ก.คลัง แถลงรายละเอียดโครงการดิจิทัลวอลเล็ต

ทำเนียบ 24 ก.ค. – ก.คลัง แถลงรายละเอียดโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต กลุ่มผู้มีสมาร์ทโฟน เริ่มลงทะเบียน 1 ส.ค.-15 ก.ย. ผ่านแอปฯ “ทางรัฐ” ส่วนกลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟน ลงทะเบียน 16 ก.ย.-15 ต.ค. ใช้จ่ายผ่านบัตรประชาชน


นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานแถลงข่าว “ดิจิทัลวอลเล็ต โครงการเพื่อประชาชน พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจแล้ววันนี้”  โดยช่วงแรกเป็นการกล่าวถึงที่มาเหตุผลที่รัฐบาลกลั่นกรองเพื่อดำเนินโครงการดิจิทัลวอลเล็ต

จากนั้น นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการ ยืนยัน ขอให้มั่นใจว่ารัฐบาลมีเงินเพียงพอสำหรับการดำเนินโครงการ จำนวน 450,000 ล้านบาท ส่วนผู้ที่จะเข้าร่วมโครงการ ต้องมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน เป็นผู้ที่มีสัญชาติไทยมีอายุตั้งแต่ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ก่อนวันที่ 16 กันยายน 2561 เป็นผู้ที่มีเงินได้ไม่เกิน 840,000 บาท สำหรับปีภาษี 2566 มีเงินฝากกับธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจรวมกันไม่เกิน 500,000 บาท โดยเงินฝากเป็นรูปแบบสกุลเงินบาทเท่านั้น และกำหนดวันตรวจสอบสิทธิ์ วันที่ 31 มีนาคม 2567 ไม่เป็นผู้ที่อยู่ระหว่างการต้องโทษจำคุกในเรือนจำ ไม่เป็นผู้ถูกระงับสิทธิ์หรือถูกเรียกเงินคืนในมาตรการโครงการอื่นๆ ของรัฐ และไม่เป็นผู้ฝ่าฝืนเงื่อนไขมาตรการโครงการอื่นๆ ของรัฐ


สำหรับผู้ที่จะเข้าร่วมโครงการ แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มที่มีโทรศัพท์แบบสมาร์ทโฟน และกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟน

โดยกลุ่มที่มีสมาร์ทโฟนสำหรับประชาชนทั่วไปลงทะเบียนระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม ถึง 15 กันยายน 2567 ผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ไม่มีการจำกัดจำนวนประชาชนที่จะเข้าร่วมใช้สิทธิ หากมีคุณสมบัติครบถ้วนก็สามารถเข้าร่วมโครงการได้ซึ่งรัฐบาลได้ประมาณการไว้ 45-50 ล้านคน

ส่วน กลุ่มประชาชนที่ไม่มีโทรศัพท์สมาร์ทโฟน จะมีการลงทะเบียนและยืนยันตัวตนผ่านช่องทางที่กำหนดในวันที่ 16 กันยายน ถึง 15 ตุลาคม 2567 ซึ่งจะมีการตรวจสอบคุณสมบัติสถานะบุคคลและที่อยู่ตามบัตรประชาชนเช่นเดียวกับกลุ่มสมาร์ทโฟน และในส่วนของการใช้จ่ายในโครงการจะใช้ผ่านบัตรประชาชน มีข้อจำกัดเรื่องร้านค้ามากกว่ากลุ่มที่ลงทะเบียนโครงการผ่านระบบสมาร์ทโฟน


ซึ่งเงื่อนไขในการซื้อ ระหว่างประชาชนกับร้านค้า สามารถใช้ได้ในร้านค้าขนาดเล็ก ร้านสะดวกซื้อขนาดเล็ก ไม่รวมห้างสรรพสินค้า และซื้อขายแบบเฟซทูเฟซ ส่วนการซื้อขาย ระหว่าง ร้านค้า ต่อ ร้านค้า ซื้อขายแบบต่างพื้นที่ได้

ทั้งนี้ การใช้จ่ายระหว่างประชาชนกับร้านค้าจะเกิดขึ้นกับร้านขนาดเล็ก รวมถึงร้านสะดวกซื้อขนาดเล็ก โดยไม่รวมห้างสรรพสินค้าห้างค้าปลีกค้าส่งขนาดใหญ่ระดับประเทศและระดับท้องถิ่นซึ่งในการซื้อสินค้าหากประชาชนมีที่อยู่ตามทะเบียนบ้านในอำเภอใดก็ต้องซื้อสินค้าจากร้านค้าในอำเภอเดียวกันเท่านั้น และต้องเป็นการซื้อขายแบบพบหน้า หรือ face to face โดยจะมีการตรวจสอบที่อยู่ของร้านค้าตามที่การลงลงทะเบียนพิกัดที่อยู่ของประชาชนขณะซื้อสินค้าจึงจะสมบูรณ์ ศูนย์การค้าสามารถซื้อขายระหว่างกันได้ ไม่มีข้อกำหนดว่าต้องซื้อขายแบบหน้าจึงซื้อขายระหว่างกันได้แม้จะต่างพื้นที่

ขณะที่ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการกระทรวงการคลัง ชี้แจง ขั้นตอนการลงทะเบียนเพื่อยืนยันตัวตนผ่านแอปพลิเคชัน ทางรัฐ ย้ำว่า มีแอปเดียวเท่านั้น ไม่มีการส่งลิงก์หรือโทรชักชวนใดใดทั้งสิ้น ซึ่งในส่วนนี้ แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือประชาชนกลุ่มที่ไม่เคยลงทะเบียนและยืนยันตัวตนผ่านทางรัฐ กลุ่มที่ 2 เคยลงทะเบียนและยืนยันตัวตนผ่านทางรัฐแล้ว

หลังจากนนี้มีการแถลงข่าวอีกหลายครั้งโดยเฉพาะเรื่องของร้านค้า การลงทะเบียนของกลุ่มเปราะบางกลุ่มผู้ไม่มีสมาร์ทโฟน ย้ำว่าจะได้ใช้เงินอยู่ในไตรมาส 4 ปีนี้แน่นอน พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลจะยืนยันเอาผิดเว็บที่หลอกลวง .-316-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร