กรุงเทพฯ 20 ต.ค.- รองปลัดกระทรวงดีอีเอส ระบุศาลอาญาสั่งปิดทุกแพลตฟอร์มออนไลน์ของสำนักข่าว VOICE TV พบผิด พ.ร.บ.คอมฯ และฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
นายภุชพงค์ โนดไธสง รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เปิดเผยว่า หลังจากที่กระทรวงดิจิทัลฯ ได้ส่งหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอ ภาพนิ่ง ที่เป็นการนำเสนอข่าวของสำนักข่าว 5 แห่ง ประกอบด้วย VOICE TV, THE STANDARD, The Reporters, ประชาไท และเยาวชนปลดแอก- Free YOUTH ในระหว่างการชุมนุมของคณะราษฏร ให้ศาลเมื่อวันศุกร์ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยทางกระทรวงดิจิทัลฯ พิจารณาแล้วว่าข้อมูลที่ส่งให้ศาลนั้นพบเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ม.14 นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ และฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง
โดยในวันนี้ศาลมีคำสั่งให้ปิดทุกแพลตเฟอร์มในสื่อออนไลน์ของสำนักข่าว VOICE TV ส่วนสำนักข่าวอื่นๆ อีก 4 สำนัก ส่งหลักฐานไปพร้อมกัน แต่ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งจากศาล
นอกจากนี้รองปลัดกระทรวงดิจิทัลฯ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า หลักจากนี้จะส่งคำสั่งศาลไปให้เจ้าของแพลตฟอร์มต่างๆ พิจารณาดำเนินตามคำสั่งของศาล ส่วนสำนักข่าว VOICE TV ยังสามารถนำเสนอข่าวได้ แต่ต้องดำเนินการเปิดแอคเคาท์ใหม่ และต้องนำเสนอข่าวหรือข้อมูลให้เป็นไปตามกฎหมายอย่าฝ่าฝืนคำสั่ง ส่วนโปรแกรมเทเลแกรม ที่กลุ่มผู้ชุมนุมใช้ในการนัดหมายชุมนุมนั้น ทางกระทรวงได้มีคำสั่งปิดให้บริการ จำนวน 4 แอคเคาท์
อย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงดิจิทัลฯ ยืนยันว่ามีอำนาจในการปิดกั้น ไม่อนุญาตให้ใช้โปรแกรมเทเลแกรม แต่ขณะนี้ยังคำนึงถึงผู้ที่ใช้งานในด้านการค้าและประโยชน์อื่นๆ ดังนั้น จึงสั่งปิดเพียงแอคเคาท์ที่กระทำฝ่าฝืนเท่านั้น
พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษก ตร.เปิดเผยว่า ทาง กอร.ฉ.ประสานกับกระทรวงดิจิทิลฯ ให้ดำเนินการเปิดแอคเคาท์ที่ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จำนวน 58 แอคเคาท์ ประกอบด้วย เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และเว็บไซต์ ทั้งนี้ ยังพบการกระทำในลักษณะที่เรียกว่า looting หรือการปล้นสะดม ซึ่งเป็นการชุมนุมชักชวนให้เข้าไปทำลายทรัพย์สินของทางราชการหรือร้านค้า ซึ่งถือว่ากระทำเช่นนี้เป็นการยุยงปลุกปั่นในโลกออนไลน์ ถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินและความผิดข้อหาลักทรัพย์ จึงขอเตือนให้กลุ่มผู้ชุมนุมอย่ากระทำดังกล่าว พร้อมกันนี้ขอขอบคุณกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนที่คอยห้ามปรามกลุ่มที่จะกระทำผิดดังกล่าวด้วยเช่นกัน.-สำนักข่าวไทย