ก.คลัง 22 ม.ค. – “เผ่าภูมิ” เร่งเครื่องศูนย์กลางการเงินภูมิภาค CLMV เปิดทางต่างชาติเข้าลงทุนบริการเงิน ชำระเงิน ตลาดหุ้น ยกเว้นกฎหมาย 7 ฉบับ หวังอำนวยความสะดวกธุรกิจ
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังร่วมกับ ธปท., สำนักงาน คปภ., สำนักงาน ก.ล.ต., กฤษฎีกา ยกร่าง พ.ร.บ.ศูนย์กลางทางการเงิน เสร็จเรียบร้อยแล้ว มีทั้งหมด 96 มาตรกา หวังเสนอ ครม.ในต้นเดือน ก.พ.นี้ เพื่อสร้างประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการเงินในภูมิภาค (Financail Hub) หลังได้เปิดตัวโครงการศูนย์กลางการเงิน ภายใต้หัวข้อ “IGNITE FINANCE : Thailand’s Vision for a Global Financial Hub เปิดทางนำไทยสู่ศูนย์กลางการเงินโลก” ช่วงปลายปี 67
ในโครงสร้างของ OSA จัดตั้ง คณะกรรมการชุดใหญ่ หรือ ซูเปอร์บอร์ด OSA เพื่อกำหนดโยบาย 8 ท่าน มีรัฐมนตรีคลัง เป็นประธาน กรรมการ เช่น ปลัดคลัง, ธปท., มหาดไทย, กฤษฎีกา, ปปง., บีโอไอ โดยจัดตั้งตั้งสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมศูนย์กลางการประกอบธุรกิจทางการเงิน (One Stop Authority: สำนักงาน OSA ) ขึ้นเพื่อบริหารจัดการตามกฎหมาย ได้กำหนดส่งเสริมให้นักลงทุนต่างชาติ เข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทย 8 ด้าน ประกอบด้วย 1.การดำเนินธุรกิจธนาคารพาณิชย์ 2. การดำเนินธุรกิจชำระเงินหรือเพย์เมนต์ 3. การดำเนินธุรกิจบริษัทหลักทรัพย์ 4. การดำเนินธุรกิจสัญญาล่วงหน้า 5. การดำเนินธุรกิจ ดิจิทัลแอสเซ็ท 6.การดำเนินธุรกิจด้านประกันภัย 7. การดำเนินธุรกิจนายหน้าประกันภัย 8. การดำเนินธุรกิจทางการเงินอื่นๆ
โดยซูเปอร์บอร์ด OSA จะออกกฎหมายลูกเพิ่มเติมภายหลัง เพื่อกำหนดพื้นที่การตั้งสำนักงานทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดให้ชัดเจน เพื่อให้นักลงทุนไทยร่วมลงทุนกับต่างชาติ โดยไม่กระทบต่อสถาบันการเงินของไทยในปัจจุบัน หวังให้เกิดการเชื่อมโยงทั้งการลงทุน การบำระเงินกับประเทศในภูมิภาค การออกสิทธิประโยชน์ทางภาษี เช่น ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีนิติบุคคล และภาษีด้านอื่นๆ สำหรับสิทธิประโยชย์ไม่ใช่ภาษี เช่น สิทธิ์ผ่านคนเข้าเมืองของ ตม. การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว การซื้อคอนโดฯ/ห้องชุด พักอาศัย เพื่อดึงดูดให้ผู้เชี่ยวชาญเข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศเป็นเวลานาน และการอำนวยความสะดวกการดำเนินธุรกิจ (Doing Business) ปรับเงื่อนไขต่างๆให้สะดวกขึ้น
ซูเปอร์บอร์ด OSA ยังเป็นผู้พิจารณาออกใบอนุญาต ให้กับสถาบันการเงินต่างชาติ ที่มีคุณสมบัติตามเงื่อนไข โดยได้รับการยกเว้นจากกฎหมาย 7 ฉบับ เช่น กฎหมาย ธปท.ในการประกอบธุรกิจสถาบันการเงิน การประกอบธุรกิจชำระเงิน กฎหมายของสำนักงาน ก.ล.ต. ด้านการลงทุน กฎหมายของประกันภัย กฎหมายด้านสินทรัพย์ดิติทัล การยกร่างกำหมายดังกล่าว ผ่านความเห็นจากทุกหน่วยงานเรียบร้อยแล้ว โดยไม่กระทบต่อการให้บริการทางการเงินในประเทศในปัจจุบัน เพราะใบอนุญาตดังกล่าวเน้นให้บริการลูกค้าในต่างประเทศ ที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทย
นายเผ่าภูมิ ย้ำว่าหากร่าง พ.ร.บ.ศูนย์กลางทางการเงินมีผลบังคับใช้จะทำให้ธนาคารต่างชาติหลายแห่งเข้ามาลงทุน โดยเฉพาะฮ่องกง สนใจเข้ามาเจรจากับไทย เพื่อให้เป็นประตูบริการทางการเงินไปสู่ประเทศ CLMV เนื่องจากไทยมีระบบธนาคารเข้มแข็ง ระบบค้ำประกันเงินฝากที่ดี ผู้กำกับดูแลนโยบายทั้ง ธปท., คปภ., ก.ล.ต.ที่ดี ค่าแรงไม่สูงเกินไป จึงเชื่อมั่นไทยจะกลายเป็นศูนย์กลางทางเงินของภูมิภาค CLMV. -515- สำนักข่าวไทย