือง พื้นที่เศรษฐกิจตลอดแนวเส้นทาง โดยเฉพาะย่านบางซื่อ ซึ่งในระยะยาวจะขับเคลื่อนให้เป็นศูนย์กลางคมนาคมและการขนส่งทางรางที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ขณะเดียวกันจะแก้ปัญหาจราจรทั้งระบบ เพราะจะเชื่อมต่อการเดินทางจากใจกลาง กทม.สู่ปริมณฑลและเชื่อมโยงไปทุกภูมิภาคของประเทศ มีมาตรฐานเทียบเท่าสถานีรถไฟชั้นนำของโลก สามารถจอดรถยนต์ได้ถึง 1,624 คัน ขณะนี้มีความก้าวหน้าก่อสร้าง 89.10% จะทดสอบการเดินรถเสมือนจริงในเดือนมีนาคม 2564 เปิดให้ประชาชนทดลองใช้บริการเดือนกรกฎาคม 2564 และเปิดบริการเต็มรูปแบบเดือนพฤศจิกายน 2564
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มีความยินดีที่ได้นำ ครม.มาเยี่ยมชมความพร้อมของสถานีกลางบางซื่อ ซึ่งเป็นระบบการขนส่งทางรางที่พัฒนาเพื่อลดความแออัดบนท้องถนน ยกระดับคุณภาพชีวิตชาว กทม.และปริมณฑล สามารถเชื่อมโยงได้ทุกภูมิภาค โครงการนี้เป็นหนึ่งในโครงการตามยุทธศาสตร์ชาติ โดยรัฐบาลส่งเสริมให้ระบบทางรางเป็นเส้นทางสายใหม่ และกำลังพัฒนาเพื่อให้เป็นศูนย์กลางของอาเซียน ยืนยันสถานีกลางบางซื่อไม่ได้ด้อยกว่ารถไฟชั้นนำของโลกทั้งอังกฤษและฝรั่งเศส ต้องให้ไทยเป็นศูนย์กลางด้านคมนาคมทางรางที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน
![](https://tna.mcot.net/wp-content/uploads/2020/12/IMG_20201215150706000000.jpg)
นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า โครงการสถานีกลางบางซื่อ เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ชาติในการพัฒนาระบบขนส่ง เป็นตัวอยางของยุทธศาสตร์ชาติที่จะต้องมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในแต่ละรัฐบาลตามแผนแม่บทที่กำหนดไว้ และจากการทดสอบระบบในวันนี้ มั่นใจว่า ประชาชนจะได้รับความสะดวก และมีความปลอดภัย รวดเร็ว สามารถลดเวลาการเดินทางได้ และจะพยายามทำให้พื้นที่ว่างเปล่าบริเวณข้างทางรถไฟ ให้มีมูลค่าเพิ่มมาขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะขึ้นรถไฟ ได้ชูนาฬิกาที่ระลึก พร้อมกล่าวกับผู้มาร่วมงานว่า “นาฬิกาต้องเดินทุกเรือน เหมือนกับรัฐบาลขับเคลื่อนประเทศเดินไปข้างหน้า” .-สำนักข่าวไทย