เร่งหาสาเหตุเครื่องบินเล็กตก-กพท.ยันมีใบอนุญาตครบ

23 ส.ค. – เร่งหาสาเหตุเครื่องบินเล็กตกที่ จ.ฉะเชิงเทรา กพท. คาดรู้ผลเบื้องต้นใน 1 เดือน และเตรียมเชิญบริษัทผู้ผลิตเครื่องจากสหรัฐร่วมสอบสวน ยืนยันเครื่องบินเล็กมีอายุ 17 ปี ใบอนุญาตครบถ้วน นักบินมากประสบการณ์


อุบัติเหตุเครื่องบินเล็ก ยี่ห้อเชสนา รุ่นคาราวาน C208 เที่ยวบิน TFT209 สุวรรณภูมิ-เกาะไม้ซี้ จ.ตราด ตกที่บริเวณหลังวัดเขาดิน พื้นที่ ม.6 ต.เขาดิน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ทำให้มีผู้โดยสารเสียชีวิตทั้งหมด

เวลา 14.46 น. วันที่ 22 สิงหาคม 2567 เที่ยวบิน TFT209 สุวรรณภูมิ-เกาะไม้ซี้ จ.ตราด ขึ้นจากสนามบินสุวรรณภูมิ จุดหมายปลายทางเกาะไม้ชี้ จ.ตราด เพียงไม่ถึง 10 นาที หลังจากบินขึ้นไป เครื่องบินก็ขาดการติดต่อกับหอบังคับการบินที่สุวรรณภูมิ ตำแหน่งเครื่องบินอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ระยะทาง 18.7 ไมล์ทะเล ศูนย์วิทยุควบคุมการบินรับแจ้งยืนยันจากเครื่องบินลำดังกล่าวว่าเกิดเหตุผิดปกติ เวลา 14.50 น. และขาดการติดต่อไป


ชาวบ้านในพื้นที่ที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นบนอากาศ ก่อนที่เครื่องบินจะร่วงลงมา มีชิ้นส่วนเครื่องบินมากมายกระเด็นเป็นวงกว้าง รัศมีประมาณ 20 เมตร และมีหลายชิ้นส่วนที่กระเด็นไปโดนบ้านของประชาชนในพื้นที่จนได้รับความเสียหาย

ทีมข่าวสำนักข่าวไทยตรวจสอบเรื่องนี้จากนายสุทธิพงษ์ คงพูล ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ระบุประเด็นสำคัญว่า เครื่องบินลำดังกล่าวมีอายุ 17 ปี เป็นเครื่องที่มีการขอออกใบอนุญาติครบถ้วน ทั้งใบอนุญาตประกอบกิจการค้าขายในการเดินอากาศใหม่ หรือ AOL ใบอนุญาตเครื่องบินรุ่นนี้ของบริษัท การตรวจเช็กซ่อมบำรุงตามรอบ 3 เดือน และนักบินก็มีประสบการณ์ จึงเป็นประเด็นที่ กพท. ต้องสอบสวนต่อ ร่วมกับอีกหนึ่งหน่วยงานคือ สำนักงานคณะกรรมการสอบสวนอุบัติเหตุและอุบัติการณ์ของอากาศยาน เพื่อให้ทราบเรื่องสภาพอากาศ การปฏิบัติตามคู่มือความปลอดภัย คาดว่าในส่วนของ กพท. จะใช้เวลาสอบประมาณ 1 เดือน

สำหรับเครื่องบินแบบ cessna grand caravan ซึ่งเป็นเครื่องบินที่ไม่มีกล่องดำ การสืบสวนจะต้องฟังการบันทึก เทปการสนทนาของหอบังคับการบิน กับเครื่องบินลำดังกล่าวเป็นหลัก


เพจ “บันทึกไม่ลับของคนขับเครื่องบิน” ออกมาตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับเหตุการณ์เครื่องบินตกที่เกิดขึ้นไว้อย่างน่าสนใจคือ 1.ขณะที่เครื่องบิน บินขึ้นจากสนามบิน (ตนบินตามมาไม่น่าเกิน 10-15 นาทีก่อนหน้า) สภาพอากาศในขณะนั้น อากาศดีมากแทบจะไม่มีเมฆสักก้อน

2.เครื่องบินเพิ่งไต่ระดับออกห่างจากสนามบินไปได้ราวๆ 10-20 ไมล์ ถือเข็มทิศบิน heading 100 ตามปกของการบินออกจากสนามบินของเครื่องบินขนาดเล็ก

3.เครื่องบินแบบ cessna grand caravan เป็นเครื่องบินโดยสารใบพัดขนาดเล็ก อเนกประสงค์ นั่งได้ 12 ที่นั่ง (รวมนักบิน 2 ท่าน) ความเร็วเดินทางเฉลี่ย 220-300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เครื่องบินรุ่นนี้ไม่มีข้อกฎหมายให้ต้องมีกล่องบันทึกการบิน

4.แต่เครื่องนี้น่าจะมีอุปกรณ์ ELT (Emergency Location Transmitter) อุปกรณ์ระบุตำแหน่ง หากเครื่องบินเกิดการตกกระแทกอย่างแรง เครื่องนี้จะทำการส่งสัญญาณขอความช่วยเหลืออัตโนมัติไปยังคลื่นความถี่ต่างๆ ของวิทยุการบิน และระบุตำแหน่งการบิน เพื่อให้หน่วยกู้ภัยมาช่วยเหลือ แต่ในขณะที่ผมบินผ่านบริเวณใกล้ๆ จุดตกไม่ได้ยินสัญญาณ sos อันนี้ คิดว่า elt อาจจะไม่ทำงาน

5.นักบินตำแหน่งกัปตันเป็นครูการบินมากประสบการณ์ และเป็นเจ้าของโรงเรียนการบิน และเป็นที่เคารพของผม และลูกศิษย์ทุกท่าน ความสามารถและประสบการณ์การบินไม่น่าจะเป็นที่สงสัย

ช่วงบ่ายที่ผ่านมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การการค้นหาซากเครื่องบินเล็กและร่างผู้โดยสารและนักบิน ที่ตกในพื้นที่ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ล่าสุดดำเนินการค้นหาผู้ประสบอุบัติเหตุตามแนวทางที่คณะกรรมการสอบสวนกรณีอันเกี่ยวกับอุบัติเหตุของอากาศยานในราชอาณาจักร กำหนดปรากฏว่าพบเศษชิ้นส่วนของมนุษย์จำนวน 6 ราย พร้อมทั้งนำส่งเศษชิ้นส่วนดังกล่าวไปยังสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลต่อไป

ทั้งนี้ ได้ยุติการค้นหาเมื่อเวลา 02.00 น. ของวันที่ 22 สิงหาคม 2567 ซึ่งคาดว่าผู้โดยสารและลูกเรือจำนวน 9 คน เสียชีวิตทั้งหมด

นายพงษ์เทพ ศิริสวัสดิ์ ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านการปฏิบัติการบินเครื่องบิน สำนักงานคณะกรรมการสอบสวนกรณีอันเกี่ยวกับอุบัติเหตุของอากาศยาน บอกว่า ขณะนี้สามารถเก็บกู้เศษซากเครื่องบินลำที่เกิดเหตุได้แล้วกว่า 30% ซึ่งต้องรอการเก็บกู้ให้ครบ หรือให้ได้ชิ้นส่วนมากที่สุด

จากนั้นนายอนุทิน ให้สัมภาษณ์ภายหลังดูพื้นที่เกิดเหตุ ระบุว่า ขณะนี้พบชิ้นส่วนมนุษย์แล้วแต่ยังไม่ครบ และยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นชิ้นส่วนใคร เพราะมีการกระจายของชิ้นส่วนมนุษย์ รวมถึงชิ้นส่วนเครื่องบิน ซึ่งมองว่าการค้นหาไม่มีอุปสรรคปัญหาอะไร และต้องชื่นชมชาวบ้านที่มีคำให้การของพยานแวดล้อมต่างๆ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”