“ธรรมนัส” สั่งตั้งด่านซ้อนด่านศุลกากร สกัดเข้มสินค้าเกษตรเถื่อน

กรุงเทพฯ 22 พ.ย. – รมว. เกษตรฯ เผยสั่งชุดเฉพาะกิจ “พญานาคราช” เตรียมตั้งด่านสกัดสินค้าเกษตรเถื่อน เป็นจุดตรวจสอบชั้นที่ 2 หากหลุดรอดจากด่านศุลกากรเข้าสู่ราชอาณาจักร ชี้กรณีสำแดง “หมูเถื่อน” เป็นสินค้าสัตว์น้ำแช่แข็ง ก็ไม่รอดจากการตรวจสอบ ฉุน “ยางเถื่อน” หลุดเข้ามาในอ. สังขละบุรี สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเจ้าหน้าที่ที่ปล่อยปละละเลย


ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า ได้สั่งการให้ชุดเฉพาะกิจ “พญานาคราช” ซึ่งเพิ่งลงนามแต่งตั้ง ให้ปฏิบัติงานทันที โดยเตรียมตั้งด่านสกัดการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรผิดกฎหมายให้เป็นจุดตรวจสอบชั้นที่ 2 หากหลุดรอดจากด่านศุลกากรเข้าสู่ราชอาณาจักร

นอกจากนี้ยังสั่งให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่ได้รับรายงานว่า วานนี้มีการลักลอบนำเข้า “ยางเถื่อน” เข้ามาในอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี จึงต้องตรวจสอบว่า เป็นการปล่อยปละละเลยของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือไม่


ในการปูพรมตรวจสอบห้องเย็น ได้มอบหมายให้อธิบดีกรมปศุสัตว์ กรมประมง และกรมวิชาการเกษตรประสานความร่วมมือกับทุกจังหวัดเพื่อจัดประชุมร่วมกับผู้ประกอบการในการเร่งขึ้นทะเบียนห้องเย็นทั่วประเทศซึ่งจะเป็นการ Set Zero ระบบการตรวจสอบขบวนการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรผิดกฎหมายตั้งแต่ต้นทาง

สำหรับการปราบปราม “หมูเถื่อน” ซึ่งขบวนการลักลอบนำเข้า หลีกเลี่ยงการตรวจสอบ โดยสำแดงเป็นสินค้าสัตว์น้ำแช่แข็งนั้น ได้มอบหมายให้กรมประมงมาร่วมตรวจสอบจากเอกสารต่างๆ ที่ยื่นตามพิธีการศุลกากร ยืนยันว่า สามารถติดตามตรวจสอบได้

ส่วนที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ระบุว่า มีพยานหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐมากกว่า 10 รายเกี่ยวข้องกับขบวนการ “หมูเถื่อน” โดยเตรียมส่งสำนวนให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พิจารณาชี้มูลความผิดนั้น ร้อยเอกธรรมนัสกล่าวว่า ไม่ได้นิ่งนอนใจจึงสั่งการให้ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า มีเจ้าหน้าที่สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ โดยให้ส่งหนังสือไปขอข้อมูลและหลักฐานจากดีเอสไอ หากพบว่า มีเจ้าหน้าที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ยังรับราชการอยู่เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย จะดำเนินการอย่างเด็ดขาดทั้งทางวินัยและอาญา ตามมาตรา 157


ร้อยเอกธรรมนัสกล่าวย้ำว่า กำลังเร่งแก้ปัญหาเร่งด่วนที่ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรและผู้บริโภค โดยเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นก่อนเข้ามาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แต่ขณะนี้ได้ขับเคลื่อนการพัฒนาภาคเกษตรตามนโยบาย “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” โดยเฉพาะการเพิ่มการส่งออกสินค้าเกษตรเพื่อให้จีดีพีภาคเกษตรเติบโตเพื่อสร้างความกินดีอยู่ดีให้แก่เกษตรกรและขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง