กรุงเทพฯ 21 พ.ย. – รมว.เกษตรฯ ตั้งชุดเฉพาะกิจ “พญานาคราช” ปราบสินค้าเกษตรเถื่อนทุกชนิด เผยรู้ตัวการใหญ่ขบวนการนำเข้าและค้า “หมูเถื่อน” แม้เหตุเกิดปี 64-65 ลักลอบจำหน่ายหมดแล้ว แต่หลักฐานที่สำแดงตามพิธีการศุลกากรบ่งชัด ดำเนินการเด็ดขาดตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องทุกฉบับ รวมถึงกฎหมายยึดทรัพย์
ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า ได้ลงนามแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจปราบปรามสินค้าเกษตรผิดกฎหมายทุกชนิด ทั้งด้านพืช ปศุสัตว์ และประมง ใช้ชื่อว่า “ชุดพญานาคราช” ประกอบด้วย สารวัตรเกษตร สารวัตรปศุสัตว์ และสารวัตรประมง ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานอัยการสูงสุด และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.)
ทั้งนี้การดำเนินการทางกฎหมายต่อผู้กระทำผิด จะดำเนินการทั้งพ.ร.บ. โรคระบาดพืช ปศุสัตว์ และสัตว์น้ำของหน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พ.ร.บ. ศุลกากร และพ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน โดยยึดทรัพย์ที่มาจากการกระทำผิดด้วย
ชุดเฉพาะกิจพญานาคราชประชุมนัดแรกในวันนี้ เพื่อรับนโยบายและสามารถปฏิบัติงานได้ทันที เรื่องเร่งด่วนที่สุดคือ การตรวจห้องเย็นทั่วประเทศ โดยได้รับรายงานจากนายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ว่า เข้าตรวจแล้ว 2,149 แห่ง แต่มีห้องเย็นบางส่วนไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานใดเลย ดังนั้นจึงจะปูพรมตรวจในวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้ รวมทั้งให้ห้องเย็นที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียน ดำเนินการขึ้นทะเบียนให้ถูกต้อง นับเป็นก้าวแรกที่จะ Set Zero ระบบการตรวจสอบขบวนการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรผิดกฎหมายตั้งแต่ต้นทาง หากตรวจพบว่า รายใดไม่ได้ขึ้นทะเบียน จะดำเนินคดีอย่างแน่นอน ผลการปฏิบัติงานจะรายงานทุก 15 วัน
สำหรับการปราบปราม “หมูเถื่อน” นั้น ได้รับรายงานว่า จากการสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ร่วมกับป.ป.ง. ทราบตัวการใหญ่ซึ่งอยู่เบื้องหลังแล้ว จะสาวถึงในเร็ววันนี้
ร้อยเอกธรรมนัสกล่าวย้ำว่า การลักลอบนำเข้า “หมูเถื่อน” เกิดขึ้นในปี 2564-2565 ตนกำลังเร่งสะสางปัญหาที่เกิดขึ้นก่อนรัฐบาลชุดนี้มาบริหาร โดยสินค้าผิดกฎหมายที่นำเข้ามา แม้จะลักลอบจำหน่ายหมดไปแล้ว แต่จะตรวจสอบหลักฐานการสำแดงตามพิธีการศุลกากร จากที่มีรายงานว่า มีการสำแดงเท็จเป็นสินค้าสัตว์น้ำแช่แข็งจึงได้ให้รองอธิบดีกรมประมงมาอยู่ในคณะทำงานเพื่อร่วมตรวจสอบด้วย โดยขอให้รอดูปฏิบัติการของชุดเฉพาะกิจพญานาคราชที่จะเกิดขึ้นในไม่กี่วันนี้
พลตำรวจตรี เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองเลขาธิการสำนักงานป.ป.ง. กล่าวว่า การรวบรวมพยานหลักฐานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสาวถึงผู้อยู่เบื้องหลังขบวนการ “หมูเถื่อน” คืบหน้าไปมาก ก่อนหน้านี้ต้องใช้ระยะเวลาในการรวบรวมหลักฐานต่างๆ เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปี 2564-2565 โดยหลักฐานสำคัญคือ เอกสารตามพิธีการศุลกากรและเส้นทางการเงิน อีกไม่กี่วันนับจากนี้จะมีความชัดเจน แต่ไม่สามารถบอกรายละเอียด ขอให้ติดตามปฏิบัติการสำคัญ.-สำนักข่าวไทย