ส.อ.ท.เผย กนง.ลดดอกเบี้ย ส่งดัชนีอุตฯ ปรับขึ้น

กรุงเทพฯ 12 มี.ค. – ส.อ.ท. เผย กนง.ลดดอกเบี้ย ส่งดัชนีอุตฯ ขยับขึ้น หนุนมาตรการค้ำประกันสินเชื่อเช่าซื้อรถกระบะ กังวลสงครามการค้ารอบใหม่


นายอภิชิต ประสพรัตน์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) พร้อมด้วย ม.ล.ปีกทอง ทองใหญ่ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และประธานสายงานเศรษฐกิจและวิชาการ ร่วมเปิดเผยผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 อยู่ที่ระดับ 93.4 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 91.6 ในเดือนมกราคม 2568 ซึ่งเป็นผลจากการที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ร้อยละ 0.25 จากร้อยละ 2.25 เป็นร้อยละ 2.00 ต่อปี ซึ่งช่วยลดต้นทุนทางการเงินและเสริมสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการ รวมถึงช่วยกระตุ้นการบริโภคและการลงทุน ประกอบกับมีการขยายระยะเวลามาตรการคุณสู้เราช่วย ไปถึงวันที่ 30 เมษายน 2568 ส่งผลให้ปัจจุบันมียอดเข้าร่วมมาตรการอยู่ที่ 746,912 บัญชี (ณ วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568) รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ อาทิ มาตรการ Easy E-Receipt 2.0 (ช่วงวันที่ 16 มกราคม – 28 กุมภาพันธ์ 2568) และโครงการ 10,000 บาท เฟส 2 ช่วยกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ ซึ่งส่งผลดีต่อยอดขายสินค้าของผู้ประกอบการ การเร่งเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐโดยเฉพาะโครงการก่อสร้างของภาครัฐ ส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้าง อีกทั้งภาคการท่องเที่ยวมีการเติบโตต่อเนื่อง สะท้อนจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสม วันที่ 1 มกราคม – 26 กุมภาพันธ์ 2568 มากกว่า 6 ล้านคน ขยายตัวร้อยละ 10.29 (YoY) การจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว และมาตรการสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัย รวมไปถึงการค้าชายแดนขยายตัวได้ดี โดยในเดือนมกราคม 2568 มีมูลค่าการค้าชายแดนรวมกว่า 1.45 แสนล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 2.7 (YoY)

อย่างไรก็ตาม ในเดือนกุมภาพันธ์ ยังมีปัจจัยลบจากการส่งออกรถยนต์มีแนวโน้มลดลง เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้าราคาถูกจากจีนเข้ามาแข่งขันในประเทศคู่ค้ามากขึ้นประกอบกับรถยนต์ส่งออกบางรุ่นกำลังจะเปลี่ยนเป็นรุ่นใหม่ โดยในเดือนมกราคม 2568 มียอดการส่งออกลดลงร้อยละ 24.63 (YoY) ต่ำสุดในรอบ 33 เดือน กระทบอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง อาทิ ชิ้นส่วนและไหล่ยานยนต์ เหล็ก อลูมิเนียม อีกทั้งสภาพอากาศที่แปรปรวน ส่งผลให้ผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในภาคอุตสาหกรรมลดลง กระทบต่อห่วงโซ่อุปทานและต้นทุนการผลิต เช่น ปาล์มน้ำมันและยางพารา เป็นต้น ความขัดแย้งระหว่างยูเครนและรัสเซียที่ยังยืดเยื้อ ยังคงส่งผลให้ราคาน้ำมันโลกผันผวนและกระทบกับต้นทุนการผลิตของผู้ประกอบการ รวมไปถึงมาตรการปรับขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ส่งผลให้สินค้าจีนทะลักเข้าสู่ไทยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง กดดันผู้ประกอบการไทยให้เผชิญกับการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงขึ้น


จากการสำรวจผู้ประกอบการ 1,350 ราย ครอบคลุม 47 กลุ่มอุตสาหกรรมของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 พบว่าปัจจัยที่ผู้ประกอบการมีความกังวลลดลง ได้แก่ สถานการณ์การเมืองในประเทศร้อยละ 39 ราคาน้ำมันร้อยละ 34.3 อัตราแลกเปลี่ยน (มุมมองผู้ส่งออก) ร้อยละ 33.8 อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ร้อยละ 21.9 ส่วนปัจจัยที่มีความกังวลเพิ่มขึ้น ได้แก่ เศรษฐกิจโลกร้อยละ 51.9 และเศรษฐกิจในประเทศ ร้อยละ 50.1 ขณะที่ดัชนีฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ระดับ 97.6 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 96.2 ในเดือนมกราคม 2568 โดยมีปัจจัยสนับสนุนที่คาดว่าจะมาจากโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 10,000 บาท เฟส 3 คาดว่าจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายมากขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 2 รวมถึงการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2568 ผ่านโครงการ Thailand Summer Festivals อาทิ กิจกรรม Maha Songkran World Water Festival 2025 และงานเย็นทั่วหล้ามหาสงกรานต์ 5 ภูมิภาคทั่วประเทศ ซึ่งคาดว่าจะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจ

อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบยังคงห่วงกังวลในเรื่องสงครามการค้ารอบใหม่ จากการที่สหรัฐฯ ประกาศขึ้นราคาสินค้านำเข้าจากประเทศคู่ค้า โดยเฉพาะในสินค้าเหล็ก และอลูมิเนียมที่จะถูกเก็บภาษีนำเข้าร้อยละ 25 ซึ่งจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม 2568 และแนวโน้มสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ยืดเยื้อและยังไม่มีข้อสรุปที่นำไปสู่สันติภาพ อาจกลายเป็นปัจจัยเร่งให้สถานการณ์ทวีความรุนแรง และขยายวงกว้างสู่ระดับโลก
จึงเสนอรัฐ

  1. เร่งกำหนดยุทธศาสตร์และแผนเตรียมความพร้อมรับมือมาตรการทางการค้าของสหรัฐฯ รวมทั้งการเจรจาต่อรองการค้าในการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ระหว่างกัน โดยมีการรับฟังความเห็นจากภาคเอกชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนมีการแต่งตั้งผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์เข้ามาร่วมเป็นทีมเจรจาต่อรองการค้ากับสหรัฐฯ
  2. ขอสนับสนุนรัฐบาลในการออกมาตรการช่วยค้ำประกันการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถกระบะเชิงพาณิชย์ ผ่านกลไกของบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เพื่อส่งเสริมการผลิตยานยนต์ในประเทศ รักษาการจ้างงานในอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ รวมทั้งช่วยให้ประชาชนสามารถเข้าถึงเครื่องมือในการทำมาหากิน
  3. ขอให้ภาครัฐส่งเสริมและพัฒนาระบบการยกขนถ่ายตู้สินค้าคอนเทนเนอร์ในโครงการพัฒนาศูนย์การขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟ (Single Rail Transfer Operation : SRTO) ที่ท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งออกสินค้า. -517-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รับชันสูตรศพ “ผกก.โจ้” ยาก เหตุศพไม่อยู่สภาพเดิม

ผู้ช่วย ผบ.ตร. รับชันสูตรศพ ผกก.โจ้ ยาก เพราะศพไม่อยู่ในสภาพเดิม ยันดูวงจรปิดไม่พบพิรุธ ยังยิ้มแย้มทักทายผู้ต้องขัง ยกมือไหว้ผู้คุม แต่พบเลือดหยดข้างศพ และแขนซ้ายมีรอยกัดของสัตว์ขนาดเล็ก

โผล่อีก 2 ราย! เหยื่อสาวแบงก์แอบถอนเงินลูกค้า

กรณีสาวแบงก์ แอบถอนเงินลูกค้า 8 ล้านบาท สารภาพเอาไปซื้อบ้าน-รถ และส่งลูกเรียนต่างประเทศ ล่าสุด เหยื่อโผล่แจ้งความเพิ่มอีก 2 ราย วงเงิน 2 ล้าน ยอดรวมเสียหายถึง 10 ล้านบาท

ผบ.ทบ. สั่งระดมทหารช่วยเหตุเพลิงไหม้ รพ.รามาธิบดี

ผบ.ทบ. สั่งระดมทหาร พร้อมกำลังพลจิตอาสากองทัพบก เข้าช่วยอำนวยความสะดวกด้านการจราจร และอพยพผู้ป่วย จากเหตุเพลิงไหม้ รพ.รามาธิบดี

ข่าวแนะนำ

สภาฯ หมื่นล้าน ‘ท่อน้ำฝ้าเพดาน’ แตก

สภาฯ หมื่นล้านแตกอีกแล้ว! รอบนี้ ‘ท่อน้ำฝ้าเพดาน’ แตก น้ำไหลเจิ่งนองลงมายังอาคารจอดรถชั้นใต้ดินบี 1 ระดมแม่บ้านทำความสะอาด-จัดระเบียบอำนวยความสะดวก จนท.รุดซ่อมแซม

รพ.รามาธิบดี แถลงบุคลากรบาดเจ็บ 1 คน เหตุเพลิงไหม้

รพ.รามาธิบดี แถลงเหตุเพลิงไหม้ ผู้ป่วยทุกคนปลอดภัย มีบุคลากร 1 คน บาดเจ็บสูดเขม่าควัน รักษาตัวอยู่ไอซียู คาดกลับมาเปิดให้บริการได้อีกครั้งภายใน 1 สัปดาห์ ด้านอุปนายกวิศวกรรมสถานฯ ตรวจสอบเบื้องต้นอาคารยังอยู่ในสภาพปกติ ขณะที่ พฐ. คาดไฟฟ้าลัดวงจร

“บิ๊กอ๊อด” พร้อมสู้คดีในชั้นศาล ย้ำทุกอย่างทำเพื่อสมาคม-สโมสร

“บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ พร้อมสู้คดีในชั้นศาล หาก “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ฟ้อง ย้ำทุกอย่างทำเพื่อสมาคมและสโมสร

ซ่อมรถบัสทิพย์

บุกจับ 7 จนท.กองกีฬาฯ จัดจ้างซ่อมรถบัสทิพย์เสียหาย 2.7 ล้าน

ป.ป.ช. สนธิกำลังปฏิบัติการร่วม ปปท. และ ป.ป.ป. จับกุม 7 เจ้าหน้าที่สังกัดสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว กรุงเทพมหานคร จัดจ้างซ่อมรถบัสทิพย์ เสียหายกว่า 2.8 ล้านบาท