ก.คลัง 26 ก.ค. – คลังคาดจีดีพีปี 67 ขยายตัว 2.7 หลังยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติขยับเพิ่ม คาดเงินดิจิทัลส่งผลต่อเศรษฐกิจร้อยละ 1.2-1.8 ลุ้นยอดใช้จ่ายของประชาชน
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้ปรับคาดการณ์จีดีพีไทยในปี 67 ขยายตัวร้อยละ 2.7 จากคาดการณ์เดิมจีพีดีเติบโตร้อยละ 2.4 เพิ่มจากปี 66 ขยายตัวร้อยละ 1.9 สาเหตุมาจากรายได้ท่องเที่ยว คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศ 36 ล้านคน สร้างรายได้ 1.7 ล้านล้านบาท ใช้จ่ายต่อหัวต่อทริป 47,000 บาท มาจากมาตรการยกเว้นวีซ่าให้กับหลายประเทศทั่วโลก การส่งออกขยายตัวร้อยละ 2.7 เพิ่มจากเดิมร้อยละ 2.3 เพราะเศรษฐกิจสหรัฐ จีน ยุโรป ยังฟื้นตัวรองรับการส่งออกของไทยได้มากขึ้น รวมถึงการบริโภคภาคเอกชน คาดว่าขยายตัวร้อยละ 4.5 จากเดิมขยายตัวร้อยละ 3.5 เนื่องจากภาคเกษตรรายได้เพิ่มร้อยละ 8 และภาษีมูลค่าเพิ่มจากการบริโภคเพิ่มขึ้น บวกกับมาตรการของรัฐบาลออกมาในช่วงนี้ เช่น สินเชื่อซอล์ฟโลน 1 แสนล้านบาท เพื่อเติมเงินให้กับเอสเอ็มอีและรายย่อย กระทรวงคลังยังคาดว่าเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท ทั้งโครงการส่งผลให้จีดีพีดีขึ้นในปีนี้ร้อยละ 1.2-1.8 ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการใช้จ่าย พฤติกรรมการใช้เงินซื้อสินค้า แหล่งที่มาของเงินรองรับทั้งโครงการ โดยยังไม่ได้นับรวมผลต่อเศรษฐกิจดิจิทัล การกระจายเงินไปสู่อำเภอ การลดปัญหาความเหลื่อมล้ำ
“แม้กระทรวงการคลังปรับเป้าหมายจีดีพีเพิ่มร้อยละ 2.7 รัฐบาลอยากทำให้ดีกว่านี้ เพราะมีเป้าหมายทำงานถึงร้อยละ 3 ด้วยการให้มาตรการทางการคลัง สอดคล้องกับมาตรการทางการเงินของ ธปท. หลังจากได้ออกมาตรการสินเชื่อซอล์ฟโลน 1 แสนล้าน อัดฉีดสู่ระบบ เพื่อให้เอสเอ็มอีมีสภาพคล่อง และสินเชื่ออื่นๆ ภาษีดึงดูดการลงทุน ขณะที่ไอเอ็มเฟคาดการณ์จีดีพีไทยขยายตัวร้อยละ 2.9 และอีกหลายค่ายหน่วยงานด้านเศรษฐกิจประเมินจีดีพีไทยเพิ่มขึ้นจากเดิม เนื่องจากการท่องเที่ยวและต้องสร้างแรงซื้อในประเทศเพิ่มขึ้น” นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า
นายพรชัย ฐีระเวช โฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การปรับสมติฐานดังกล่าวมาจากสาเหตุ คาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวร้อยละ 2.4 จีนขยายตัวร้อยละ 5 ญี่ปุ่นขยายตัวร้อยละ 0.7 โดยยังต้องติดตามปัจจัยภายนอก ความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน ตะวันออกกลาง ความผันผวนตลาดการเงินโลก เศรษฐกิจยุโรปและญี่ปุ่นเติบโตช้า รวมทั้งจีนเผชิญปัญหาอสังหาริมทรัพย์และปัญหาเชิงโครงสร้าง ภัยพิบัติรุนแรงหลายพื้นที่ทั่วโลก รวมถึงการติดตามผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ และนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่ การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าของไทย คาดว่าค่าเงินบาทเฉลี่ย 36.18 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ น้ำมันดิบดูไบเฉลี่ย 86 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลล์ ปัจจัยเสี่ยงต่อน้ำมันดิบ จากแนวโน้มสงครามการค้าสหรัฐ-จีน คาดอัตราเงินเฟ้อทั่วไปร้อยละ 0.6 ต่อปี ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 11 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือร้อยละ 2.4 ของจีดีพี และมองว่านโยบาย Ignite Thailand มาตรการทางภาษีจะดึงดูดการลงทุนเข้าประเทศได้มากขึ้น เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของประเทศ.-515 -สำนักข่าวไทย