นายกฯ คิกออฟ “บ้านเพื่อคนไทย” ให้ประชาชนเข้าชมบ้าน-ห้องตัวอย่าง

สถานีกลางบางซื่อ 17 ม.ค.-นายกฯ คิกออฟ เปิดโครงการ “บ้านเพื่อคนไทย” ให้ประชาชนเข้าชมบ้าน-ห้องตัวอย่าง และจองสิทธิ์ หวังยกระดับคุณภาพชีวิต มีบ้านใกล้ที่ทำงาน ลดความเหนื่อยล้า มีแรงช่วยพัฒนาประเทศ เผยหลังเปิดจองพบประชาชนกว่า 12 ล้านคน เข้าจองสิทธิ์ในเว็บไซต์จนเว็บล่ม ขณะที่ชาวบ้านมารอเข้าคิวที่สถานีกลางบางซื่อ คึกคักตั้งแต่ตี 5

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเปิดโครงการ “บ้านเพื่อคนไทย” พร้อมเปิดชมห้องตัวอย่าง และจองสิทธิ์โครงการบ้านเพื่อคนไทย ณ โถงกลางประตู 1 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ เขตจตุจักร กรุงเทพฯ


โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นางมนพร เจริญศรี นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง รวมถึงนายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามี และนางสาวพินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ พี่สาว มาร่วมเปิดงานด้วย

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้เป็นวันที่ดี เพราะในที่สุดเราก็จะได้เห็นห้องตัวอย่างที่เป็นรูปธรรม หลังจากที่เราได้พูดกันมาสักพักหนึ่งแล้ว วันนี้อยากจะถามทุกคนว่า ทราบหรือไม่ว่ามีคนไทยจำนวนมากไม่มีบ้านของตัวเอง ซึ่งจากที่ตนทำการบ้าน พบว่ามีกว่า 5.87 ล้านครอบครัว หรือคิดเป็น 27% ไม่มีบ้านของตนเอง รัฐบาลนี้เน้นย้ำเรื่องการช่วยเหลือ ซัพพอร์ตพี่น้องประชาชน นั่นคือสิ่งที่สำคัญ เราพยายามมีนโยบายที่จะดูแลประชาชนทุกกลุ่มให้เข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ และให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีและมั่นคงขึ้น


โครงการนี้เป็นหนึ่งในโครงการที่ช่วยซัพพอร์ตสำหรับคนที่เริ่มทำงาน พยายามเก็บตังค์ที่จะมีบ้าน มีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง แต่พอเก็บตังค์ไป ราคาบ้านก็สูงขึ้นเรื่อยๆ พอไปซื้อบ้านที่อยู่ไกลจากที่ทำงาน รถก็ติด ไม่มีรถไฟฟ้า ใช้เวลาไปกลับร่วม 3 ชั่วโมง เป็นสิ่งที่ทำให้รู้สึกเหนื่อยล้าในการทำงานแต่ละวัน

คนที่มีศักยภาพเหล่านั้น อายุที่อยู่ในวัยขับเคลื่อนก็หมดแรง พอหมดแรง แทนที่ประเทศชาติจะพัฒนาได้เท่าที่ควร ซึ่งรัฐบาลมองเห็นสิ่งเหล่านี้ ถ้าหากประชาชนมีที่อยู่อาศัยที่ดี ใกล้ที่ทำงาน ประหยัดเวลา สามารถใช้เวลากับครอบครัว เพื่อชาร์จพลัง จะทำให้มีศักยภาพมากขึ้น มีแรงมากขึ้นในการทำงาน ซึ่งถือเป็นพื้นฐานในปัจจัยสี่ ที่อยากให้คนไทยทุกคนมีกินมีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี เราอยากให้ประชาชนลดความทุกข์ลงในทุกรูปแบบ โครงการนี้เป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ ที่จะทำให้พี่น้องประชาชนมีบ้านที่ดี ไม่ห่างไกลจากที่ทำงานจนเกินไป มีแรงตื่นเช้าไปทำงาน

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า บ้านเพื่อคนไทย เป้าหมายเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนคนไทยให้สามารถอยู่ได้อย่างปลอดภัย คือสิ่งที่รัฐบาลต้องการ


จากนี้เราจะพยายามอัปเดตข้อมูลทุกช่องทางอย่างต่อเนื่อง ทั้งการเปิดจอง หรือข้อมูลเพิ่มเติม จึงอยากให้ติดตามช่องทางโซเชียลมีเดียของรัฐบาลไว้ ส่วนบ้านตัวอย่างก็สามารถมาดูได้ที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 31 มกราคมนี้ ตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น. ไม่เว้นวันหยุดราชการ จากนั้นจะมีการปรับช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่อยากชมตัวอย่างโครงการ

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า โอกาสนี้ต้องขอขอบคุณกระทรวงคมนาคม ซึ่งที่ผ่านมาทำงานหนักมาก ในวันนี้คิดว่าหายเหนื่อย ไป 1 Step แล้ว และต้องขอบคุณมากๆ กระทรวงการคลังด้วย ช่วยกันทำโครงการนี้ รวมถึงรถไฟแห่งประเทศไทย บริษัท SRT Asset

“ในประเทศของเรามีเรื่อง มีมิติอีกมากมายที่ทุกคนต้องร่วมมือช่วยกันเพื่อผลักดัน ฉะนั้นวันนี้ขอบคุณทุกท่านที่มีส่วนสำคัญอย่างมากในการช่วยเหลือประชาชน ขอให้ทุกคนร่วมมือร่วมใจกันแบบนี้ในทุกนโยบายของรัฐบาล เพื่อประเทศชาติ เพื่อพี่น้องประชาชน”

จากนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะ ได้เยี่ยมชมตัวอย่างโครงการบ้านเพื่อคนไทย โดยนายกฯ ได้เอ่ยปากชมว่า บ้านตัวอย่างสวย โดยเฉพาะบ้านเดี่ยวที่จังหวัดเชียงใหม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการเปิดให้ประชาชนจองสิทธิ์โครงการฯ ผ่านเว็บไซต์ ปรากฏว่า ระบบล่ม โดยนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ขณะนี้มีประชาชนสนใจเข้าเว็บไซต์เพื่อจองสิทธิ์ 12 ล้านคน

ก่อนเดินทางกลับ นายกรัฐมนตรีได้เดินไปพบปะพูดคุยกับประชาชนที่เดินทางมารอลงทะเบียนจองสิทธิ์ ซึ่งประชาชนบางคนบอกว่า มารอตั้งแต่ตี 5 เพื่อจะรีบมาเข้าคิวจองสิทธิ์บ้านเพื่อคนไทย

สำหรับแบบบ้านเพื่อคนไทย จะเป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียว ขนาด 50 ตารางวา คอนโดมิเนียมมีขนาดตั้งแต่ 30 ตารางเมตร ไปจนถึงห้องขนาดใหญ่ มีห้องครัว ห้องนั่งเล่น ห้องนอน ขนาด 51 ตารางเมตร นำร่องเฟสแรก 4 พื้นที่ ประกอบด้วย ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ประกอบด้วย

1.พื้นที่บางซื่อ กม. 11 เขตจตุจักร ซอยวิภาวดี 11 ติดถนนกำแพงเพชร ห่างจากสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ 2.5 กม., ห่างจากเซ็นทรัลลาดพร้าว 500 เมตร, ห่างจาก MRT พหลโยธิน 500 เมตร

2.พื้นที่ธนบุรี (ศิริราช) ตรงข้ามตลาดศาลาน้ำร้อน ห่างจากรถไฟฟ้าสายสีแดง และสายสีส้ม 800 เมตร มีขนาดที่ดินประมาณ 23 ไร่ แต่เนื่องจากพื้นที่ยังมีบ้านพักพนักงานรถไฟ จึงต้องศึกษาเพิ่มเติม

3.พื้นที่เชียงราก จ.ปทุมธานี ใกล้ ถ.เลียบคลองเปรมประชากร ห่างจากสถานีรถไฟเชียงราก 4.4 กม., ห่างจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต 4.4 กม., ห่างจากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ 4.4 กม., ห่างจากมหาวิทยาลัยกรุงเทพ 9 กม.

4.พื้นที่เชียงใหม่ ติดสถานีรถไฟเชียงใหม่ ติด ถ.เจริญเมือง ถ.ทุ่งโฮเต็ล ห่างจากโรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย 2.5 กม., ห่างจากมหาวิทยาลัยพายัพ 2.6 กม., ห่างจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 7.5 กม., ห่างจาก ถ.ซุปเปอร์ไฮเวย์ 1.3 กม.

ส่วนที่เชียงใหม่ เป็นบ้านเดี่ยวขนาด 50 ตารางวา ให้จับจอง ส่วนบางซื่อ กม.11 เชียงรากและธนบุรี จะเป็นคอนโดมิเนียม และจะเปิดให้ประชาชนเข้าชมห้องตัวอย่าง พร้อมทั้งเปิดให้ผู้ที่สนใจแสดงความประสงค์เข้าร่วมโครงการจองสิทธิ์ได้ หรือสามารถลงทะเบียนผ่านทาง www.บ้านเพื่อคนไทย.th ตั้งแต่เวลา 14.00 น. เป็นต้นไป.-316.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

5 ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากระเบิดกัมพูชา ทำพิธีลอยอังคาร

ชลบุรี 24 ส.ค. – 5 ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุกัมพูชายิงจรวดตกใส่ ทำพิธีลอยอังคาร ส่งดวงวิญญาณกลางอ่าวสัตหีบ โดยกองเรือยุทธการอำนวยความสะดวก 5 ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดของกัมพูชา เมื่อวันที่ 25 กรกฏาคม ประกอบด้วย ครอบครัวประชัน ซึ่งสูญเสียนางสาวรุ่งรัศ เด็กหญิงทักษพร และเด็กชายพงศภัค ครอบครัวเด็กชายกิตติศักดิ์ คำวัง ครอบครัวนางสาวอรุณรัตน์ วันศรี ครอบครัวนายสมศรี ลาภบุญ และครอบครัวนางสาวสาวิตรี อ่อนทรวง นำอัฐิผู้เสียชีวิต เดินทางจากจังหวัดศรีสะเกษ มายังกองเรือยุทธการ ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เพื่อทำพิธีลอยอังคาร ส่งดวงวิญญาณ โดยกองเรือยุทธการอำนวยความสะดวก สนับสนุนที่พัก รวมทั้ง จัดเรือกร.702 นำครอบครัวผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีกลางอ่าวสัตหีบ พิธีเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมเกียรติ ทุกคนต่างบอกว่า แม้จะผ่านมา 1 เดือน แต่ก็ยังทำใจไม่ได้ โดยเฉพาะครอบครัวประชัน ที่ต้องภรรยาและลูกอีก 2 คนไปพร้อมกัน.-สำนักข่าวไทย

ทบ. ตรวจสอบสาเหตุพลทหารเสียชีวิตที่ปราสาทตาเมือนธม

24 ส.ค. – กองทัพบกได้รับรายงานการเสียชีวิตของกำลังพลบริเวณปราสาทตาเมือนธม ปัจจุบันอยู่ระหว่างการตรวจสอบสาเหตุ พร้อมให้การช่วยเหลือเยียวยาตามสิทธิอย่างครบถ้วน กองทัพบกขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของ พลทหาร พิทยุตท์ โสดา กำลังพลสังกัด กองพันทหารราบที่ 21 หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 ซึ่งเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2568 เวลา 18.15 น. โดยพบร่างผู้เสียชีวิตภายในห้องสุขา บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ พลทหารพิทยุตท์ โสดา อายุ 20 ปี เป็นทหารกองประจำการ รุ่นปี 1/67 จากการสมัครใจเข้ามารับราชการในโครงการพลทหารออนไลน์ ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง พลปืนเล็ก หมู่ปืนเล็กที่ 2 หมวดปืนเล็กที่ 1 สังกัด กองร้อยทหารราบที่ 211 กองพันทหารราบที่ 21 หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 จากการตรวจสอบเบื้องต้น ผู้เสียชีวิตไม่มีโรคประจำตัว ไม่มีประวัติเสพยาเสพติด ไม่มีภาวะความเครียด […]

แจงปมเลขบัตรประชาชน “หลวงพ่ออลงกต” ซ้ำคนตาย

กทม. 24 ส.ค.-กรมการปกครอง แจงปม “เลขประจำตัวประชาชน” หลวงพ่ออลงกต ซ้ำกับคนตาย ส่วนการเปิดพร้อมเพย์ เลขบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ตาย ซึ่งตรงกับบัญชีกองทุนอาทรประชานาถ เป็นการดำเนินการโดยธนาคารพาณิชย์ กรณีมีรายงานว่า หลวงพ่ออลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ซึ่งมีชื่อเดิมว่า นายอลงกต พูลมุข มีชื่อซ้ำกับ นายอลงกต พลมุข ที่มีภูมิลำเนาที่ อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา และได้เสียชีวิตไปแล้วนั้น รวมทั้งวันเดือนเกิดยังตรงกัน ต่างกันเพียงปีเกิด ล่าสุดเฟซบุ๊ก กรมการปกครอง fanpage ได้โพสต์ข้อความถึงประเด็นดังกล่าว โดยระบุว่า “กรมการปกครอง ชี้แจงกรณีเลขบัตรประจำตัวประชาชนของหลวงพ่ออลงกต ตามที่ปรากฏข้อมูลจากสื่อมวลชนว่า ‘หลวงพ่ออลงกต มีเลขประจำตัวประชาชนตรงกับนายอลงกต พลมุข ซึ่งเป็นบุคคลที่เสียชีวิตแล้ว’ นั้น สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง ได้ตรวจสอบฐานข้อมูลทะเบียนราษฎรของกรมการปกครอง พบว่า พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือ หลวงพ่ออลงกต เลขประจำตัวประชาชน x-xxxx-xxx036-50-7 ชื่อจริง อลงกต พูลมุข นามสกุล พูลมุข มีสระอู เกิดปี […]

“คาจิกิ” ทวีกำลังเป็นพายุไต้ฝุ่น ส่งผลให้ไทยฝนตกเพิ่มทุกภาค

กรุงเทพฯ 24 ส.ค.- กรมอุตุฯ ออกประกาศระบุ ช่วงเช้าที่ผ่านมา พายุโซนร้อน “คาจิกิ” ในทะเลจีนใต้ ได้ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น เตือน 57 จังหวัด เฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมาก ตั้งแต่วันที่ 24-27 ส.ค.68 นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า พายุโซนร้อน “คาจิกิ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น “กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย และมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนเข้าสู่อ่าวตังเกี๋ย ก่อนจะขึ้นฝั่งตอนบนของ ประเทศเวียดนาม และ สปป.ลาว ในช่วงวันที่ 25–26 สิงหาคมนี้ ขอบด้านหน้าของพายุ เริ่มส่งผลกระทบต่อไทยตั้งแต่วันนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีเมฆฝนเพิ่มขึ้น จากนั้นจะมีฝนตก ก่อนขยายไปยังภาคกลาง รวมทั้ง กรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก และ ภาคใต้ ในช่วงวันถัดไป กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า อิทธิพลของพายุ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่มีกำลังแรง จะทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ […]