นายกฯ แถลงผลงาน 2 เดือน โชว์ปราบยาเสพติด

สมุทรปราการ 10 เม.ย.-นายกฯ แถลงผลงาน 2 เดือน โชว์ปราบยาเสพติด ตามมาตรการ “Seal Stop Safe” เปิดเตาเผายานรกกว่า 27 ตัน ขอให้มั่นใจ ไม่มีวนกลับเข้าสังคม พอใจตัวเลขผู้เข้าบำบัดถึง 3 แสนคน ย้ำทุกฝ่ายบูรณาการแก้ปัญหา ก่อนตรวจจราจรบางนา-ตราด, มิตรภาพ, พหลโยธิน, ตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี ก่อนประชาชนออกเดินทาง

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีแถลงผลการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด Seal Stop Safe ผนึกกำลัง 51 อำเภอชายแดน 76 สถานีตำรวจ ใน 14 จังหวัด ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา ในห้วง 2 เดือนแรก ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. – 31 มี.ค.2568 และการเผาทำลายยาเสพติดของกลางของสำนักงาน ป.ป.ส. ประจำปี 2568 (ครั้งที่ 2) โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลา โหม พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด พล.อ.ธงชัย รอดย้อย เสนาธิการทหารบก นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นพ.ศักดา อัลภาชน์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายศุภมิตร ชิณ ศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ และผู้เกี่ยวข้องร่วมงาน


นายกรัฐมนตรี ชมวีดิทัศน์ สรุปผลการดำเนินงานสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด ที่สามารถจับกุมยาบ้า 76,556,800 เม็ด เพิ่มจากปี 2567 กว่า 20 ล้านเม็ด คิดเป็นร้อยละ 32 , จับกุมไอซ์ 7,527 กิโลกรัม เพิ่มขึ้นจากปี 2567 กว่า 7 พันกิโลกรัม เพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 1,700 และกล่าวขอบคุณหน่วยงานภาคีในการขับเคลื่อนงานตามนโยบายรัฐบาล

น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า การแก้ปัญหายาเสพติดมีความคืบหน้าเพราะความร่วมมืออย่าง บูรณาการ เรื่องนี้ไม่สามารถทำโดยภาคส่วนใดหรือหน่วยงานหน่วยหนึ่งได้ ก่อนที่ตนจะเข้ามาเป็นนายกฯ ได้ลงพื้นที่หาเสียงพบว่าเรื่องที่พี่น้องบ่นและเป็นเรื่องที่หนักหนาสาหัสในทุกพื้นที่ คือ เรื่องของยาเสพติดและพูดตลอดขอให้รัฐบาลช่วยปราบยาเสพติดเพราะเมื่อมี 1 คนในบ้านติดยยา จะแพร่ในชุมชนอย่างรวดเร็วและส่งผลเสียต่อสถาบันครอบครัว ชุมชนไปจนถึงจังหวัด และระดับประเทศ ดังนั้นทุกคน ทุกภาคส่วนมีส่วนสำคัญอย่างมากในการที่จะช่วยให้ยาเสพติดน้อยลงจนหมดลงไปได้


ตอนนี้ประเทศไทยไม่ใช่เป็นแหล่งผลิตแต่เป็นทางผ่าน ฉะนั้นเราต้องคอยสกัดเพื่อไม่ให้ยาเสพติดถูกลักลอบเข้ามาในประเทศ โดยกองทัพทำในเรื่องของซีลชายแดนไว้อยู่แล้ว และได้ผลดีมาก เมื่อประชาชนเห็นเครื่องแบบไม่ว่าจะเป็นตำรวจหรือทหาร มีความอุ่นใจและสบายใจที่เราเข้ามาปราบปรามอย่างจริงจัง จึงต้องขอบคุณทุกภาคส่วนที่ช่วยให้ยาเสพติดหมดไป สิ่งที่เราจะทำต่อคือเรื่องการบำบัด ตรงนี้สำคัญเห็นหลายพื้นที่ได้บำบัดไปกว่า 3 แสนคน ถือว่าเยอะมาก และคิดว่าจะช่วยลดการกลับเข้าสู่วงจรยาเสพติดได้อย่างดี จึงอยากเน้นย้ำตรงนี้และให้คิดเสมอว่าผู้ที่เสพยา คือ ผู้ป่วยที่ไม่สบาย เราต้องรักษาให้เขากลับเข้าสู่สังคมได้ต้องต้อนรับกลับเข้าสู่สังคมให้เป็นกำลังสำคัญและเป็นศักยภาพที่ดีของประเทศต่อไปในอนาคต

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมาเราได้แก้ไขปัญหายาเสพติด และปัญหาอาชญากรรม โดยใช้มาตรการ 3 ตัด ตัดน้ำมันตัดไฟ ตัดอินเตอร์เน็ต รวมถึงปฏิบัติการซีล สต็อป เซฟ ซึ่งได้ผลมากและเป็นกำลังใน 51 อำเภอชายแดน และ 76 สถานีตำรวจใน 14 จังหวัด นับตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยกำหนดระยะเวลา 6 เดือน ที่จะปราบอย่างเด็ดขาด และจะติดตามผลทุก 2 เดือน จนมั่นใจแล้วว่าหมดจริง ไม่มีการลักลอบนำเข้ามา ส่วนการเผาทำลายยาเสพติดที่จับกุมและยึดไว้ของทางป.ป.ส. เพื่อแสดงให้เห็นว่าให้ประชาชนสบายใจว่ายาเสพติดที่จับมา ได้นำมาเผาจริงจะและไม่ถูกวนกลับเข้าไปในสังคม หรือวนเข้ามาถึงเด็กและเยาวชน ทุกภาคที่ดำเนินการตรงนี้ ทำให้ประชาชนสามารถไว้วางใจได้ว่าเข้าสู่กระบวนการเผาจริง เผาให้เห็นกับตา ทำให้ประชาชนเข้าใจว่าเราจับแล้วมีกระบวนการตั้งแต่ต้นจนจบเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน

น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ขอให้ทุกคนร่วมมือกันอย่างบูรณาการ ถ้ามีปัญหาหรือต้องการให้รัฐบาลสนับสนุนอะไรเพิ่มเติมให้พูดคุยกัน เราเต็มที่และยินดีที่เรื่องนี้เพราะจะเป็นเรื่องเครื่องมือเครื่องใช้ในการดูแลเจ้าหน้าที่ ยืนยันว่ารัฐบาลมีเจตนาที่แน่วแน่และของทุกภาคส่วนเห็นว่ายาเสพติดเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศและเป็นวาระแห่งชาติ และเราทุกคนพร้อมที่จะทำให้ยาเสพติดหมดไปจากประเทศไทยของเรา


จากนั้นนายกรัฐมนตรี ชมบูธนิทรรศการแสดงผลการดำเนินงานปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด บริเวณลานด้านข้างตึกสำนักงานใหญ่ โดยชมการทดสอบใช้น้ำยาเคมีในการ สุ่มตรวจสอบยาเสพติด ยาบ้ายาไอซ์ เฮโรอีน และคีตามีน ซึ่งยาเสพติดแต่ละชนิดต้องใช้น้ำยาเคมีที่แตกต่างกัน และนายกฯ ได้สอบถามวิธีการเสพของแต่ละชนิดด้วย และเวลาจับรู้ได้อย่างไรว่าเป็นยาเสพติดประเภทไหน โดยของกลางที่จับกุมได้ 80 คดี น้ำหนักยาเสพติดของกลางและสิ่งห่อหุ้ม รวม 27,816.69 กิโลกรัม จากนั้นนายกฯ ได้สวมหมวกนิรภัย พร้อมสวมแมส เพื่อชมไปดูการเผาทำลายยาเสพติด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเป็นประธานแถลงข่าวการดำเนินงานปฏิบัติการสกัดการและปราบปรามยาเสพติดฯ น.ส.แพทองธาร ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ จากนิคมบางปูฯ บินตรวจสภาพการจราจรทางอากาศ ถนนบางนา-ตราด ต่อเนื่องไปที่ถนนมิตรภาพ เพื่อดูเส้นทางจราจรถนนมิตรภาพ ที่ประชาชนจะเดินทางไปภาคอีสาน และถนนพหลโยธิน ที่เป็นเส้นทางเดินทางขึ้นภาคเหนือ และวนกลับดูสภาพจราจรฝั่งตะวันตก เส้นทางตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี เชื่อมต่อถนนพระราม 2 ดูการจราจรเดินทางลงภาคใต้ ประมาณ 45 นาที ก่อนเดินทางตรวจติดตามโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 82 และการเตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวกและปลอดภัยในการเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 บริเวณโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 82 สายทางยกระดับบางขุนเทียน – บ้านแพ้ว (M82) กิโลเมตร ที่ 20 อำเภอ เมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร.-314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ กำลังพลเจ็บ 2 นาย

กทม. 24 ก.ค.-ด่วน! เหตุปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ ทบ. เผยทหารกัมพูชา เปิดแนวรบเพิ่มที่ ผามออีแดง เขาพระวิหาร ส่วนทหารไทยงัดปืนใหญ่ตอบโต้ กำลังพลเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุเพิ่มเติมว่า เวลา 0920 น. กองทัพบกพบการปะทะเพิ่มเติมตลอดแนวพื้นที่ผามออีแดง ปราสาทเขาพระวิหาร พบฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธทุกชนิดและ BM21 ส่วนฝ่ายไทยเข้าปะทะตามแผนพร้อมตอบโต้ปืนใหญ่สนาม 09.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 2 นาย จากอาวุธยิงสนับสนุน ในพื้นที่บริเวณกลุ่มปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการปะทะจำนวน 6 พื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ช่องบก เขาพระวิหาร(ห้วยตามาเรีย/ภูมะเขือ) ช่องอ่านม้า ช่องจอม.-313.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

“บิ๊กต่าย” อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็น ตร.

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี อ่านคำพิพากษากรณีที่ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งหนึ่งในรุ่นพี่ที่เป็นจำเลย ปัจจุบันรับราชการตำรวจในภาคอีสาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อสารในประเด็นที่ 1 ตนอยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ 2 กรณีที่คู่กรณีเป็นตำรวจ เราต้องมองย้อนไปในขณะที่เกิดเหตุ มองถอยหลังกลับไป คู่กรณีรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ตนได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน […]

ข่าวแนะนำ

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมน่านหนักสุดเป็นประวัติการณ์

น่าน 24 ก.ค. – ยังน่าห่วง น้ำท่วมเขตเศรษฐกิจและตัวเมืองน่าน หนักสุดเป็นประวัติการณ์ บางจุดท่วมสูงถึงชั้น 2 ของบ้าน ประชาชนติดอยู่ในบ้านกลางน้ำ ยิ่งค่ำยิ่งลำบาก .-สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือด “ไทย-กัมพูชา”

24 ก.ค. – ไล่เรียงไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เกิดขึ้นในวันนี้ (24 ก.ค.) มีที่มาที่ไปอย่างไร พลันที่ชุดลาดตระเวน กองพันทหารราบที่ 14 เหยียบกับระเบิดที่ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อเย็นวานนี้ (23 ก.ค.) ทำให้ทหาร 1 นาย บาดเจ็บสาหัสขาขาด อีก 4 นาย บาดเจ็บ ซ้ำรอยเหตุทหารไทยเหยียบกับระเบิดจนขาขาดในเวลาเพียง 1 สัปดาห์ ทำให้สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตึงเครียดถึงขีดสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยกระดับมาตรการตอบโต้สั่งปิดด่าน 4 แห่ง คือ ช่องอานม้า, ช่องสะงำ, ช่องจอม และช่องสายตะกู พร้อมปิดสถานที่ท่องเที่ยว 2 แห่ง คือ ปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควายทันที 07.35 น. วันนี้ (24 ก.ค.) ความรุนแรงเริ่มชัดเจนขึ้น เมื่อทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม รายงานว่าได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ […]

ไม่พลาดเป้า! เอฟ-16 ทิ้งบอมบ์รอบ 2 กลับฐานปลอดภัย

24 ก.ค.- ทอ.เปิดปฏิบัติการ ส่งเอฟ-16 ทิ้งบอมบ์ฝั่งกัมพูชาไม่พลาดเป้า กลับฐานแล้วอย่างปลอดภัย เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 24 ก.ค.68 กองทัพอากาศ เปิดปฏิบัติการ ส่ง F-16 รอบ 2 ของวันนี้ 4 เครื่อง ในการโจมตีทางอากาศตอบโต้กองทัพกัมพูชา ในจุดสำคัญ ทางทิศใต้ของปราสาทตาเมือนธม ไม่พลาดเป้า โดยล่าสุด 17.00 น. F-16 ทั้ง 4 เครื่อง กลับฐานบิน ปลอดภัย หลังสนับสนุน เปิดปฏิบัติการ “ยุทธบดินทร์” -สำนักข่าวไทย