fbpx

กนง.มีมติ 6:1 คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ร้อยละ 2.50 ต่อปี

กรุงเทพ 12 มิ.ย. – คณะกรรมการ กนง.มีมติ 6 ต่อ 1 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 2.50 ต่อปี โดย 1 เสียง เห็นควรให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 ต่อปี ซึ่ง ธปท.คาดการณ์เศรษฐกิจปีนี้โตร้อยละ 2.6 ส่วนปีหน้าคาดโตร้อยละ 3.0


นายปิติ ดิษยทัต เลขานุการคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) แถลงผลการประชุม กนง.ว่า คณะกรรมการฯ มีมติ 6 ต่อ 1 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 2.50 ต่อปี โดย 1 เสียง เห็นควรให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 ต่อปีเพื่อให้สอดคล้องกับศักยภาพทางเศรษฐกิจที่ขยายตัวต่ำลงจากปัจจัยเชิงโครงสร้างที่ชัดเจนขึ้น และจะมีส่วนช่วยบรรเทาภาระของลูกหนี้ได้บ้าง

โดยเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวจากอุปสงค์ในประเทศและภาคการท่องเที่ยวที่คาดว่าปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทย 35.5 ล้านคน ปีหน้าคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 39.5 ล้านคน ขณะที่การส่งออกขยายตัวในระดับต่ำในกลุ่มสิ่งทอและผลิตภัณฑ์เคมี โดยสินค้าส่งออกบางกลุ่มมีแรงกดดันเพิ่มเติมจากการแข่งขันที่สูงขึ้น เช่น แผงโซลาร์เซลล์และยานยนต์ ส่วนกลุ่มสินค้าส่งออกที่มีแนวโน้มดีขึ้นคือ กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้ ธปท.คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะเติบโตร้อยละ 2.6 ส่วนปีหน้าคาดจะเติบโตร้อยละ 3.0 โดยปีนี้คาดว่ามูลค่าการส่งออกจะเติบโตร้อยละ 1.8 เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน ส่วนปีหน้าคาดส่งออกจะเติบโตร้อยละ 2.6 ขณะที่มูลค่าการนำเข้าสินค้าคาดจะเติบโตร้อยละ 3.1 เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน ส่วนปีหน้าคาดมูลค่าการนำเข้าสินค้าจะเติบโตร้อยละ 2.0


ด้านอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มทยอยปรับขึ้นและประเมินว่าจะกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 ปี 2567 กรรมการส่วนใหญ่เห็นว่าอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับการขยายตัวของเศรษฐกิจ ที่โน้มเข้าสู่ศักยภาพและการรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจและการเงิน จึงเห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมครั้งนี้ซึ่งเงินเฟ้อทั่วไปปีนี้จะอยู่ที่ร้อยละ 0.6 ส่วนปีหน้าเงินเฟ้อทั่วไปคาดจะอยู่ที่ร้อยละ 1.3 ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานคาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 0.5 และ 0.9 ในปี 2567 และ 2568 ตามลำดับ โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไป ล่าสุดกลับมาเป็นบวก และมีแนวโน้มปรับขึ้นตามราคาพลังงานในประเทศจากการทยอยลดการอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซล ขณะที่แรงกดดันด้านอุปทานที่ทำให้ราคาหมวดอาหารสดอยู่ในระดับต่ำมีแนวโน้มคลี่คลาย ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะทยอยกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 ปี 2567 โดยอัตราเงินเฟ้อคาดการณ์ในระยะปานกลางยังอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับกรอบเป้าหมาย

ทางด้านภาวะการเงินโดยรวมทรงตัว อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทเทียบดอลลาร์ สรอ. ปรับอ่อนค่าตามทิศทางนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ประกอบกับปัจจัยในประเทศในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรไทยปรับสูงขึ้นบ้างหลังตลาดปรับคาดการณ์นโยบายการเงินของไทย ด้านต้นทุนการกู้ยืมของภาคเอกชนผ่านธนาคารพาณิชย์ใกล้เคียงเดิม สินเชื่อภาคธุรกิจโดยรวมขยายตัว ส่วนสินเชื่อภาคครัวเรือนขยายตัวชะลอลง โดยเฉพาะสินเชื่อเช่าซื้อและบัตรเครดิตตามคุณภาพสินเชื่อที่ด้อยลง

ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ มีความกังวลต่อหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง และเห็นว่าการให้สินเชื่อควรสอดคล้องกับกระบวนการปรับลดสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อรายได้ (debt deleveraging) เพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพระบบการเงินในระยะยาว จึงสนับสนุนนโยบายของ ธปท. ที่ให้สถาบันการเงินปล่อยสินเชื่อตามความสามารถในการชำระหนี้ของผู้กู้ ควบคู่ไปกับการปรับปรุงโครงสร้างหนี้เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ที่มีปัญหาการชำระหนี้ นอกจากนี้ คณะกรรมการฯ ตระหนักถึงปัญหาการเข้าถึงสินเชื่อของ SMES ที่มีมาอย่างต่อเนื่อง จึงสนับสนุนการใช้มาตรการที่ตรงจุด เช่น มาตรการค้ำประกันสินเชื่อ เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสการเข้าถึงสินเชื่อของ SMEs ที่มีศักยภาพซึ่งจำเป็นต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจภายใต้กรอบการดำเนินนโยบายการเงินที่มีเป้าหมายรักษาเสถียรภาพราคา ควบคู่กับดูแลเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน และรักษาเสถียรภาพระบบการเงิน กรรมการส่วนใหญ่ประเมินว่าอัตราดอกเบี้ย ปัจจุบันสอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อที่ปรับดีขึ้น รวมทั้งเอื้อต่อการรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินในระยะยาว


อย่างไรก็ดี ยังต้องติดตามพัฒนาการของเศรษฐกิจโดยเฉพาะการฟื้นตัวของภาคการ ส่งออกและมาตรการภาครัฐ โดยคณะกรรมการฯ จะพิจารณานโยบายการเงินให้เหมาะสมกับแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อในระยะข้างหน้าต่อไป. -513-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกตรวจน้ำท่วมเชียงราย

นายกฯ บินเชียงราย ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม

“นายกฯ แพทองธาร” ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม เตรียมมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ จ.เชียงราย พร้อมตรวจเยี่ยมการลำเลียงสิ่งของช่วยเหลือของกองทัพ

ชิงทองระนอง68บาท

รวบแล้วโจรชิงทอง 68 บาท กลางห้างดังระนอง

รวบแล้ว 2 คนร้ายชายหญิง จี้ชิงทอง 68 บาท ในห้างดังกลางเมืองระนอง ฝ่ายชายรับสารภาพ ชีวิตตกต่ำ ไม่มีรายได้ จึงชวนหลานสาววัย 16 ปี มาร่วมก่อเหตุชิงทอง

น้องชายรัวยิงพี่สาวตายกลางงานศพแม่ อ้างฉุนไม่ให้ร่วมจัดงานศพ

น้องชายชักปืนรัวยิงพี่สาวเสียชีวิตกลางงานศพแม่ ภายหลังน้องชายเข้ามอบตัวกับตำรวจ อ้างเหตุผลฆ่าเพราะโมโห รู้สึกว่าพี่สาวใจดำมากที่กีดกันไม่ให้ตนช่วยจัดงานศพแม่

บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ

เจ้าหน้าที่ อย. ร่วมสืบนครบาล บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ มีเบาะแสต้นตอการทะลักของยาเขียวเหลือง ตะลึงพบซากจิ้งจกตายในหม้อต้ม ขณะที่เจ้าของโรงงานยันประกอบอาชีพโดยสุจริต

ข่าวแนะนำ

ภูเก็ตฝนตกต่อเนื่อง เกิดดินสไลด์จากเขานาคเกิด

สถานการณ์น้ำท่วม จ.สตูล เพิ่มความรุนแรง เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง ส่วน จ.ภูเก็ต ฝนตกต่อเนื่องทั้งวัน ส่งผลบริเวณปฎักซอย 8 บ้านกะตะ ต.กะรน ที่เคยเกิดดินสไลด์จากเขานาคเกิด ปรากฏภาพน้ำและดินโคลนไหลลงมาจากบนเขา สร้างความกังวลให้กับชาวบ้าน เพราะยังไม่มีมาตรการป้องกัน

ธารน้ำใจหลั่งไหลช่วยชาวเชียงราย

สถานการณ์น้ำท่วม อ.เมืองเชียงราย ดีขึ้นต่อเนื่อง แม้ดูเหมือนเป็นข่าวดี แต่ปัญหาที่ชาวเชียงรายต้องเผชิญคือดินโคลนที่ยังต้องรอการฟื้นฟู หลายคนยังทำใจไม่ได้ แต่ฮึดสู้จากธารน้ำใจของพี่น้องชาวไทยที่ส่งไปช่วยเหลือและให้กำลังใจสู้วิกฤติครั้งนี้

ชายแดนเสียหายหนัก “แม่สาย-ท่าขี้เหล็ก” ยังจมโคลน

น้ำท่วมชายแดน อ.แม่สาย จ.เชียงราย มาเกือบสัปดาห์ลดลงเกือบหมดแล้ว แต่ทิ้งความเสียหายอย่างหนัก ทั้งฝั่งไทยและเมียนมา เต็มไปด้วยโคลนมหาศาลท่วมอาคารบ้านเรือน ทำให้หลายคนยังกลับเข้าไปอาศัยในบ้านไม่ได้

เร่งสูบน้ำบรรเทาน้ำท่วมตัวเมืองหนองคาย

หลังแม่น้ำโขงล้นตลิ่งเข้าสู่วันที่ 5 วันนี้ระดับน้ำลดลงอย่างเห็นได้ชัด จนต่ำกว่าแนวพนังกั้นน้ำถาวรแล้ว ทำให้สามารถสูบน้ำได้อย่างเต็มที่ คาดว่าวันพรุ่งนี้ (17 ก.ย.) จะเห็นน้ำในตัวเมืองหนองคาย ลดระดับลงอย่างชัดเจน