“ธรรมนัส” เร่งเยียวยาครอบครัว จนท.ปศุสัตว์ ถูกยิงเสียชีวิต ย้ำชัดลูกน้องต้องไม่ตายฟรี

กรุงเทพฯ 12 ต.ค. – รมว.เกษตรฯ เรียกผู้บริหารกรมปศุสัตว์ประชุมด่วน เร่งเยียวยาครอบครัวเจ้าหน้าที่ที่ถูกยิงเสียชีวิตขณะเข้าตรวจค้นห้องเย็นซุก “หมูเถื่อน” พร้อมดูแลเจ้าหน้าที่อีกรายที่บาดเจ็บ ย้ำชัดลูกน้องต้องไม่ตายฟรี สาวถึงต้นตอขบวนการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรผิดกฎหมาย ต้องเห็นผลทันทีในอีก 1 สัปดาห์ โดยเตรียมมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ


ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เดินทางไปยังกรมปศุสัตว์ เพื่อประชุมกับนายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ และผู้บริหารกรมปศุสัตว์ทั้งส่วนกลางและภูมิภาคประชุม โดยระบุว่าต้องเร่งเยียวยาครอบครัวของเจ้าหน้าที่ที่เสียชีวิตจากการถูกเจ้าของห้องเย็นกระหน่ำยิง ขณะเข้าตรวจค้น “หมูเถื่อน” พร้อมกำชับให้ดูแลเจ้าหน้าที่อีก 1 ราย ที่ได้รับบาดเจ็บและรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล สำหรับกรณีการเยียวยาครอบครัวของเจ้าหน้าที่ที่เสียชีวิต จะได้รับสวัสดิการตามสิทธิ โดยบุตรจะได้รับการศึกษาจนจบปริญญาตรี ส่วนเรื่องคดีความได้เร่งรัดดำเนินคดีผู้กระทำผิดโดยเร็วที่สุดด้วย

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า จากนี้ไปกระทรวงเกษตรฯ โดยกรมปศุสัตว์ จะปฏิบัติการเชิงรุกมากขึ้นในการกวาดล้างขบวนการลักลอบนำเข้า-ส่งออกสินค้าเกษตรผิดกฎหมายอย่างเข้มข้นและให้สิ้นซาก โดยมอบหมายนายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เร่งรัดการดำเนินงานตั้งแต่วันนี้ ต้องเห็นผลการดำเนินงาน 100% ภายในวันที่ 20 ตุลาคม 2566 นี้ ยืนยันว่าลูกน้องต้องไม่ตายฟรี


ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำให้กำหนดมาตรการด้านความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งอาจมีความเสี่ยงขณะปฏิบัติหน้าที่ ขณะเดียวกันได้ให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ให้มีกำลังใจที่เข้มแข็งในการเข้าปฏิบัติงานในฐานะที่เป็นผู้บังคับใช้กฎหมายด้านปศุสัตว์ โดยขณะนี้ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง 4 เหล่าทัพ ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บูรณาการเข้าปฏิบัติการอย่างรัดกุมและคำนึงถึงความปลอดภัย

ขณะดียวกัน นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการแถลงข่าวร่วมกับนายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ณ ทำเนียบรัฐบาลว่า จากนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ประกาศสงครามกับสินค้าปศุสัตว์ที่ลักลอบนำเข้า-ส่งออกผิดกฎหมาย โดยได้ดำเนินการตรวจสอบและกวาดล้างขบวนการผิดกฎหมายดังกล่าวอย่างเข้มข้น ส่งผลกระทบต่อผู้มีอิทธิพลที่เกี่ยวข้องและสถานการณ์มีความรุนแรงเพิ่มขึ้น ซึ่งรัฐบาลให้ความตระหนักและเล็งเห็นถึงความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานด้วยความเสี่ยง จึงพร้อมให้การสนับสนุนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่ เพื่อสร้างขวัญกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างเต็มที่ พร้อมกันนี้ได้มอบหมายกรมปศุสัตว์ตรวจสอบย้อนหลังถึงช่องทางการนำเข้า การเสียภาษี และเส้นทางการเงินต่างๆ เพื่อสืบหาต้นตอการเข้ามาของสินค้าเกษตรผิดกฎหมายและเตรียมกวาดล้างให้สิ้นซากต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นร.หญิง ม.1 จมทะเลดับ หลังโรงเรียนพาไปทัศนศึกษาที่ระยอง

โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมา พานักเรียนไปทัศนศึกษาที่ จ.ระยอง นักเรียนหญิง ม.1 ถูกคลื่นดูดลงทะเลขณะเล่นน้ำ เสียชีวิต พ่อแม่สุดเศร้าสูญเสียลูกสาวคนเดียวของครอบครัว

น้ำท่วมเชียงใหม่

เชียงใหม่จมบาดาล น้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์

น้ำท่วมในตัวเมืองเชียงใหม่ ยังวิกฤติ หลังน้ำในลำน้ำปิงขึ้นสูงสุดทรงตัวสูงกว่า 5.30 เมตร ซึ่งสูงที่สุดตั้งแต่มีการวัดระดับน้ำปิง

น้ำท่วมขนส่งเชียงใหม่กระทบผู้โดยสาร เปิดจุดจอดรับ-ส่งชั่วคราว

น้ำขยายวงกว้างเข้าท่วมสถานีขนส่งเชียงใหม่แห่งที่ 2 และ 3 เต็มพื้นที่ ระดับน้ำสูงเกือบ 50 ซม. ผู้ประกอบการขนส่งต้องนำรถทัวร์โดยสารออกมาจอดรับ-ส่งบนถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ยืนยันผู้ประกอบการยังให้บริการตามปกติ

ระทึก! แท็กซี่พลิกคว่ำเกิดเพลิงไหม้ 5 ชีวิตรอดหวุดหวิด

รถแท็กซี่พลิกคว่ำและเกิดเพลิงลุกไหม้กลางถนนพระราม 9 ผู้โดยสารหญิงสติดีถีบประตูช่วยตัวเองและคนอื่นออกมาจากตัวรถรวม 5 ชีวิตได้ทัน แต่ในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัส 1 คน เป็นคนขับแท็กซี่ ตำรวจเร่งสอบสวนหาสาเหตุ

ข่าวแนะนำ

กต.ย้ำมีแผนพร้อมอพยพคนไทยในอิสราเอล-เลบานอน

กต.ประชุมประเมินสถานการณ์อิสราเอล-ฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน ย้ำมีแผนอพยพพร้อม เผย 5 แรงงานไทยเตรียมเดินทางกลับ แนะประชาชนตัดสินใจก่อนน่านฟ้าปิด

เตรียมตั้ง 7 เตาไฟฟ้า พิธีพระราชทานเพลิงศพ นร.-ครู 23 คน

เตรียมพื้นที่ตั้ง 7 เตาไฟฟ้า กลางสนามโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จ.อุทัยธานี ในพิธีพระราชทานเพลิงศพ นักเรียน-ครู 23 คน เหยื่อไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา วันที่ 8 ต.ค.นี้

เชียงใหม่ยังอ่วม เจอน้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์

แม้ระดับน้ำปิงที่ทะลักท่วมตัวเมืองเชียงใหม่เริ่มลดลง จากที่เคยขึ้นสูงสุดถึง 5.30 เมตร ซึ่งถือว่าสูงที่สุดเท่าที่เคยวัดระดับมา จนทำให้เชียงใหม่เผชิญกับน้ำท่วมครั้งใหญ่สุดเป็นประวัติการณ์ บ้านเรือนหลายพันหลังและย่านการค้ายังจมน้ำ บางจุดยังท่วมสูงกว่า 2 เมตร ยังต้องเร่งอพยพผู้คนออกจากพื้นที่น้ำท่วม หลายคนต้องใช้ชีวิตอยู่ในรถที่จอดบนสะพาน

ภาคกลางเริ่มกระทบ น้ำเจ้าพระยาเอ่อท่วมบ้านประชาชน

น้ำเจ้าพระยาล้นข้ามถนนเข้าท่วมบ้านกว่า 30 หลังคาเรือน ต.ชีน้ำร้าย อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ส่วนชุมชุนริมท่าน้ำปากเกร็ด เริ่มกระทบ