สมาพันธรัฐสวิส 16 ม.ค.-“ปานปรีย์” ยันไทยไม่เห็นด้วยกับกิจกรรมสถานทูตอิสราเอล จี้ให้ปล่อยตัวประกัน สั่งปลัด กต.เชิญทูตคุย ย้ำอยู่ช่วงเจรจาเป้าหมายต้องปลอดภัย เล็งพบนายกฯ กาตาร์ ในเวที WEF ช่วยตัวประกันที่เหลือ
นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่สถานเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทยจัดกิจกรรมรณรงค์ ให้ปล่อยตัวประกันคนไทยโดย นั่งรถตุ๊กๆ สวมหน้ากากหน้าตัวประกัน และสัญจรไปถนนสายหลักในกรุงเทพฯ ว่า เวลาอิสราเอลทำอะไร ไม่เคยมาขออนุญาตทางการไทย และขอยืนยันว่า การเคลื่อนไหวดังกล่าวนั้นไทยไม่ค่อยเห็นด้วย และมอบหมายให้ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เชิญเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทยมาพูดคุย ว่าขณะนี้เรากำลังอยู่ในระหว่าง ช่วงการเจรจาให้ตัวประกันทั้ง 8 คนได้กลับมาสู่ประเทศไทย จึงไม่ประสงค์ที่จะสร้างปัญหาหรือไม่ประสงค์ที่จะทำให้ประเทศที่เกี่ยวข้องเกิดความเข้าใจผิดว่า เราไปสนับสนุนประเทศใดประเทศหนึ่งโดยเฉพาะประเทศที่มีความขัดแย้งกันอยู่
“ไทยเป็นมิตรกับทุกประเทศและในส่วนของอิสราเอล ตนก็เชื่อว่าพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ชาวโลกเข้าใจว่า เขาไม่ได้มีส่วนทำให้เกิดปัญหานี้ แต่อย่างไรก็ตามในส่วนของไทยก็มองว่าเวลานี้ เรื่องสำคัญที่สุดคือ ให้ตัวประกันคนไทยทั้ง 8 คนปลอดภัยที่สุดและกลับมาประเทศไทย และไม่ประสงค์ให้ประเทศใดประเทศหนึ่งใช้เวทีของไทยสร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้น” นายปานปรีย์ กล่าว
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยืนยันด้วยว่า รัฐบาลไทยยังคงพยายามหาแนวทางในการช่วยเหลือตัวประกันีนไทยที่เหลือ โดยยังคงเจรจากับเครือข่ายที่เคยช่วยเหลือไทย และเคยพูดคุยกันมาว่าจะช่วยเหลือไทยและตัวประกันคนไทย โดยเฉพาะในครั้งนี้ในโอกาสที่เดินทางมาร่วมประชุม World Economic forum กับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และทราบว่านายกรัฐมนตรีของกาตาร์ ซึ่งเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศด้วยจะมาร่วมประชุมในครั้งนี้ ก็มีความประสงค์ที่จะหารือและหาเป็นไปได้ก็จะขอพูดคุย แบบทวิภาคี ซึ่งที่ผ่านมามีส่วนผลักดัน และสนับสนุนช่วยเหลือตัวประกันคนไทย.-312.-สำนักข่าวไทย