กรุงเทพฯ 28 ก.ค. -ราคาทองคำในช่วงเช้าผันผวนมาก โดยปรับราคาไปแล้ว 6 ครั้ง ในเวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง สมาคมค้าทองคำประกาศราคาขายทองคำแท่งที่ 28,900 บาท ทองรูปพรรณ ขายออกที่ 29,400 บาท เพิ่มขึ้น 50 บาท จากวานนี้
บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด วิเคราะห์ว่าราคาทองคําวานนี้ (27 ก.ค.) ทะยานขึ้น 38.32 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ท่ามกลางแรงเทขายดอลลาร์จากความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องของ COVID-19 ประกอบกับ วุฒิสมาชิกจากพรรครีพับลิกันได้เปิดตัวรายละเอียดแผนช่วยเหลือเยียวยาผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 รอบใหม่ที่มีวงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งการคาดการณ์ว่าเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจจะกระตุ้นให้อัตราเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น จนนําไปสู่การอ่อนค่าของสกุลเงินเป็นปัจจัยหนุนทองคําเช่นกัน ประกอบกับความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐยังคงอยู่ จึงกระตุ้นแรงซื้อทองคําในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มเติม
ทั้งนี้ สถานการณ์ที่กล่าวมาผลักดันให้ราคาทองคําพุ่งทะลุระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เดิมบริเวณ 1,920 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ที่เคยทําไว้ในปี 2554 จนสร้างระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่บริเวณ 1,981 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงเช้าวันนี้ (28 ก.ค.) ในตลาดเอเชีย ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองเพิ่ม 5.84 ตัน สู่ระดับ 1,234.65 ตัน ทําให้ปีนี้กองทุน SPDR ถือครองทองคําเพิ่มแล้วถึง 341.40 ตัน สะท้อนกระแสเงินทุนไหลเข้ากองทุน ETF ทองแข็งแกร่ง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่อยู่เบื้องหลังการปรับตัวขึ้นของราคาทองคํา
ราคาทองคําสร้างระดับสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นแรงซื้อในระดับแข็งแกร่ง หากราคาทดสอบแนวต้านโซน 1,981-1,987 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ยังไม่สามารถผ่านได้อาจมีแรงขายทํากําไรสลับออกมาบ้างแต่ หากการปรับตัวลงยังคงจํากัด หรือไม่หลุดโซนแนวรับ 1,964-1,955 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ประเมินว่าเป็นการอ่อนตัวลง เพื่อสะสมแรงซื้ออีกครั้ง คําแนะนําหากราคาทองคําสามารถรักษาระดับยืนเหนือบริเวณ 1,964-1,955 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ ง สามารถรอขายทํากําไรบางส่วนหากไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,981-1,987 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ถ้าฝ่าไปได้ให้รอขาย บริเวณแนวต้านถัดไป.-สำนักข่าวไทย