นายกฯ ยินดี “ทักษิณ” กลับบ้านจันทร์ส่องหล้า

สกลนคร 18 ก.พ. – นายกฯ ยินดี “ทักษิณ” กลับบ้านจันทร์ส่องหล้า หลังพักโทษ บอกยังไม่ได้โทรยินดี “อุ๊งอิ๊ง” แต่เชื่อใจถึงใจ เผยยังไม่มีกำหนดเข้าพบอดีตนายกฯ เพื่อขอคำแนะนำ ขออย่าดราม่านายกฯ สองคน ย้ำไทยมีนายกฯ คนเดียว ลั่นไม่มีความเห็นหากอดีตนายกฯ อีกคนจะกลับประเทศ แต่มองเป็นเรื่องดีหากจะกลับเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม


นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ระหว่างลงพื้นที่ จ.สกลนคร ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางกลับเข้าบ้านจันทร์ส่องหล้า เมื่อเช้านี้ (18 ก.พ.) หลังได้รับการพักโทษ จะมีการเข้าพบนายทักษิณเพื่อขอคำแนะนำอะไรหรือไม่ว่า ยังไม่มี เพราะท่านเพิ่งออกมาเมื่อเช้านี้ ตนคิดว่าในฐานะพ่อก็ยินดีด้วยที่จะได้เจอลูก ไม่ได้เจอกันมานาน ไม่ได้อยู่เป็นครอบครัวมานาน ท่านกลับเข้ามาตามกระบวนการทางกฎหมายเรียบร้อยแล้ว และออกมาก็เป็นไปตามข้อกฎหมายทุกข้อกฎหมายที่กรมราชทัณฑ์ โรงพยาบาลตำรวจ และกระทรวงยุติธรรม เป็นคนเดินเรื่องมา ตนเชื่อว่าช่วงเวลาหลังจากนี้ท่านคงไม่ได้สนใจเรื่องการเมือง ท่านคงอยากใช้เวลาอยู่กับครอบครัว และรักษาตัวอยู่ต่อไปให้ดี หลังจากนั้นค่อยว่ากัน

เมื่อถามว่าได้โทรไปแสดงความยินดีกับนางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย แล้วหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ยังไม่มีเวลา วันนี้ลงพื้นที่ 7 หมาย แต่ว่าเชื่อว่าใจถึงใจอยู่แล้ว ก็ส่งความปรารถนาดี และเป็นเวลาส่วนตัวของท่านกับครอบครัว เราสนิทกันอยู่แล้วเรื่องพวกนี้ไม่จำเป็นต้องโทร แต่ว่าถ้าเกิดมีโอกาสจะโทร แล้วเมื่อมีประชุมคงเข้าไปแสดงความยินดีด้วย ตนเชื่อว่าเวลาอันมีค่านี้ซึ่งไม่ได้อยู่ด้วยกันมาเกือบ 20 ปี ต้องใช้เวลานี้ให้เหมาะสมและคุ้มค่าที่สุด


ส่วนผู้ที่เห็นต่างออกมาเคลื่อนไหวและมองว่าศูนย์บริหารงานหลังจากนี้จะเปลี่ยนจากทำเนียบรัฐบาลไปเป็นบ้านจันทร์สองหล้าแล้ว นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องความเห็นต่างเป็นธรรมดาในสังคมไทยอยู่แล้ว ตนน้อมรับเรื่องความเห็นต่าง เราต้องพูดคุยกันด้วยภาษาที่เหมาะสม และยึดมั่นในหลักการ วันนี้ตนเชื่อว่าอย่างเช่นนายอนุทินเอง ก็อยู่ที่นี่ เราอยู่คนละพรรค คงมีเห็นต่างกันบ้าง แต่โดยรวมเราเห็นตรงกัน เพราะบ้านเมืองต้องเดินไปข้างหน้าให้ได้ บ้านเมืองเราบอบช้ำกันมาเยอะ วันนี้เรามาร่วมกันทำงานเพื่อประเทศชาติ จะเป็นเรื่องของอดีตนายกฯ หลายๆ ท่านเอง ถ้าท่านจำได้เมื่อตอนที่ตนได้รับการแต่งตั้งก็ได้เข้าไปพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพื่อฟังคำแนะนำ และเวลาเจอในงานต่างๆ ก็มีการพบปะพูดคุยกัน ขอคำแนะนำอยู่แล้ว ตนเชื่อว่าถ้าเกิดท่านอดีตนายกฯ ทักษิณพร้อมจะให้คำแนะนำ ตนเชื่อว่าไม่มีใครในรัฐบาลนี้ไม่อยากจะรับคำแนะนำจากท่าน นายอนุทินเองก็เคยทำงานร่วมกับอดีตนายกฯ ทักษิณ มาก่อนก็รู้อยู่แล้วว่าท่านมีความปรารถนาดี ประสบการณ์ที่ท่านสะสมมาระหว่างอยู่เมืองนอก และก็เข้ามาสู่กระบวนการทางกฎหมาย ซึ่งต้องเน้นย้ำว่าถูกต้อง ตรงนี้อย่ามาดราม่ากันเลยว่ามีนายกฯ กี่คน รัฐธรรมนูญไทยระบุอยู่แล้วว่ามีนายกฯ คนเดียว ก็มีคนเดียวคือตนนี่แหละ

นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงกรณีที่ได้รับคำแนะนำจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรีและอดีตนายกรัฐมนตรี ว่าท่านบอกว่าที่ทำอยู่ก็ดีอยู่แล้วแต่ต้องอดทนต่อไป เพราะอย่างที่ท่านเตือนแรงตั้งแต่ตอนแรกที่ตนเข้ามารับตำแหน่ง เรื่องธุรกิจกับเรื่องการบริหารราชการแผ่นดินไม่เหมือนกัน เพราะธุรกิจมีอำนาจเบ็ดเสร็จ แต่ราชการต้องขึ้นกับหลายหน่วยงาน และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ก็เตือนตนว่าขอให้ใจเย็นๆ ไม่ใช่ทุกเรื่องทำได้เองหมด เช่นเดียวกับสื่อมวลชนเคยเตือนตนว่าให้ใจเย็นๆ และช้าๆ บ้าง อย่าปากไว ซึ่งตนไม่เคยแสดงอารมณ์โกรธอะไร แต่มองว่าบางบริบทเหมาะสมที่จะได้รับคำเตือนและนำไปพิจารณา พร้อมยืนยันว่าตนไม่ได้เคลมหมดว่ารู้หมดทุกอย่าง หากคำแนะนำอะไรที่เหมาะสมและเตือนกันด้วยความปรารถนาดี ตนพร้อมน้อมรับจากทุกท่าน ไม่ใช่จากทุกคน ไม่ใช่เพียงอดีตนายกฯ อย่างเดียว เพราะตนเพิ่งเข้าการเมืองได้ 5-6 เดือน ซึ่งได้รับคำเตือนตลอด อย่างเช่นเมื่อเช้านี้ นายอนุทินยังให้คำแนะนำเรื่องการทำงานอยู่ แต่ถึงอย่างไรทุกคนยังมีขีดจำกัดของตนเอง เช่น ให้คำแนะนำ 10 เรื่อง ตนอาจจะรับฟัง 6-7 เรื่อง เพราะฝนก็มีขีดจำกัดและมีความเป็นตัวของตัวเอง อย่างไรก็ตาม เมื่อมีคำแนะนำยืนยันว่านายกรัฐมนตรีคนนี้พร้อมน้อมรับคำแนะนำ

เมื่อถามว่าการทำงาน 5-6 เดือนที่ผ่านมา เหนื่อยหรือหนักบ้างหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ถ้าบอกว่าไม่เหนื่อยคงคงไม่จริง แต่เมื่อเสนอตัวมารับใช้ประชาชนแล้วก็รู้ว่างานจะเยอะอยู่แล้ว อาทิ ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหา PM 2.5 ปัญญายาเสพติด เมื่อเช้าที่ผ่านมาตนได้คุยกับแม่ทัพภาคที่ 2 ที่นำเสนอวิธีการแก้ปัญหายาเสพติด ซึ่งมองว่าบางเรื่องมีความน่าสนใจในการกำจัดยาเสพติด พร้อมยืนยันว่าตนไม่อยากจะมองว่าเป็นปัญหา แต่ขอให้มองว่าเป็นโอกาส


เมื่อถามถึงกรณีที่การที่นายทักษิณได้รับการพักโทษทำให้มีการมองว่าสถานการณ์การเมืองหลังจากนี้จะมีความเปลี่ยนแปลง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คอยดูต่อไป เพราะการเมืองเปลี่ยนแปลงทุกวัน แต่ตนไม่แน่ใจว่าที่สื่อ บอกว่าเปลี่ยนไปนั้นจะดีขึ้นหรือเลวลง แต่ตนมองว่าเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นอยู่แล้ว เพราะรัฐบาลเองก็มี 314 เสียง เราทำงานร่วมกัน แม้จะมีบางข้อที่เห็นไม่ตรงกันแต่ก็พูดจากันด้วยดี และพยายามแก้ปัญหาด้วยความตั้งใจจริง เพื่อจุดมุ่งหมายเดียวคือการนำพาประเทศไปให้ได้

“ถ้าการพักโทษทำให้มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองไปในทิศทางที่ดีขึ้น โดยอยู่บนความชอบธรรมของกฎหมาย ที่ท่านได้กลับมารับโทษเรียบร้อยแล้ว และผ่านขั้นตอนทางกฎหมายเรียบร้อย และออกมาพักตัวที่บ้านแล้ว ตนเชื่อว่าพี่น้องคนไทยประชาชน 66 ล้านคน ก็ยินดีถ้าเกิดการเมืองไทยดีขึ้น ก็เป็นหน้ามี่ของเราที่ทำให้มันดีขึ้น”

เมื่อถามถึงยังมีอดีตนายกรัฐมนตรีของเพื่อไทยที่ยังอยู่ต่างประเทศ หากจะกลับมาเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายนั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เป็นสิทธิของท่าน ตนไม่มีความเห็นใดๆ ทั้งสิ้น หากกลับเข้ามาตามกระบวนการกฎหมายและทุกอย่างถูกต้องก็เป็นเรื่องหน้ายินดี

เมื่อถามถึงกลุ่ม คปท. อาจจะไปปักหลักชุมนุมที่หน้าบ้านจันทร์สองหล้า นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เราอยากเห็นบ้านเมืองเดินหน้าไปให้ได้ ขณะนี้บ้านเมืองสงบสุขอยู่แล้ว แต่ปัญหาใหญ่ขณะนี้คือเรื่องเศรษฐกิจ จึงอยากให้โฟกัสเรื่องนี้มากกว่า ส่วนการแสดงออกขอให้อยู่บนกรอบของกฎหมาย โดยรัฐบาลมีหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมาย อย่าให้เกินเลย

เมื่อถามว่าจะมีการขอคำแนะนำนายทักษิณหรือไม่ เพราะรัฐบาลมุ่งนโยบายเรื่องเศรษฐกิจ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ประเทศไทยไม่ได้มีแค่อดีตนายกฯ ทักษิณ แต่ทุกคนเป็นที่ประจักษ์อยู่แล้วว่าอดีตนายกฯ ทักษิณ เป็นบุคคลที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทยด้วย และยังมีอดีตนายกรัฐมนตรีอีกหลายคนที่มีความชำนาญในหลายๆ เรื่อง ซึ่งคนรัฐบาลร รวมถึงตน มีสิทธิที่จะไปขอคำแนะนำกับบุคคลเหล่านี้ แต่ยืนยันว่าจุดมุ่งหมายที่ทุกคนมีคือให้บ้านเมืองเดินหน้าไปได้.-316-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ชาวนครฯ ฝ่าสายฝนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง นายก อบจ.

ชาวนครศรีธรรมราช ฝ่าสายฝนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง นายก อบจ.ต่อเนื่อง หลังเจ้าหน้าที่ประจำหน่วย เปิดให้มีการลงคะแนน

เปิดหีบเลือกตั้ง “นายก อบจ.อุดรธานี” ปชช.ทยอยใช้สิทธิ

ชาวอุดรธานีทยอยใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ. ต่อเนื่อง ด้านเลขาธิการ กกต. เผยคืนหมาหอน ทั้งที่อุดรธานี เพชรบุรี และนครศรีธรรมราช ยังไม่พบการทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนอุณหภูมิสูงขึ้น-ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนอุณหภูมิสูงขึ้น เตือนภาคใต้ตอนล่างฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก