“พิพัฒน์” อ้อนขอคะแนนให้ “ไสว เลื่องสีนิล” เป็น สส.นครศรีฯ

นครศรีธรรมราช ​25 เม.ย.-“พิพัฒน์” นำกก.บห.ภูมิใจไทย อ้อนขอคะแนนให้ “ไสว เลื่องสีนิล” เป็น สส.ของชาวนครศรีฯ หวังทำงานเชื่อมโยงส่วนกลางกับท้องถิ่น ดึงงบช่วยพัฒนาจังหวัด ด้าน “ภราดร” ยันพรรคคัดคนเหมาะสม หมดยุคปราศรัยด่าเพื่อน ขณะที่ “ซาบีดา” บอกได้ไสวเป็นผู้แทน เปรียบได้รัฐมนตรีช่วยงาน 8 คน

พรรคภูมิใจไทย จัดเวทีปราศรัยโค้งสุดท้าย​ ที่สะพานโค้ง 100 ปี หน้าสถานีรถไฟคลองจันดี อำเภอฉวาง จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อช่วยหาเสียงให้กับนายไสว เลื่องสีนิล ผู้สมัคร สส.นครศรีธรรมราช เขต 8 พรรคภูมิใจไทย บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก มีประชาชนในพื้นที่ทยอยเดินทางมาฟังปราศัย ซึ่งวันนี้พรรคภูมิใจไทยจัดเตรียมเก้าอี้รองรับประชาชนจำนวน 3,000 ที่นั่ง และจัดเตรียมเต็นท์กันฝน หลังจากเมื่อวานนี้มีฝนตกลงมาอย่างหนักระหว่างที่มีการปราศรัย​ โดยขนแกนนำพรรคมาช่วยนายไสว หาเสียงจำนวนมาก นำโดย นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในฐานะแกนนำพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะสมาชิกพรรค นายภราดร ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง นายชลัฐ รัชกิจประการ สส.บัญชีรายชื่อ นายเจเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี นายธนยศ ทิมสุวรรณ สส.เลย น.ส.ผกามาศ เจริญพันธ์ สส.สุรินทร์ และส.ส.ภาคใต้ พรรคภูมิใจไทย


นายพิพัฒน์ ขึ้นเวทีปราศรัย ย้ำขอโอกาสเลือกนายไสวผู้สมัครของพรรคภูมิใจไทย เข้าไปเป็นสส.ในสภาฯ เพื่อที่จะทำงานประสานงานเชื่อมโยงระหว่างท้องถิ่นกับส่วนกลาง ของรัฐบาลโดยเฉพาะอบจ. นครศรีธรรมราช เพื่อผลักดันงบประมาณเข้ามาพัฒนาจังหวัดนครศรีธรรมราช นอกจากสร้างรายได้ทางการเกษตรแล้ว ยังส่งเสริมการสร้างรายได้ด้านอื่นๆ อาทิ​ ผลไม้​ ส้มโอ​ ทุเรียน​ มังคุด รวมถึงการท่องเที่ยว​ และอุตสาหกรรมในพื้นที่

ขณะที่ นายชลัฐ ขึ้นเวทีปราศรัยครั้งแรกขอคะแนนเสียงให้นายไสว​ โดยระบุว่า พรรคเราเป็นฝ่ายรัฐบาลสามารถทำงานคู่กับนายก อบจ.ได้ สามารถรู้ได้ว่าการที่มีคนในพื้นที่มาทำงานกับนายกอบจ. จะแก้ไขปัญหาอย่างไร​ โดยเฉพาะปัญหาเรื่องสาธารณูปโภค และแม้ส่วนตัวจะพูดใต้ไม่ได้แต่ที่บ้านเป็นคนใต้ พร้อมยอมรับว่าตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ ที่ทำงานในสภา รู้สึกเสียใจ ที่เห็นถนนในพื้นที่พระราม 2 ซึ่งเป็นเส้นทางมุ่งสู่ภาคใต้ พัฒนาน้อยกว่าภาคอื่น จึงเป็นแรงผลักดันให้สร้างถนน สาย​4189 ให้กับชาวจังหวัดนครศรีธรรมราชที่รอคอยถนนเส้นนี้ เพื่อทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น และไม่ทำให้นครไม่ใช่เมืองรองแต่เป็นเมืองหลวงเมืองใหญ่ของภาคใต้เหมือนแต่ก่อน


ขณะที่ นายภราดร ปราศรัยตอนหนึ่งว่า การเลือกตั้งเหลือเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมงจะเป็นการกำหนดชีวิตจังหวัดนครศรีธรรมราช หากเลือกนายไสวเข้าสภา ไม่ได้ได้แค่นางมุกดาวรรณช่วยงานในพื้นที่ แต่ยังได้พวกเรากรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทย ได้นายกฯ น้ำ น.ส.วาริน ชิณวงศ์ นายก อบจ.นครศรีธรรมราช ด้วย เพราะการพัฒนาบ้านเมืองทำแค่คนเดียวไม่ได้ ต้องอาศัยเครือข่าย อาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน จำเป็นต้องทำงานเป็นทีม แก้ไขปัญหาที่จัดหาพัฒนาจังหวัดนครศรีธรรมราชรุ่งเรืองอีกครั้ง

นายภราดร กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยทำการเมืองสร้างสรรค์ ไม่เคยชี้หน้าด่าใคร มีแต่บอกว่าเลือกเราแล้วเราจะทำอะไร ในวันนี้หลายคนพูดว่า ทำไมนางมุกดาวรรณถูก ถูกอุบัติเหตุทางการเมือง ต้องมีการเลือกตั้งซ่อม ทำไมพรรคภูมิใจไทยถึงเลือกสามีมาลงสมัครแทน ทำไมถึงทำการเมืองแบบผัวเมีย พวกเราพรรคภูมิใจไทย และกรรมการบริหารพรรค ก่อนจะตัดสินใจเลือกใครเป็นผู้สมัคร ไม่ใช่สักแต่ว่าเป็นคนแล้วเอามาลงสมัคร แต่พวกเราคัดสรรที่พวกเราเห็นว่ามีความเหมาะสมมากที่สุด ซึ่งนายไสวมีความเหมาะสมไม่น้อยไปกว่าใคร ซึ่งการเลือกผู้แทนต้องเลือกด้วยความเชื่อมั่น ไม่ใช่เลือกคนที่เชื่อว่าเลวน้อยกว่า การปราศรัยที่ด่าเพื่อนมันหมดยุคสมัยแล้ว ใครทำแบบนั้น พี่น้องก็จำเป็นต้องเป็นคนตัดสินว่าจะเลือกแบบไหน

ด้าน น.ส.ซาบีดา กล่าวตอนหนึ่งว่า นายไสวมีความมุ่งมั่นตั้งใจ และความจริงใจ เชื่อว่า หากเลือกนายไสว จะไม่ผิดหวังแน่นอน พร้อมย้ำว่า พรรคภูมิใจไทยไม่ได้มาเล่นๆ เหลือเวลาอีก 2 ปี และเรานำคนอื่นมาแล้ว เพราะนายไสว ถือเป็นเบื้องหลังที่ดี และสนับสนุนทุกนโยบายของนางมุกดา เลื่องสีนิล ที่สำคัญมีนโยบายที่สอดคล้องกับนายกอบจ.นครศรีธรรมราช สามารถขับเคลื่อนนโยบายเพื่อประชาชนได้


น.ส.ซาบีดา กล่าวอีกว่า หากดูที่โลโก้พรรคภูมิใจไทยเป็นรูปหัวใจ สีน้ำเงิน และมีแผนที่ประเทศไทยอยู่ตรงกลาง เรานั้นคือประชาชน วันนี้ชาวนครศรีธรรมราช ไม่จำเป็นต้องไปทำงานที่อื่น ความภูมิใจไทยจะเสนอร่างพ.ร.บ.บ้านเกิดเมืองนอน ซึ่งจะทำให้คนนครศรีธรรมราช ที่ไปทำงานต่างจังหวัดเลือกได้ว่าจะเสียภาษีให้กับ บ้านเกิดเมืองนอนของตัวเองได้ ขณะเดียวกันนายไสว ไม่ได้ยืนโดดเดี่ยว นอกจากมีหลังบ้านคือนางมุกดาแล้ว ยังมีพรรคภูมิใจไทยที่มีรัฐมนตรีถึง 8 คน เข้ากลุ่มการพัฒนาทุกด้าน ตั้งแต่การศึกษา การบำบัดทุกข์บำรุง แรงงาน และพาณิชย์ ที่สำคัญมีรองนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่พร้อมจะสนับสนุน และขับเคลื่อนนโยบายให้ถึงมือประชาชน

นายไสว​ ขึ้นเวทีปราศรับสุดท้ายด้วยการนมัสการพ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่เคารพนับถือให้คุ้มครองทุกคน ก่อนจะ แนะนำตัวว่านายไสวเป็นสามีของนางมุกดาวรรณ เลื่องสีนิล​ บ้านเกิดอยู่ทุ่งสง อยู่เบื้องหลังทางการเมืองนางมุกดาวรรณ ที่เป็นสจ.มา 2 สมัย พร้อมสานงานต่อจากนางมุกดาวรรณ เราสองคนพร้อมจะเดินเคียงบ่าเคียงไหล่กับพี่น้อง พร้อมที่จะเข้าไปเห็นปัญหา ช่วยเหลือพี่น้อง เพื่อเป็นประโยชน์กับแผ่นดินเกิด กับชาวเกษตรกรบ้านเรา และเป็นประโยชน์กับชุมชน ช่วง 2 ปีที่นางมุกดาวรรณเข้ามาทำงาน​เป็น​สส.​ เสียสละทุ่มเท ตนพร้อมจะสานงานตรงนั้นโดยมีนางมุกดา​วรรณ​เป็นพี่เลี้ยงที่มีประสบการณ์ เชี่ยวชาญในการประสานงาน​.-319​.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

กัมพูชา ทำหนังสือส่งถึงไทย ปฏิเสธวางกับระเบิดช่องบก

กัมพูชา 19 ก.ค.-กัมพูชาทำหนังสือส่งถึงไทย ปฏิเสธวางกับระเบิดช่องบก ลั่นยึดมั่นอนุสัญญาออตตาวา ประณามคัดค้าน การผลิต และแสดงความเสียใจผู้ได้รับผลกระทบ พร้อมผลักดันสู่กระบวนการพิสูจน์ เพื่อรักษามิตรภาพ ความปลอดภัย ไม่กล่าวหาซึ่งกัน เมื่อวันที่ 19 ก.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราชอาณาจักรกัมพูชา ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ได้ทำหนังสือ ถึงทางการไทย เรื่อง การปฏิเสธต่อการนําเสนอของสื่อมวลชนไทยจำนวนหนึ่ง กรณีทหารไทย 3 นาย ได้รับบาดเจ็บจากทุ่นระเบิดในพื้นที่มุมเบ็ย (ช่องบก) สำานักงานปฏิบัติการทุ่นระเบิคและช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากทุ่นระเบิดแห่งชาติกัมพูชา (สํานักงานทุ่นระเบิด) ขอแจ้งว่า เมื่อไม่นานมานี้ มีสื่อมวลชนไทยจํานวนหนึ่งได้อ้างอิงแหล่งข้อมูลจากข้าราชการระดับสูงของไทย และเผยแพร่เกี่ยวกับทหารไทย 3 นายได้รับบาดเจ็บจากระเบิด เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 บริเวณพิกัด WA 220861 (ยืนยันโดยฝ่ายไทย) อยู่ในพื้นที่มุมเบ็ย (ช่องบก) การเผยแพร่ดังกล่าว มีเจตนา กล่าวหาโดยไม่มีมูลความจริงและไม่มีการตรวจสอบที่ชัดเจนว่ากัมพูชาได้วางทุ่นระเบิดใหม่ ในการนี้สํานักงานทุ่นระเบิด ขอชี้แจงดังนี้ 1.สํานักงานทุ่นระเบิดขอปฏิเสธและปัดตกทั้งหมดต่อเนื้อหาข่าวที่เผยแพร่โดยมีเจตนากล่าวหาว่า กัมพูชาได้วางทุ่นระเบิดใหม่ 2.กัมพูชา […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมาก

กทม. 19 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก คลื่นลมทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศฉบับที่ 5 เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย คลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน (มีผลกระทบในช่วงวันที่ 19-24 กรกฎาคม 2568) ประเทศไทยจะมีฝนตกหนักหลายพื้นที่และมีฝนตกหนักมากบางแห่ง บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบน ประเทศลาวตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังค่อนข้างแรง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มจังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักถึงหนักมากมีดังนี้ วันที่ 19 กรกฎาคม 2568ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดหนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานีภาคกลาง: จังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี และสระบุรีภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราดภาคใต้: จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี […]

รวบแล้ว “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – สืบนครบาลจับ “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง พร้อมสมุน หลังหนีซุกบ้านเช่าย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เร่งล่าอีก 1 ยังหลบหนี กรณีคนร้าย 7 คน แก๊งเสือปุ่น ใช้อาวุธปืนและมีด ก่อเหตุปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท จากผู้มาซื้อคริปโตฯ เหตุเกิดที่ลานจอดรถชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.) และตำรวจ บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุม นายวรวัฒน์ หรือ เสือปุ่น อายุ 43 ปี […]

เดินหน้าเอาผิดหญิงกัมพูชาชี้หน้าด่าไล่ทหารไทย

18 ก.ค. – ปกติคดีทำร้ายร่างกายและจิตใจ ไม่ใช่คดีใหญ่ แต่เมื่อเป็นคู่กรณีไทย-กัมพูชา ในสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดน จึงกลายเป็นคดีระดับประเทศที่ผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญ และดำเนินการอย่างรัดกุม ทั้งคดีอดีตทหารพรานทำร้ายร่างกายทหารกัมพูชา และคดีหญิงกัมพูชา ชี้หน้าด่าไล่ทหารไทยบริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์.-สำนักข่าวไทย