สนทช.เตือนระวังน้ำล้นตลิ่งน้ำวัง-น้ำยม

เตือนน้ำล้นตลิ่ง

กรุงเทพฯ 24 ก.ย.- สทนช.ประกาศเฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมขังแม่น้ำวัง-แม่น้ำยม เนื่องจากเกิดฝนตกหนัก ด้าน “ดร.ธรณ์” ระบุภัยพิบัติจาก extreme weather เพิ่มขึ้น 4 เท่า เมื่อเทียบกับ 40 ปีก่อน ที่ใด ๆ ที่เกิดผลกระทบในวันนี้ วันหน้าก็จะเกิดขึ้นอีก ยากที่จะหนีรอด


สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ประกาศเฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมขังแม่น้ำวัง ช่วงวันที่ 24 ก.ย.-3 ต.ค.67 เนื่องจากเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ลุ่มน้ำวัง ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้นส่งผลให้เกิดน้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำและชุมชนริมแม่น้ำวัง ขอให้เฝ้าระวังและเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง ดังนี้ จ.ลำปาง ระดับน้ำมีแนวโน้มล้นตลิ่ง บริเวณที่ลุ่มต่ำ อ.เถิน ประมาณ 0.2-0.5 ม. ในช่วงวันที่ 28 ก.ย.-2 ต.ค.67 จ.ตาก ระดับน้ำมีแนวโน้มล้นตลิ่ง บริเวณที่ลุ่มต่ำ อ.สามเงา ประมาณ 1.0-1.3 ม. ในช่วงวันที่ 24 ก.ย.-3 ต.ค.67

นอกจากนี้ ยังประกาศ เฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมขังแม่น้ำยม ช่วงวันที่ 24-27 ก.ย. เนื่องจากเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ลุ่มน้ำยม ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำยมเพิ่มสูงขึ้นส่งผลให้เกิดน้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำและชุมชนริมแม่น้ำยม ขอให้เฝ้าระวังและเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง ดังนี้ จ.แพร่ ระดับน้ำมีแนวโน้มล้นตลิ่ง ตั้งแต่ อ.สอง อ.เมือง และ อ.วังชิ้น ประมาณ 1.50 – 2.00 ม. ในช่วงวันที่ 24-27 ก.ย.67 ทั้งนี้ ขอให้หน่วยงานเฝ้าระวัง ร่วมบริหารจัดการน้ำเพื่อควบคุมปริมาณน้ำไหลผ่านให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมอุตุนิยมวิทยาเคยเตือนตั้งแต่ ก.ค.67 ระบุประเทศไทยเปลี่ยนเข้าสู่สภาวะ “ลานีญา” ในช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายน 2567 และจะต่อเนื่องไปจนถึงช่วงพฤศจิกายน 2567- มกราคม 2568 โดยในเดือนกรกฎาคม, สิงหาคม และตุลาคม ประเทศไทยตอนบนจะมีฝนมากกว่าปกติ ส่วนภาคใต้จะมีฝนมากกว่าค่าปกติเล็กน้อย ยกเว้นช่วงเดือนสิงหาคม เพียงเดือนเดียว จึงมีปรากฏการณ์อยู่ ๆ ฝนก็ตกลงมาอย่างหนัก จนทำให้เกิดน้ำท่วมโดยฉับพลัน อย่างเช่นที่เกิดขึ้นในออสเตรเลีย สวิตเซอร์แลนด์ หรือแม้แต่ในภูเก็ตเองก็ตาม

ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านนิเวศทางทะเล และรองคณบดี คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เคยโพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ปรากฏการณ์ดังกล่าวเรียกว่า “Rain Bomb” ซึ่งเป็นผลมาจากภาวะโลกร้อน ใช้เรียก ฝนตกกระหน่ำอย่างไม่ลืมหูลืมตา ปริมาณน้ำฝนในช่วงเวลาสั้นๆ ทะลุขีดจำกัด ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน เนื่องจากน้ำจากฟ้าจำนวนมากถล่มลงมาอย่างรุนแรงในช่วงอันสั้น การรับมือแบบดั้งเดิม เช่น ประกาศเตือนให้ประชาชนนำรถขึ้นที่สูง หรือทำกระสอบทรายป้องกันน้ำ อาจไม่เร็วเพียงพอ รักษาชีวิต และทรัพย์สินได้ทันท่วงที

“Rain Bomb” อาจแฝงมาพร้อมพายุฝนฟ้าคะนอง จะเกิดบ่อยขึ้นเรื่อยๆ ในยุคโลกเดือด เพราะเมื่อมหาสมุทรร้อนจะทำให้น้ำระเหยมากขึ้น ส่งผลให้อากาศร้อนเพิ่มขึ้น เมื่อเมฆมีน้ำอยู่มากมายพร้อมทะลักทลายจากบนฟ้าในช่วงสั้นๆ หากตกลงบนเขาหรือในป่า อาจเกิดน้ำไหลหลากฉับพลันลงมา ขณะเดียวกัน หากตกในเมือง ถนนหนทางก็จะกลายเป็นทางน้ำ รวมถึงโคลนถล่มตามมาในพื้นที่ไม่เคยเกิด เช่น หายนะที่ลิเบีย และถ้าตกลงในเมืองที่ราบแบบกรุงเทพฯ น้ำท่วมเร็วมาก น้ำเข้าบ้านโดยเฉพาะพื้นที่เป็นแอ่ง น้ำท่วมรถติดบนถนน ทำทรัพย์สินเสียหาย


ปี 2565 “ลานีญา” เข้ามามีบทบาทสำคัญ ถูกจารึกว่าเป็นปีลานีญาที่ “ร้อนที่สุด” ได้ผลักดันให้น้ำทะเลที่อุ่นกว่าเข้ามาทางตะวันออกของทวีปมากขึ้น ทำให้เกิดเมฆ และฝนเพิ่มมากขึ้น เมื่อรวมกับ “ภาวะโลกร้อน” ยิ่งทำให้เกิดฝนตกหนักอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน แม้จะทราบดีว่าบรรยากาศสามารถกักเก็บความชื้นได้มากขึ้น 7% เมื่อเกิดภาวะโลกร้อนเพิ่มมากขึ้น แต่ฝนที่เกิดขึ้นอาจจะมากกว่า 7% เพราะเมื่อความชื้นควบแน่นเป็นหยาดฝน พลังงานจะถูกปล่อยออกมาในรูปของความร้อน ทำให้เกิดวงจรย้อนกลับในชั้นบรรยากาศ เกิดเป็นน้ำฝนที่อาจจะมากขึ้นได้ถึง 14%

ล่าสุด ดร.ธรณ์ โพสต์ว่า ในยุคที่โลกร้อนรุนแรงขึ้นเรื่อย ภัยพิบัติจาก extreme weather เพิ่มขึ้น 4 เท่าเมื่อเทียบกับ 40 ปีก่อน ที่ใดๆ ที่เกิดผลกระทบในวันนี้ วันหน้าก็จะเกิดขึ้นอีก ยากที่จะหนีรอด มีแต่จะถี่ขึ้น แรงขึ้น จึงถึงเวลาที่เราต้องช่วยตัวเอง หลีกเลี่ยงการพาตัวเองเข้าไปอยู่อาศัย/ทำมาหากินในพื้นที่เสี่ยง นั่นคือคำตอบสำหรับคนที่ยังไม่ได้เข้าไป

สำหรับผู้ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงเรียบร้อยแล้ว ประเมินสถานการณ์และความเสี่ยงรอบด้าน เสี่ยงต่อชีวิต เสี่ยงต่อทรัพย์สิน ทำอย่างไรในการรับมือ ในการหนีภัยในเวลาฉุกเฉิน หากอยู่ในพื้นที่เสี่ยงมาก โดนแล้วโดนอีก และจะโดนมากขึ้น บางครั้งอาจต้องตัดสินใจในทางเลือกสุดท้าย = ถอยทัพ ในปัจจุบันจนไปถึงอนาคต มูลค่าที่ดิน,อสังหาริมทรัพย์ จะไม่ขึ้นกับปัจจัยต่างๆ เหมือนในอดีต ความเสี่ยงจะกลายเป็นตัวแปรสำคัญ เพราะการลงทุนเพื่อป้องกันภัยพิบัติต้องใช้เงิน และจะมีแต่มากขึ้นและมากขึ้น ที่ดินที่เสี่ยงน้อยกว่าคือคุ้มค่ากับการลงทุนและการอยู่อาศัยในระยะยาว

“หากไม่ได้อยู่บ้านเดิมเกาะแม่กินเหมือนผม ไม่ได้มีเงินเหลือมากมาย ต้องกู้มาเพื่อผ่อนบ้านเป็นสิบๆ ปี บางทีเช่าอาจได้เปรียบกว่าซื้อ หากเข้าใกล้วัยเกษียณ ฝันอยากหนีจากเมืองใหญ่ ไปอยู่ในชนบทแสนสบายอากาศดีมีความสุขจงแน่ใจว่าสถานที่คุณไปจะมีความสุขแน่ ไม่ใช่ไปเป็นผู้ประสบภัยในต่างจังหวัดที่ไหนสบายไปอยู่ที่นั่น เช่าระยะสั้น ย้ายไปเรื่อยๆ อาจเป็นทางออกของยุคปัจจุบันเก็บตังค์ไว้กับตัว ลดทรัพย์สินพะรุงพะรัง การกู้หนี้ยืมสินในระยะยาว ลงทุนเล่นหุ้นอย่างรอบคอบ ศึกษาเรื่องความเสี่ยงจากภัยพิบัติจริงจัง” ดร.ธรณ์ ระบุ. -511-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตร.เร่งขยายผลปมอธิการบดี ม.ดัง ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น

สน.บางซื่อ 12 ก.ย. – อธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง กลายเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ตำรวจนครบาลเร่งสอบสวน อายัดเงินทันกว่า 3 ล้านบาท ขยายผลโยงบัญชีม้ากว่า 20 บัญชี จากกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกลงทุน เสียหายกว่า 38 ล้านบาท พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พนักงานธนาคารได้ตรวจพบความผิดปกติการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย แล้วโอนเงินไปยังบัญชีอื่น 3 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือบริษัท เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท จึงได้อายัดไว้ก่อนและติดต่อจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบไปยังผู้เสียหาย ก่อนทราบว่าผู้เสียหายได้เอาเงินไปลงทุนเทรดหุ้น พร้อมให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่า เงินที่โอนไปลงทุนนั้นสามารถถอนออกจากบัญชีในระบบบริษัทได้หรือไม่ ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้ เจ้าหน้าที่จึงแน่ใจว่าถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง […]

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

“รมต.สุชาติ​” ตั้งสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน-​สีกา

ทำเนียบ 12 ก.ย.- “รมต.สุชาติ​” ตั้งคณะกรรมการสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน​-​สีกา​ หลังถูกร้องสะพัดว่อนโซเชียล​ คาด​ไม่เกิน​ 1 สัปดาห์รู้ผล​ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นายสุชาติ​ ตันเจริญ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเปิดเผยว่า​ มีข้อร้องเรียน ถึงพฤติกรรมของเจ้าอาวาส วัดโสธรวรารามวรวิหาร เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าข่ายกระทำความผิดพระธรรมวินัย อีกทั้งยังมีข้อมูลเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยการร้องเรียนเป็นเรื่องทรัพย์สินและเรื่องสีกา ซึ่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นพระสังฆาธิการด้วย ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งกับผู้ร้องและประชาชน รวมถึงตัวเจ้าอาวาสด้วย เพราะหากไม่เป็นความจริงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธาน​ ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ​ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง​ รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ​ และให้ผู้ตรวจของสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย เพราะไม่ทราบว่าในโลกออนไลน์พูดเพื่อความสนุกสนานหรือไม่ แต่ยอมรับว่าตนก็ได้ยินเรื่องนี้มานาน มีเค้าโครง​ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ผู้ร้องสบายใจ​ แต่หากเจ้าอาวาสทำผิดก็ต้องแบบว่าไปตามระเบียบกฎหมาย และต้องแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่าวางกรอบระยะเวลาการตรวจสอบไว้เท่าใด นายสุชาติ​ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้วาง แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เพราะจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่ของตน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ และตนก็เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนเลือกมาเป็นผู้แทน […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

ข่าวแนะนำ

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

บ.เรือด่วนเจ้าพระยา แถลงเหตุไฟไหม้เรือด่วน คาดไฟฟ้าลัดวงจร

14 ก.ย. – บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา แถลงการณ์เหตุเพลิงไหม้เรือด่วน มีเรือได้รับความเสียหายหนัก 2 ลำ เสียหายเล็กน้อย 1 ลำ และไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือสูญเสีย คาดสาเหตุจากไฟฟ้าลัดวงจร เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2568 เวลาประมาณ 18.36 น. ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้เรือด่วนที่จอดเรียงติดกัน จำนวน 3 ลำ โดยมีเรือที่ได้รับความเสียหายหนักจำนวน 2 ลำ และได้รับความเสียหายเล็กน้อย 1 ลำ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังจากที่เรือได้จอดเลิกงานตามปกติแล้ว บริษัทฯ ขอเรียนชี้แจงว่า ขณะเกิดเหตุนั้น ไม่มีผู้โดยสารหรือพนักงานอยู่บนเรือ จึงทำให้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือสูญเสียแต่อย่างใด จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าสาเหตุเกิดจากไฟฟ้าที่ต่อจากท่าเรือไปชาร์จแบตเตอรี่ในเรือต้นเพลิงลัดวงจร โดยเรือทั้งหมดได้เข้ามาจอดเลิกงานเวลา 18.15 น. และไม่ได้อยู่ระหว่างให้บริการ เมื่อเกิดเหตุ พนักงานประจำพื้นที่ได้เข้าดับเพลิงเบื้องต้นทันที พร้อมทั้งประสานงานกับเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้าควบคุมสถานการณ์ และสามารถควบคุมเพลิงได้ภายในระยะเวลา 45 นาที ขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียดอย่างรอบคอบร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อยืนยันสาเหตุที่แท้จริง และเพื่อวางมาตรการป้องกันที่เข้มงวดยิ่งขึ้นในอนาคต บริษัทฯ ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น […]

เพื่อไทยขอบคุณทุกคะแนนเสียง หลัง “สง่า” คว้าชัยเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย

กรุงเทพฯ 14 ก.ย. – พรรคเพื่อไทย ขอบคุณทุกคะแนนเสียงจากประชาชน หลังผลเลือกตั้งซ่อม สส. เขต 7 เชียงราย อย่างไม่เป็นทางการ “สง่า” ชนะขาด “สุทัศน์” จากพรรคประชาชน เพจเฟซบุ๊กพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความภายหลังผลการเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย เขต 7 อย่างไม่เป็นทางการ ปรากฏว่า นายสง่า พรมเมือง ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย หมายเลข 1 ชนะขาดนายสุทัศน์ ยาละ ผู้สมัครของพรรคประชาชน หมายเลข 2 โดยระบุว่า พรรคเพื่อไทย ขอขอบคุณทุกคะแนนเสียงของพี่น้องประชาชน ที่ให้ความไว้วางใจเลือกผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เชียงราย จากพรรคเพื่อไทย ทีมงานทุกคน พร้อมเดินหน้าทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อสร้างโอกาสให้กับพี่น้องประชาชนทุกพื้นที่ เพื่อชีวิตที่ดี เพื่อไทยทุกคน.-316-สำนักข่าวไทย

“เพื่อไทย” คว้าชัยเลือกตั้งซ่อม สส. เขต 7 เชียงราย

เชียงราย 14 ก.ย. – ผลคะแนนเลือกตั้ง สส. เขต 7 เชียงราย อย่างไม่เป็นทางการ ณ เวลา 19.39 น. “สง่า พรมเมือง” พรรคเพื่อไทย คะแนนนำโด่งทิ้งคู่แข่ง “สุทัศน์ ยาละ” พรรคประชาชน กว่า 2 หมื่นคะแนน ขณะที่เพจเฟซบุ๊กพรรคเพื่อไทย โพสต์ขอบคุณประชาชนเทคะแนนให้ “สง่า” คว้าชัย วันที่ 14 ก.ย.68 เวลา 19.39 น. ที่ศูนย์รวมคะแนนประจำเขตเลือกตั้งที่ 7 อ.แม่จัน จ.เชียงราย ผู้สื่อข่าวรายงานการเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย เขตเลือกตั้งที่ 7 แทนตำแหน่งที่ว่าง ภายหลังปิดหีบลงคะแนนเมื่อเวลา 17.00 น. จากนั้นเริ่มนับคะแนน โดยสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงราย รายงานเมื่อเวลา เวลา 19.39 น. พบว่า นายสง่า พรมเมือง […]