โตเกียว 1 ต.ค.- เจแปนเอ็กซ์เชนจ์กรุ๊ปหรือเจพีเอ็กซ์ (JPX) ผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์โตเกียวหรือทีเอสอี (TSE) ของญี่ปุ่นชี้แจงสาเหตุที่ทำให้ต้องหยุดการซื้อขายหลักทรัพย์ตลอดทั้งวันนี้ว่า เกิดจากฮาร์ดแวร์มีปัญหา
เจพีเอ็กซ์แถลงว่า ฮาร์ดแวร์บกพร่องทำให้มีปัญหาในการรับส่งข้อมูลตลาด ทีเอสอีเตรียมเปลี่ยนฮาร์ดแวร์และดำเนินมาตรการ รวมทั้งซ่อมบำรุง เพื่อสร้างความมั่นใจว่าจะสามารถซื้อขายตามปกติได้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป เจ้าหน้าที่พบปัญหาตั้งแต่ช่วงเช้า จึงสั่งระงับการซื้อขายก่อนตลาดจะเปิดในอีกไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ต่อมาเจพีเอ็กซ์แจ้งในช่วงเที่ยงว่า จะระงับการซื้อขายทั้งหมดของวันนี้ เป็นการระงับการซื้อขายตลอดทั้งวันครั้งแรกนับจากใช้ระบบแอร์โรว์เฮดบริหารงานมาตั้งแต่ปี 2542 เจพีเอ็กซ์แถลงว่า ฮาร์ดแวร์มีปัญหาทำให้ระบบไม่สามารถสลับจากอุปกรณ์มีปัญหาไปเป็นอุปกรณ์สำรองได้โดยอัตโนมัติ การปิดแล้วเปิดเครื่องใหม่หรือรีบูทระหว่างวันอาจทำให้นักลงทุนและผู้มีส่วนร่วมในตลาดเกิดความสับสน ทำให้การจัดการการซื้อขายไม่สามารถดำเนินไปอย่างราบรื่น
ปัญหาที่เกิดขึ้นในวันนี้กระทบทั้งดัชนีนิกเกอิ225 และดัชนีโทปิกซ์ในทีเอสอี รวมไปถึงตลาดหลักทรัพย์นาโงยา ซัปโปโร และฟุกุโอกะที่ดำเนินงานผ่านระบบในกรุงโตเกียว แต่ตลาดหลักทรัพย์โอซากาที่ดำเนินงานผ่านระบบในกรุงโตเกียวเช่นกันกลับทำงานได้ตามปกติ เจพีเอ็กซ์มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดหรือมาร์เก็ตแคปประมาณ 5.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 161 ล้านล้านบาท) ใหญ่เป็นอันดับสามของโลกรองจากตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก และตลาดหลักทรัพย์แนสแด็กของสหรัฐ มีการซื้อขายหลักทรัพย์เฉลี่ยวันละ 3 ล้านล้านเยน (ราว 897,626 ล้านบาท)
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากตลาดหลักทรัพย์นิวซีแลนด์ถูกโจมตีไซเบอร์ในเดือนสิงหาคม ทำให้ต้องหยุดการซื้อขายไปหลายวัน ทางการญี่ปุ่นเผยยังไม่มีสิ่งบ่งชี้ว่าเหตุการณ์วันนี้เกิดจากการโจมตีไซเบอร์ ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่า ไม่น่าจะมีผลกระทบมากนัก ครั้งก่อนที่ทีเอสอีต้องหยุดการซื้อขายช่วงเช้าในเดือนพฤศจิกายน 2548 เพราะปัญหาทางเทคนิคก็ไม่มีผลมากนักมาแล้ว.- สำนักข่าวไทย