กรุงเทพฯ 26 ต.ค.- ตร.เตรียมกำลัง 9 กองร้อย ดูแล 2 กลุ่มผู้ชุมนุมหน้าสถานทูตเยอรมนีเผชิญหน้ากัน
พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าวการดูแลความสงบเรียบร้อย และความปลอดภัยด้านจราจร กรณีกลุ่มผู้ชุมนุมคณะราษฎร 2563 จะเคลื่อนไปสถานทูตเยอรมนี ถ.สาทรใต้
เบื้องต้น เตรียมกำลังตำรวจไว้ดูแลความปลอดภัยโดยแบ่ง 2 ส่วน คือ กำลังตำรวจ นครบาล 6 ดูแลตั้งแต่สี่แยกสามย่าน ถนนพระราม 4 รวม 4 กองร้อย และกำลังตำรวจนครบาล 5 ดูแลถนนสาทร ถนนวิทยุ ถึงหน้าสถานทูตเยอรมนี อีก 5 กองร้อย และมีกำลังดูแลเพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มของนายนิติธร ล้ำเหลือ และกลุ่มคณะราษฎร 2563 เผชิญหน้ากัน โดยจะให้มีการเข้าพื้นที่ทีละกลุ่ม เพื่อป้องกันการเผชิญหน้ากันระหว่าง 2 กลุ่มที่มีความเห็นต่างทางการเมือง และจะพยายามประชาสัมพันธ์ให้ทั้ง 2 กลุ่มจัดกิจกรรมเหลื่อมเวลากัน เบื้องต้นจากการตรวจสอบ ทั้ง 2 กลุ่มไม่มีการแจ้งการชุมนุมกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งถิอว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ
ส่วนการดำเนินคดีที่หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เบื้องต้นพบว่ามีการแจ้งขออนุญาตเพียงวันเดียว คือวันที่ 22 ตุลาคม ขณะนี้พนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีในความผิดฐานฝ่าฝืน พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ เช่นเดียวกับการชุมนุมที่แยกราชประสงค์เมื่อวานนี้ (25 ต.ค.) ซึ่งพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานโดยจะมีการแจ้งดำเนินคดีกับบุคคลที่นำเครื่องขยายเสียงและคนขับรถนำเครื่องขยายเสียงเข้ามาในพื้นที่ ส่วนจะมีการยื่นขอเพิกถอนการประกันตัวนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน หรือไม่ ขณะนี้เป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม
ด้านพลตำรวจตรีจิรสันต์ เปิดเผยว่า ถนนพระราม 4 เป็นจุดที่กลุ่มผู้ชุมนุมนัดกันบริเวณแยกสามย่าน จากนั้นจะเคลื่อนไปตามถนนพระราม 4 ผ่านแยกศาลาแดงไปถนนวิทยุ เลี้ยวขวาไปทางถนนสาทรใต้ เพื่อไปสถานเอกอัครราชทูตเยอรมนี ประจำประเทศไทย โดยตำรวจจะปิดการจราจรก่อนที่กลุ่มผู้ชุมนุมจะเคลื่อนผ่าน หลังจากนั้นจะเปิดการจราจรทันทีที่กลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนผ่าน
ดังนั้น จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางที่อาจได้รับผลกระทบ โดยเส้นทางทึ่ควรหลีกเลี่ยง คือ ถนนพระราม4 (แยกสามย่าน – แยกวิทยุ) ถนนสาทรใต้ (แยกวิทยุ – แยก YMCA) และแยกวิทยุ โดยแนะนำให้ใช้เส้นทางดังต่อไปนี้ คือ ถนนพระราม 1 – บรรทัดทอง ถนนศาลาแดง ถนนอังรีดูนังต์ – ถนนสุรวงศ์ ถนนดอนแวนต์ ถนนราชดำริ – สีลม ถนนนราธิวาสราชนครินท์ ถนนวิทยุ – ถนนสารสิน – ถนนราชดำริ ซอยงามดูพลี ถนนดวงพิทักษ์ หรือใช้เส้นทางพิเศษเฉลิมมหานคร หากมีความจำเป็นต้องใช้ถนนพระราม 4 ทั้งขาเข้า – ขาออก ให้ใช้สะพานไทย-ญี่ปุ่น และสะพานไทย-เบลเยี่ยมแทน .-สำนักข่าวไทย