อิทธิพลพายุ “ซินลากู” ทำไทยฝนหนัก เหนือ-อีสานน้ำป่าหลาก

ภูมิภาค 2 ส.ค.- อิทธิพลของพายุโซนร้อนซินลากูที่กำลังขึ้นฝั่งประเทศเวียดนาม ส่งผลกระทบถึงไทย ทำให้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงบ่ายวานนี้ จนถึงวันนี้ เกิดน้ำป่าไหลหลากหลายพื้นที่ โดยเฉพาะภาคเหนือและอีสาน


น้ำป่าทะลักท่วมหลายหมู่บ้าน จ.เลย

ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงบ่ายวานนี้มาจนถึงวันนี้ ส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลากในหลายพื้นที่ของจังหวัดเลย โดยเฉพาะที่บ้านวังแคน บ้านสูบ และอีกหลายหมู่บ้านในตำบลน้ำสวย อำเภอเมืองเลย ส่งผลให้น้ำในลำห้วยน้ำลาย และลำห้วยสวยไหลเชี่ยว เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนแบบไม่ทันตั้งตัว ชาวบ้านขนของหนีน้ำกันอย่างโกลาหล ระดับน้ำบางจุดสูงกว่า 2 เมตร เบื้องต้นได้รับผลกระทบกว่า 300 หลังคาเรือน


ล่าสุด มีรายงานว่า ฝายที่บ้านสะอาดลายเหนือขาดแล้ว ส่วนพื้นที่อีกหลายหมู่บ้านใน อ.เชียงคาน และ อ.ปากชม ถูกน้ำป่าไหลเข้าท่วมเช่นกัน ถนนสายเชียงกลม-โพนทอง รถไม่สามารถผ่านได้ ชาวบ้านขนสิ่งของ ทรัพย์สิน สัตว์เลี้ยง อพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย เจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและอาสาสมัครกู้ภัย ต้องทำงานกันอย่างหนัก เบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ล่าสุดสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย แต่ยังต้องเฝ้าระวังฝนที่ตกซ้ำ

นายกฯ สั่งผู้ว่าฯ-ทหารช่วยชาวบ้านประสบภัยน้ำป่าเลย

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการผู้ว่าฯ เลย และหน่วยทหารในพื้นที่ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ระดมกำลังช่วยเหลือประชาชน เร่งสำรวจความเสียหาย อย่าปล่อยให้ชาวบ้านเดือดร้อน และขอให้ปฏิบัติงานด้วยความระมัดระวัง คำนึงถึงความปลอดภัย และย้ำเตือนให้ชาวบ้านติดตามข่าวสารจากส่วนราชการอย่างใกล้ชิด


น่านน้ำป่าซัดสะพานขาด 130 ชีวิตถูกตัดขาด

ระดับน้ำในแม่น้ำน่าน และแม่น้ำสาขา น้ำในลำห้วยสาลี่ไหลหลากเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เกิดน้ำป่าไหลหลากซัดสะพานลำห้วยสาลี่ขาด ซึ่งเป็นสะพานเส้นทางหลักเข้าออกหมู่บ้านวนาไพร ม.7 ต.น้ำมวบ อ.เวียงสา จ.น่าน ชาวบ้าน 47 หลังคาเรือน 130 คน ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่เร่งจัดอาหารและน้ำดื่ม เข้าช่วยเหลือบ้าน และวางแผนเร่งสร้างสะพานไม้ให้สัญจรได้ชั่วคราว นอกจากนี้ ยังพบที่บ้านห้วยเลา ต.เชียงของ อ.นาน้อย น้ำป่าซัดสะพานเชื่อมในหมู่บ้านขาด และมีบ้านติดริมน้ำเสี่ยงน้ำป่าไหลหลาก 5 หลังคาเรือน โดยให้อพยพออกมาอาศัยบ้านญาติก่อน ขณะที่ตามหุบเขายอดดอยเกิดดินสไลด์ลงมาปิดถนนหลายจุด โดยเฉพาะเส้นทางถนนสายบ่อเกลือ-เฉลิมพระเกียรติ และบ้านเปียงก่อ ม.2 ต.ขุนน่าน อ.เฉลิมพระเกียรติ

อุตรดิตถ์น้ำป่าหลาก ซัดเรือชาวบ้านคว่ำ

นี่เป็นภาพเหตุการณ์ขณะกูภัยพยายามช่วยเหลือชาย 4 คน น้ำป่าไหลหลากและพัดไปตามลำน้ำปาด ต.บ้านเสี้ยว อ.ฟากท่า จ.อุตรดิตถ์ มองเห็นเพียงแต่ศีรษะ และไหลไวมากๆ ทุกคนต่างวิ่งตาม พร้อมตะโกนให้ทั้ง 4 คน พยายามว่ายน้ำเข้าใกล้ฝั่งหรือเกาะหรือจับกิ่งไม้ ก่อนเร่งน้ำเรือท้องแบนติดเครื่องยนต์ไล่ตามช่วยขึ้นมาอย่างปลอดภัย

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นขณะอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิอุตรดิตถ์สงเคราะห์จัดเตรียมเรือท้องแบนเข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ขณะนั้นได้ยินเสียงกรีดร้องขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านว่า “มีคนตกน้ำ” จึงรีบรุดไปยังพื้นที่ ถูกพบชาย 4 คน ถูกน้ำป่าพัดไปตามลำน้ำปาด เบื้องต้นทราบว่าทั้ง 4 คน ใช้เรือหางยาว สาวลวดสลิงข้ามแม่น้ำปาด เพื่อไปดูไร่ข้าวโพด แต่ขากลับเมื่อมาถึงกลางแม่น้ำ เป็นจังหวะที่น้ำป่าไหลหลาก ทำให้เรือต้านกระแสน้ำไม่ไหวเกิดพลิกคว่ำ และร่างถูกพัดไปกลับกระแสน้ำไปไกลเกือบ 1 กิโลเมตร

ลำปางเร่งช่วยผู้สูงอายุติดน้ำท่วมในบ้าน

จังหวัดลำปางก็หนักไม่แพ้กัน น้ำป่าจากลำห้วยแม่น้อย ไหลทะลักเข้าสู่ลำห้วยในหมู่ 3 และหมู่ 7 บ้านปงถ้ำ-ปงทอง ต.วังทอง อำเภอวังเหนือ อย่างรวดเร็ว ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็เอ่อล้นลำห้วยที่ลึกประมาณ 5เมตร เข้าท่วมบ้านเรือนที่ติดลำห้วย ชาวบ้านเร่งเก็บสิ่งของไว้บนที่สูงทั้งหมด ถือเป็นรอบที่ 2 ในปีนี้ที่เกิดน้ำท่วมฉับพลันเช่นนี้ ขณะที่พื้นที่บ้านแม่ทรายเงิน ตำบลทุ่งฮั้ว อำเภอวังเหนือ น้ำป่าทะลักล้นลำห้วยเข้าท่วมหมู่บ้านเช่นกัน ปริมาณน้ำสูงเกือบระดับเอว ประมาณ 60 เซนติเมตร บ้านบางหลังที่มีผู้สูงอายุติดอยู่ในบ้าน ทำให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องเร่งเข้าช่วยเหลือออกมาอย่างปลอดภัย ขณะนี้ในพื้นที่ยังคงมีฝนตกโปรยปรายต่อเนื่อง

น้ำป่าท่วมถนนเชียงใหม่-เชียงราย

ช่วงบ่ายที่ผ่านมา เกิดฝนตกลงมาอย่างหนักนานหลายชั่วโมง ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ทำให้มีน้ำป่าไหลหลากท่วมถนนสายเชียงใหม่-เชียงราย บริเวณบ้านแม่หวาน ตำบลป่าเมี่ยง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ เป็นระยะยาวหลายช่วง รถทุกชนิดไม่สามารถผ่านได้ ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งนำรถแบ็กโฮเข้าปรับพื้นที่ เพื่อแก้ไข ซ่อมแซม มีรถยนต์ของประชาชนตกค้างจอดตามข้างทางจำนวนมาก

นอกจากนี้ ฝนที่ตกหนักบนดอยสุเทพในตัวเมืองเชียงใหม่ ทำให้น้ำป่าไหลหลากมาตามลำห้วยลงมาด้านล่าง และเอ่อล้นลำคลองคูไหว ทำให้ท่วมถนนและชุมชนในย่านตลาดประตูก้อม ถนนสุริยะวงศ์ ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่การสัญจรเป็นไปอย่างลำบาก.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ กำลังพลเจ็บ 2 นาย

กทม. 24 ก.ค.-ด่วน! เหตุปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ ทบ. เผยทหารกัมพูชา เปิดแนวรบเพิ่มที่ ผามออีแดง เขาพระวิหาร ส่วนทหารไทยงัดปืนใหญ่ตอบโต้ กำลังพลเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุเพิ่มเติมว่า เวลา 0920 น. กองทัพบกพบการปะทะเพิ่มเติมตลอดแนวพื้นที่ผามออีแดง ปราสาทเขาพระวิหาร พบฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธทุกชนิดและ BM21 ส่วนฝ่ายไทยเข้าปะทะตามแผนพร้อมตอบโต้ปืนใหญ่สนาม 09.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 2 นาย จากอาวุธยิงสนับสนุน ในพื้นที่บริเวณกลุ่มปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการปะทะจำนวน 6 พื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ช่องบก เขาพระวิหาร(ห้วยตามาเรีย/ภูมะเขือ) ช่องอ่านม้า ช่องจอม.-313.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

“บิ๊กต่าย” อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็น ตร.

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี อ่านคำพิพากษากรณีที่ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งหนึ่งในรุ่นพี่ที่เป็นจำเลย ปัจจุบันรับราชการตำรวจในภาคอีสาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อสารในประเด็นที่ 1 ตนอยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ 2 กรณีที่คู่กรณีเป็นตำรวจ เราต้องมองย้อนไปในขณะที่เกิดเหตุ มองถอยหลังกลับไป คู่กรณีรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ตนได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน […]

ข่าวแนะนำ

รอง มทภ.2 เยี่ยมปลอบขวัญ ปชช. เชื่อสถานการณ์จบใน 3-7 วัน

ศรีสะเกษ 25 ก.ค. – รองแม่ทัพภาค 2 ลงพื้นที่ปลอบขวัญประชาชนที่ศูนย์อพยพ จ.ศรีสะเกษ เชื่อว่าสถานการณ์จะจบภายใน 3-7 วัน พลตรีนรธิป โพยนอก รองแม่ทัพภาคที่ 2 เดินทางมายังที่ศูนย์อพยพ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งมีประชาชนมาลงทะเบียนพักมากที่สุดกว่า 5,000 คน โดยรองแม่ทัพภาคที่ 2 ได้สอบถามเจ้าหน้าที่ว่าติดปัญหาได้หรือไม่ เช่น เรื่องห้องน้ำอาหาร และที่นอน เป็นต้น จากนั้นได้เดินทักทายจับมือให้กำลังใจกับประชาชนโดยระบุขออย่ากังวลกับทรัพย์สินและบ้านเรือน ส่วนบ้านเรือนที่เสียหายเมื่อสถานการณ์คลี่คลายจะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยซ่อมแซม ส่วนคำถามที่ว่าประชาชนจะสามารถกลับเข้าบ้านเรือนได้ตามปกติเมื่อไหร่นั้น รองแม่ทัพภาคที่ 2 เชื่อว่าสถานการณ์น่าจะคลี่คลายภายใน 3-7 วันนี้ รองแม่ทัพภาคที่ 2 ได้ปราศรัยกับประชาชนถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่จะทรงรับผู้บาดเจ็บจากเหตุสู้รบในครั้งนี้ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ทั้งหมด รวมถึงการซ่อมแซมบ้านเรือนต่างๆ ที่เสียหายด้วย.-สำนักข่าวไทย

ทูตไทยจ่อแถลงข้อเท็จจริง UNSC ประชุมฉุกเฉิน 25 ก.ค.นี้

นิวยอร์ก 25 ก.ค.-ทูตไทยเตรียมแถลงข้อเท็จจริง UNSC ประชุมฉุกเฉิน 25 ก.ค. ส่งหนังสือแจงนานาชาติ ก่อนเตรียมแจงในที่ประชุม ยันกัมพูชาวางทุ่นระเบิดและเปิดฉากยิงใส่ฐานทหารไทยที่ตาเมือนธม จ.สุรินทร์ ของไทยก่อน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติได้ดำเนินการในส่วนของไทยทันที หลังเกิดเหตุปะทะที่ชายแดนไทย-กัมพูชา วานนี้ (24 ก.ค.)โดยมีการส่งหนังสือออกไป 3 ฉบับ ฉบับแรกเป็นหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อตอบโต้ข้อกล่าวอ้างของนายกรัฐมนตรีกัมพูชาจากไทย ให้กับนายอาซิม อิฟติคาร์ อาหมัด เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรปากีสถานประจำสหประชาชาติ ในฐานะประธาน UNSC ในปัจจุบัน พร้อมกันนี้ยังได้ส่งหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้คณะผู้แทนถาวรของสมาชิกสหประชาชาติทั้งหมดรับทราบด้วย ขณะเดียวกัน คณะผู้แทนถาวรไทยยังได้ส่งหนังสือไปถึงนายอันโตนิอู กุแตเรซ เลขาธิการสหประชาชาติ เพื่อแจ้งเหตุการละเมิดอนุสัญญาออตตาวา ซึ่งเป็นอนุสัญญาว่าด้วยการห้ามใช้ เก็บสะสม ผลิต และถ่ายโอนทุ่นระเบิดสังหารบุคคล และการทำลายทุ่นระเบิดดังกล่าว ต่อกรณีที่ทหารไทยเหยียบกับระเบิดจนขาขาดในวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ซึ่งทุ่นระเบิดที่พบเป็นของที่เพิ่งถูกวางใหม่ และยังมีการเกิดเหตุซ้ำแม้ว่าไทยจะมีการเก็บกู้ทุ่นระเบิดไปก่อนหน้านี้หลังเกิดเหตุครั้งแรกแล้วก็ตาม จึงขอให้มีการดำเนินการสอบสวนตามข้อกำหนดในอนุสัญญา และขอให้กัมพูชาชี้แจงข้อเท็จจริงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในดินแดนไทยอีกด้วย ทั้งนี้ UNSC จะจัดให้มีการประชุมฉุกเฉินแบบที่เรียกว่า private meeting ซึ่งเป็นการประชุมปิดที่ใช้เวลาราว […]

องคมนตรี นำสิ่งของพระราชทานมอบแก่ จนท.-ประชาชนได้รับผลกระทบชายแดน

อุบลราชธานี 25 ก.ค.-พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี นำสิ่งของพระราชทานมอบแก่เจ้าหน้าที่และประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ จ.ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี เมื่อช่วงเช้าที่ผ่าน พลเอกไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี ได้เดินไปยังพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ และจุดที่ 2 จังหวัดอุบลราชธานี และขณะนี้องคมนตรีได้เชิญสิ่งของพระราชทานในจุดที่ 1 จ.อุบลราชธานี แก่เจ้าหน้าที่จำนวน 200 ชุด มอบแก่ประชาชน 75 ชุด จากนั้นจะเดินทางไปตรวจเยี่ยมประชาชนในศูนย์อพยพและจะเดินทางไปตรวจเยี่ยมศูนย์พักพิงกลุ่มเปราะบาง รวมไปถึงทหารที่ได้รับบาดเจ็บ ส่วนบรรยากาศเช้านี้ที่ช่องบ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ที่เป็นจุดปะทะ ชาวบ้านได้อพยพมาอยู่ในหลุมหลบภัย เนื่องจากมีเสียงปืนใหญ่ดังต่อเนื่อง ผู้นำชุมชนจึงได้ให้ประชาชนเข้าไปอยู่ในจุดที่ปลอดภัย จากนั้นยังมีรายงานจากรองโฆษกกองทัพบกว่า สถานการณ์ในวันนี้ กองทัพบกได้รับรายงานจากหน่วยในพื้นที่ว่า เริ่มมีการปะทะตั้งแต่เวลาประมาณ 04.00 น. ในพื้นที่ช่องบก และภูมะเขือ จ.อุบลราชธานี รวมถึงในพื้นที่ อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ โดยฝ่ายกัมพูชาได้ระดมยิงด้วยอาวุธหนัก ปืนใหญ่สนาม และจรวด BM-21 เข้ามาอย่างต่อเนื่อง จนถึง 08.00 น. […]

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]