fbpx

เหตุเจรจาไม่เป็นผล! ปะทะเดือดปัตตานี 3 วัน วิสามัญรวม 7 ศพ

ปัตตานี 16 ส.ค. – ความคืบหน้าการปิดล้อมกลุ่มผู้ก่อเหตุไม่สงบใน จ.ปัตตานี จนเกิดการยิงปะทะมีผู้เสียชีวิต 4 คน ล่าสุดโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า แถลงว่า การปิดล้อมเพื่อเจรจากับกลุ่มคนไม่เป็นผล และการเข้าเคลียร์พื้นที่พบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 3 คน รวมทั้งหมด 7 คน


เคลียร์พื้นที่ปะทะเดือด พบเพิ่ม 3 ศพ
เหตุการณ์เจ้าหน้าที่ 3 ฝ่ายสนธิกำลังปิดล้อมพื้นที่หมู่ 2 อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เพื่อเจรจากับกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงให้มอบตัว แต่เกิดการยิงปะทะกันหลายระลอกตั้งแต่วันที่ 14 สิงหาคม ทำให้กลุ่มก่อเหตุรุนแรงถูกวิสามัญฆาตกรรม 4 คน เจ้าหน้าที่บาดเจ็บ 3 นาย แต่ยังมีกลุ่มก่อเหตุที่ยังหลบหนีอยู่ เจ้าหน้าที่พยายามปูพรมไล่ล่าอย่างต่อเนื่อง กระทั่งเมื่อเช้านี้ การลงพื้นที่เคลียร์จุดปะทะของ พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชา การตำรวจภูธรภาค 9 พล.ต.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 พล.ต.ปิยะพงษ์ วงศ์จันทร์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี และ พ.อ.คมกฤช รัตนฉายา ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกองกำลังทหารพรานจังหวัดชายแดนภาคใต้ พบศพผู้ก่อเหตุคนที่ 5 ที่ตามล่าตัวนอนเสียชีวิตในทุ่งนา พร้อมอาวุธปืนสงครามข้างกาย 1 กระบอก

ขณะที่การเข้าตรวจสอบบริเวณฐานที่พบในวันแรก พบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 2 คน เบื้องต้นคาดว่า ก่อนหน้านี้บาดเจ็บจากเหตุปะทะ ประกอบกับตลอดหลายวันต้องอยู่ในทุ่งนาที่มีน้ำขัง ขาดอาหารและน้ำ ทำให้เสียชีวิตในเวลาต่อมา


ปฏิบัติการครั้งนี้โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ย้ำว่าตลอด 3 วัน เจ้าหน้าที่พยายามเกลี้ยกล่อมให้กลุ่มก่อเหตุรุนแรงมอบตัวแล้ว แต่ไม่เป็นผล

โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ยังบอกด้วยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังคงเข้าเคลียร์พื้นที่เพื่อความปลอดภัย โดยได้เข้าตรวจสอบฐานปฏิบัติการที่ตรวจยึดไว้ตั้งแต่วันแรกที่เกิดการปะทะโดยละเอียด เบื้องต้นพบเป็นฐานปฏิบัติการที่ใช้งานมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือน และเป็นที่ประชุมวางแผนเตรียมก่อเหตุขนาดใหญ่

สำหรับผู้เสียชีวิตที่ถูกวิสามัญ 7 คน ได้รับยืนยันแล้ว 3 คน คือ นายอันวา กอแล นายมะซูกี สารูเม๊าะ และนายมาสุวัน กะจิ ส่วนอีก 4 คนอยู่ระหว่างยืนยันตัวบุคคล ซึ่ง กอ.รมน.ภาค 4 ได้แสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต และเร่งทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่โดยรอบบริเวณที่มีการปะทะ พร้อมให้ อ.ยะรัง ตั้งโต๊ะรับสำรวจความเสียหายของทรัพย์สินที่เกิดจากการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ เพื่อดูแลเยียวยาต่อไป. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

พายุโซนร้อนซูลิก

ฤทธิ์พายุโซนร้อนซูลิก ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่นครพนม

ฤทธิ์พายุโซนร้อน “ซูลิก” ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่ จ.นครพนม เจ้าหน้าที่ต้องเร่งเดินเครื่องสูบน้ำลงน้ำโขง

อุตุฯ เตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ฝนถล่มหลายจังหวัด

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ภาคเหนือ อีสาน กลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรง

ชายแดนแม่สายยังเละจมโคลน จับตาพายุลูกใหม่

แม้จะผ่านน้ำท่วมใหญ่ในรอบร้อยปีมาหลายวันแล้ว แต่ตอนนี้ชายแดนแม่สายยังเต็มไปด้วยความเสียหายและดินโคลนจำนวนมาก ชาวบ้านหลายคนยังไม่สมารถกลับเข้าบ้านได้

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค การซ้อมเป็นรูปขบวนเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา ครั้งที่ 7 ณ โรงเรือพระราชพิธี ท่าวาสุกรี และวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ขณะที่ “เจ้าอาวาสวัดอรุณฯ” ให้กำลังใจทำหน้าที่ได้เต็มที่-ประสบความสำเร็จ