สั่งตรวจสอบถนนจุดเกิดเหตุรถทัวร์คว่ำ-กระบะชนต้นไม้

สุราษฎร์ธานี 2 ม.ค. – ผู้ว่าฯ สุราษฎร์ฯ สั่งตรวจสอบถนนจุดเกิดเหตุรถทัวร์พลิกคว่ำและกระบะหักหลบรถตู้รับส่งนักเรียนชนต้นไม้ หลังพบเป็นถนนตัดใหม่ การก่อสร้างยังไม่เสร็จสมบูรณ์


คืบหน้า อุบัติเหตุรถทัวร์ เช่าเหมาคันนำผู้สูงอายุ จาก จ.สมุทรสาคร มาท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่ ที่ อ.เบตง จ.ยะลา ก่อนประสบอุบัติเหตุ บนถนนสายเอเชีย 41 ใกล้แยกป่าเว (ขาขึ้น) ต.ป่าเว อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ขณะเดินทางกลับสมุทรสาคร มีผู้เสียชีวิต 5 ราย และมีผู้บาดเจ็บ 30 คน เหตุเกิดเมื่อช่วงหัวค่ำวานนี้ (1 ม.ค.)

หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้นำร่างผู้เสียชีวิตไปเก็บไว้ที่มูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานี เพื่อรอให้ญาติมาร่างกลับไปบำเพ็ญกุศล นอกจากนี้ ยังมีผู้บาดเจ็บ เหลือ 8 ราย รักษาที่ รพ.ไชยา 3 ราย กลับบ้านได้เพิ่ม 1 ราย และรักษาตัวที่ รพ.สุราษฎร์ อีก 4 ราย สำหรับผู้สารที่บาดเจ็บเล็กน้อย 30 คน มีญาติทยอยมารับไปแล้วส่วนหนึ่ง ส่วนที่เหลืออีก 11 คน ทางขนส่งจังหวัดสุราษฎร์ฯ จะได้จัดรถส่งกลับภูมิลำเนา ที่จังหวัดสมุทรสาคร


ล่าสุด ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เข้าเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เพื่อให้กำลังใจจากอุบัติเหตุดังกล่าว โดยพักอาศัยชั่วคราวอยู่ที่รีสอร์ต ริมถนนสาย 41 อ.ไชยา หลังทางรีสอร์ตได้เปิดที่พักให้ผู้ประสบเหตุฟรี ด้านผู้ว่าฯ สุราษฎร์ธานี บอกว่า จากการตรวจสอบทราบว่า รถทัวร์คันนี้เดินทางจาก สมุทรสาคร ตั้งแต่ 28 ธ.ค.67 รวม 38 คน และมีผู้โดยสารลงที่ จ.สุราษฎร์ธานี 1 คน ก่อนนำนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ไปเที่ยวที่ อ.เบตง จ.ยะลา ก่อนจะเดินทางกลับ โดยคืนวันที่ 31 ธ.ค. ได้พักที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เช้าวันที่ 1 ม.ค. เดินทางจากสงขลา และมาเกิดอุบัติเหตุ ที่สุราษฎร์ฯ เบื้องต้นสอบถาม พนักงานขับรถก็ขับดี ผู้โดยสารประทับใจ ไม่ได้ขับเกินกว่าหนด ในช่วงที่เกิดเหตุ พบความเร็ว 81 กม./ชม.

เบื้องต้นอาจเป็นเพราะจุดดังกล่าว เป็นถนนใหม่ที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบความบกพร่องของถนน และเร่งแก้ไข เบื้องต้นทราบว่ามีงบประมาณในการทำราวกั้นกลางถนนเพิ่ม ซึ่งได้กำชับให้เร่งดำเนินการแก้ไขให้เสร็จก่อนเทศกาลสงกรานต์

ทั้งนี้ทีมข่าวสำนักข่าวไทย ลงพื้นที่สำรวจถนนตรงจุดดังกล่าว เป็นจุดที่กำลังก่อสร้างถนนตั้งแต่แยกไชยาจนถึงแยกป่าเว ระยะทางประมาณ 1-2 กิโลเมตร ตรงจุดเกิดเหตุเป็นถนนกว้าง 2 เลน ไหล่ทางอีกข้างละ 1 เมตร ซึ่งสามารถให้รถวิ่งได้ทุกเลนแล้ว แต่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ยังไม่ได้ตีเส้นจราจร ป้ายบอกทางโค้งก็ยังไม่มี ประกอบกับเป็นโค้ง หากถนนมืดก็ค่อนข้างอันตราย เบื้องต้นพบว่าล้อขวาตกถนน และไถลตกร่องกลางถนนไปชนกับต้นไม้


ด้าน ผกก.สภ.ไชยา เปิดเผยว่า เบื้องต้น ตำรวจแจ้งดำเนินคดีกับนายสุเทพ คนขับรถทัวร์ ในข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต และบาดเจ็บ และทรัพย์สินเสียหาย ขณะที่สอบปากคำคนขับรถทัวร์ ให้การว่ามีแผนจะไปเปลี่ยนคนขับมือสองที่ จ.ชุมพร แต่เมื่อขับมาถึงจุดเกิดเหตุ ได้ขับแซงรถ 6 ล้อที่วิ่งเลนซ้าย ก่อนที่ล้อขวาจะตกถนน ตรงร่องกลางถนน และดึงไม่กลับจนเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว

ขณะที่ ข้อมูลจากสำนักสวัสดิสภาพการขนส่ง กรมการขนส่งทางบก ได้ตรวจสอบรถทัวร์คันเกิดเหตุ พบว่า เพิ่งผ่านการตรวจสภาพเป็นประจำล่าสุด เมื่อ 25 ธ.ค.67 ส่วนคนขับก็พักผ่อนเต็มที่ และเข้าจุดเช็กของการขนส่งที่ท่าฉาง ห่างจากจุดเกิดเหตุ 30 กิโลเมตร เบื้องต้นถือว่ารถพร้อม คนพร้อม ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งหาสาเหตุของอุบัติเหตุดังกล่าว เพื่อวางมาตรการด้านการปลอดภัยให้ผู้ใช้รถใช้ถนนต่อไป

ส่วนอีกกรณี รถกระบะสีเทาตอนครึ่ง ป้ายทะเบียนกรุงเทพฯ เสียหลักตกร่องกลางถนน และชนต้นไม้ บนถนนเอเชีย 41 หลักกิโลเมตร 124/500 ขาล่องใต้ ตรงข้ามขนส่งไชยา ม.4 ต.ป่าเว อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้า วันนี้ (2 ม.ค.) ที่ผ่านมา ตรวจสอบภายในรถพบผู้เสียชีวิต 4 ราย เป็นเด็กชาย 2 ราย ผู้ใหญ่ 2 ราย มีผู้บาดเจ็บอีก 3 คน ถูกนำส่ง รพ.ไชยา ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทำให้อุบัติเหตุในครั้งนี้มีผู้เสียชีวิตรวม 7 ราย โดยตรวจสอบ พบว่าจุดเกิดเหตุนี้ ห่างจาก อุบัติเหตุรถทัวร์กว่า 4 กิโลเมตร เป็นถนนขาล่องใต้ เส้นทางตรงปกติและไม่มีการซ่อมหรือสร้างถนน สอบถาม ผู้เกี่ยวข้อง ให้ข้อมูลกับตำรวจว่าผู้โดยสารในรถกระบะทั้งหมดเป็นญาติกัน เดินทางมาจาก อ.ปะทิว จ.ชุมพร มีจุดหมายปลายทางคือ จ.ตรัง ขับมาด้วยความเร็วสูง ก่อนรถส่ายเสียหลักจะไปชนรถตู้ที่จอดรับนักเรียน ทำให้รถกระบะตัดสินใจหักหลบรถตู้พุ่งชนต้นไม้ เบื้องต้นคาดว่าคนขับหลับใน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบร่างพลทหารรัวยิงชาวบ้านแล้ว คาดจบชีวิตตัวเองในป่า

15 ส.ค.- พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมา เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็นป่าติดกับคลองส่งน้ำ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมาส่งพิสูจน์ทราบต่อไป ด้านครอบครัวที่มาเฝ้ารอ ต่างเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น – สำนักข่าวไทย

ทบ.แจงเหตุทหารรัวยิงชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ยังคุมตัวไม่ได้

15 ส.ค.- กองทัพบกแจงเหตุทหารหนีออกจากหน่วยพร้อมอาวุธปืน รัวยิงกลางดึก ชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ราย จนท.เร่งล่า ยังไม่พบตัว หากประชาชนพบเห็นรีบแจ้งทันที กองทัพบกชี้แจงเหตุการณ์ใช้อาวุธปืนในพื้นที่อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 เวลา 00.45 น. กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ยินเสียงปืนดังเป็นชุด จำนวน 10 นัด บริเวณถนนข้างวัดบ้านเขื่อนแก้ว อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ต่อมาเวลา 00.54 น. ได้ยินเสียงปืนเพิ่มอีก 2 นัด จากการตรวจสอบกำลังพลและอาวุธประจำกาย พบว่า พลทหารรัฐภูมิ เทพศิริ สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ออกจากที่ตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมอาวุธปืนเล็กยาวและกระสุนจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ได้แก่ ผู้บาดเจ็บทั้งสองรายได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและส่งโรงพยาบาลกาบเชิง ก่อนส่งต่อรักษาตามความเหมาะสม โดยขณะนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจร่วมกับกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ตรวจสอบพื้นที่และสอบถามพยาน เบื้องต้นคาดว่าพลทหารดังกล่าวอาจเป็นผู้ก่อเหตุ […]

แจ้งจับ “ภูมิธรรม” ปล่อยกัมพูชารุกราน ทำไทยเสียเปรียบ

ขอนแก่น 15 ส.ค. – องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น แจ้งความเอาผิด “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ ไม่ทำหน้าที่ตัวเอง ปล่อยกัมพูชารุกรานไทย องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อเอาผิด นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในข้อหาหรือฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.119, ม.120, ม.124 ม.157 และมาตราอื่นที่เกี่ยวข้อง นายตุลย์ ประเสริฐศิลป์ ประธานองค์กรต่อต้านคอรัปชั่นภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การมาร้องทุกข์กล่าวโทษครั้งนี้ ด้วยเรื่องเอกราชและอธิปไตยของชาติเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด แต่รักษาการนายกฯ ไม่ได้ทำหน้าที่ตัวเอง โดยปล่อยปละละเลยทำให้ต่างชาติรุกรานประเทศไทย ต้องปกป้องรักษาเอกราชและอธิปไตยของชาติให้มั่นคง แต่ที่ทหารขาขาด บาดเจ็บ ประชาชนล้มตายทรัพย์สินเสียหาย คือ ความร้ายแรงของของผู้รักษาการนายกรัฐมนตรีต้องทำและต้องปกป้องให้ได้ แต่ไม่มี มีแต่ไปเข้าข้างศัตรูโดยเฉพาะกัมพูชา เป็นโทษร้ายแรงมาก.-สำนักข่าวไทย

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

ไทยมีฝนเพิ่มขึ้น ฝนตกหนักบางแห่ง เตือน 6 จว.ระวังน้ำท่วม

กทม. 16 ส.ค.-กรมอุตุฯ รายงานไทยมีฝนเพิ่มขึ้นอยู่ในเกณฑ์กระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางแห่ง เตือน จ.พิษณุโลก เพชรบูรณ์ จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 70% ของพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นอยู่ในเกณฑ์กระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดพิษณุโลก เพชรบูรณ์ จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ในขณะที่มีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณภาคเหนือตอนล่าง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ […]

ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 : 230

รัฐสภา 15 ส.ค.- ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 ต่อ 230 ด้าน ‘พิชัย’ ขอบคุณสภาฯ ยันจะใช้งบให้ตรงตามวัตถุประสงค์โปร่งใส-เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญฯ พิจารณาเสร็จแล้ว โดยมีการตั้งวงเงินงบประมาณ จำนวน 3.78 ล้านล้านบาท ซึ่งที่ประชุมสภาฯ ใช้เวลาอภิปรายตลอด 3 วัน ระหว่างวันที่ 13-15 สิงหาคม และลงมติเมื่อเวลา 22.50 น. ผลปรากฏว่า จากจำนวนสมาชิก 487 เสียง เห็นด้วย 257 เสียง ไม่เห็นด้วย 230 เสียง งดออกเสียง 1 […]

พลทหารยิงชาวบ้านเจ็บ 2 ก่อนหนีเข้าป่า จบชีวิตตัวเอง

สุรินทร์ 15 ส.ค. – ตื่นตระหนก เหตุพลทหารที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายแดน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ควงปืนอาวุธประจำกาย ออกมายิงชาวบ้าน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ก่อนจะหลบหนี และสุดท้ายปลิดชีพตนเอง ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนหาสาเหตุ ติดตามได้จากรายงานของศูนย์ข่าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ.-สำนักข่าวไทย

ไล่ล่าโจรชิงทอง 123 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 15 ส.ค. – ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ เรียกประชุมตำรวจที่เกี่ยวข้อง แกะรอยหาเบาะแส ไล่ล่าโจรชิงทองห้างย่านบางบ่อ ยืนยันจำนวนทอง 123 บาท มูลค่ากว่า 6 ล้าน ขณะที่พนักงานยังผวาทุกครั้งที่เห็นคนใส่ชุดไรเดอร์เดินเข้าห้าง จากเหตุการณ์คนร้ายแต่งกายด้วยชุดไรเดอร์ สวมกางกางยีนขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบสีขาว เดินเท้าบุกเดี่ยวมาที่ร้านทอง แล้วชักอาวุธปืนพกแบบออโตเมติก สีบอร์นซ์ ขู่บังคับให้พนักงานขายทองซึ่งเป็นหญิง 3 คน หยิบทองรูปพรรณส่งให้คนร้าย แต่พนักงานขายทองไม่หยิบส่งให้ และหมอบลงกับพื้น คนร้ายจึงกระโดดข้ามตู้ทองด้านหน้าร้าน ไปเลื่อนกระจกตู้ทองด้านหลัง หยิบเอาทองคำรูปพรรณ มีสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท น้ำหนัก 3 บาท 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท 24 เส้น รวม 48 บาท […]