สุรินทร์ 27 ก.ค.-ชายแดนสุรินทร์ยังปะทะหนัก กัมพูชาเปิดฉากยิงใส่แต่เช้ามืด กระสุนบางส่วนตกใส่หมู่บ้านฝั่งไทย ขยายรัศมีไกลขึ้นเรื่อยๆ แม้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ เสนอเจรจาหยุดยิง
แม้จะมีการเจรจาหยุดยิงผ่านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา แต่ขณะที่ยังไม่มีการเจรจาทวิภาคี ระหว่างไทย-กัมพูชา เช้ามืดวันนี้ ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ ก็ยังมีการปะทะกันอย่างหนัก จนกระสุนมาตกสร้างความเสียหายให้ราษฎรไทยอย่างที่เห็น“
สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านปราสาทตาควายและตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เริ่มเปิดฉากปะทะกันตั้งแต่ช่วงตี 4 กระสุนจากการประทะบางส่วนเข้ามาตกในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ตำบลบ้านพลวง อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งปรากฏกระสุนรุกล้ำดินแดนไทยลึกเข้ามาเรื่อยๆ ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายทั้งหลัง และมีไฟลุกไหม้ เศษสังกะสี ซีเมนต์ วัสดุโครงสร้างบ้านปลิวกระจัดกระจาย เคราะห์ยังดี ที่เจ้าของบ้านอพยพออกนอกพื้นที่หมดแล้ว เพราะเจ้าหน้าที่ขอร้องให้อพยพออกไปเมื่อวานนี้ จึงไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต บางจุดลงฟาร์มวัววากิว ทำให้วัวตายไป 6 ตัว เจ้าของวัวเล่าว่า ตื่นขึ้นมาก็ได้ยินเสียงลูกปืนใหญ่ของ 2 ฝ่าย และสังเกตเห็นจรวด BM-21 พุ่งเข้ามาที่คอกวัว จึงได้หลบหาที่กำบัง พอเสียงเงียบ ตนก็รีบออกมาดู ก็พบว่า วัวของตนถูกกระสุนตายไป 6 ตัว รู้สึกเสียใจมาก แต่ก็ต้องยอมรับ เพราะไม่มีใครอยากให้เกิด และหลีกเลี่ยงได้
และมีรายงานด้วยว่า ฝ่ายกัมพูชาตั้งใจยิงใส่ตัวปราสาทตาเมือนธม สร้างความเสียหายอย่างต่อเนื่อง ล้วนเป็นการกระทำที่ไม่เคารพกฎเกณฑ์ระหว่างประเทศ ที่เป้าหมายเป็นทั้งพลเรือน ย่านชุมชน ธุรกิจ และโบราณสถาน โดยระหว่างทีมข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหาย ก็ได้ยินเสียงปะทะด้วยปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านต่างหมู่บ้านที่เข้ามาดูเหตุการณ์ ยังยืนยันว่า จะขอเสี่ยงอยู่เฝ้าบ้านต่อไป แม้จะไม่มีหลุมหลบภัย เพราะหมู่บ้านแถบนี้ การประเมินก่อนหน้านี้ไม่ใช่พื้นที่เสี่ยงภัย สิ่งที่เป็นห่วงคือ การงัดแงะของมิจฉาชีพที่มาซ้ำเติมทุกข์ของชาวบ้านในสถานการณ์ความตึงเครียดชายแดน
สถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้อำเภอปราสาท ต้องยุบศูนย์พักพิงชั่วคราวเพิ่มเติม 2 จุด โดยย้ายชาวบ้านในตำบลแนงมุด อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ออกไปไกลวิธีกระสุนอีกเกือบ 100 กิโลเมตร โดยรัฐบาลขอความร่วมมือปิดเว็บที่เปิดเผยโลเคชั่นศูนย์พักพิง หรือจุดล่อแหลมของพลเรือนชายแดน ป้องกันกองทัพกัมพูชาใช้เป็นเป้า
โจมตี
ขณะบรรยากาศในตัวอำเภอปราสาท ร้านรวงต่างๆ ปิดให้บริการจำนวนมาก เพื่อหลบไปอยู่ยังพื้นที่ปลอดภัย ร้านที่ยังให้บริการอยู่ อย่างเช่นร้านจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ ขอประเมินสถานการณ์ก่อน ตอนนี้ยังเชื่อว่าปลอดภัย และเป็นห่วงลูกค้าที่อาจจะมีปัญหาเกี่ยวกับโทรศัพท์มือถือ ลูกค้าที่เป็นพระสงฆ์ ให้ข้อมูลว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้พระที่บวชชั่วคราว ต้องลาสิกขาก่อนกำหนดเมื่อเช้านี้ถึง 3 รูป เพื่อกลับไปดูแลครอบครัว ด้านนายอำเภอปราสาท ให้ข้อมูลว่า ได้ทยอยประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้ประชาชนตั้งแต่เริ่มเกิดเหตุการณ์ สถานที่สำคัญที่เป็นเป้าหมายทางยุทธศาสตร์ก็ให้ปิดไปก่อน ฝ่ายความมั่นคงประเมินว่า วิถีจรวดบีเอ็ม 21 มาไม่ถึงตัวอำเภอปราสาท ส่วนขีปนาวุธพิสัยไกล ก็ต่างมีความเสี่ยงไม่เฉพาะที่สุรินทร์ แต่ครอบคลุมไปหลายจังหวัด ซึ่งชาวบ้านมีความเข้าใจดี

ทั้งนี้ ในช่วงหลังเที่ยงเป็นต้นไป นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ลงพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ เพื่อเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์สู้รบ รวมทั้งมอบสิ่งของเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ
ชาวบ้านตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ต่างหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะเจรจาหยุดยิงให้ได้เร็วที่สุด เพื่อให้สถานการณ์คลี่คลาย โดยที่ไทยต้องไม่เสียเปรียบด้วย.-สำนักข่าวไทย