fbpx

หลายร้อยชีวิต บนซากปรักหักพัง เหตุโกดังพลุระเบิด

นราธิวาส 31 ก.ค.-เหตุการณ์โกดังเก็บพลุและดอกไม้ไฟระเบิดในตลาดมูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่หลายฝ่ายยังคงสนธิกำลังลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ ล่าสุดมีผู้ประสบภัยเข้าแจ้งขอรับความช่วยเหลือจากเหตุการณ์ในครั้งนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ รวมแล้วกว่า 300 คน


ชาวบ้านในชุมชนมูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส หลายร้อยชีวิต ต้องเผชิญการใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางซากปรักหักพังและความมืดมิด จากผลกระทบโกดังเก็บพลุและดอกไม้ไฟระเบิดเมื่อวันที่ 29 ก.คที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความสูญเสียที่เกิดขึ้น ความช่วยเหลือจากหลายภาคส่วนยังคงหลั่งไหลสู่ชุมชนแห่งนี้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะวันนี้มีความชัดเจนเรื่องการช่วยเหลือเยียวยาจากทางรัฐบาลว่าจะจ่ายเงินช่วยเหลือให้ครอบครัวผู้ประสบเหตุและเสียชีวิตอย่างไร แต่ยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ จากทางเจ้าของโกดัง ซึ่งเป็นต้นเหตุของการระเบิดในครั้งนี้ แม้ว่าตำรวจจะออกหมายเรียกไปแล้วตั้งแต่เมื่อวานนี้


บรรยากาศในพื้นที่ ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส แม้วันนี้จะย่างเข้าสู่วันที่ 3 หลังเกิดเหตุแต่บรรยากาศยังเงียบเหงาและเป็นไปอย่างโศกเศร้า เพราะหลายครอบครัวต้องสูญเสียบุคคลที่รักไปอย่างไม่มีวันกลับ และอีกนับร้อยครอบครัวแทบกลายเป็นคนสิ้นเนื้อประดาตัว เพราะทรัพย์สินเสียหายไปพร้อมกับเปลวเพลิงและแรงระเบิด

วันนี้ผู้ประสบเหตุส่วนใหญ่กลับเข้ามาสำรวจความเสียหายภายในบ้านอีกครั้ง เพื่อประเมินว่ามีทรัพย์สินอะไรเสียหายบ้าง และจะต้องซ่อมแซมในส่วนไหนอย่างไร เพื่อรวบรวมข้อมูลแจ้งให้กับทางภาครัฐประเมินว่าเข้าหลักเกณฑ์การช่วยเหลือข้อไหน

วันนี้นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ลงพื้นที่เยี่ยมและให้กำลังใจผู้ประสบเหตุในพื้นที่ด้วย พร้อมระบุว่า ความสูญเสียที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ถือเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ พร้อมฝากถึงกระทรวงมหาดไทยกำชับผู้ที่เกี่ยวข้องให้บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะกรณีการลักลอบเก็บสะสมประทัด พลุ และดอกไม้ไฟ ในพื้นที่ต่างๆ ไม่เฉพาะแค่ในพื้นที่ควบคุมพิเศษเช่น 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ต้องกำชับให้ตรวจตราเข้มในพื้นที่ทั่วทั้งประเทศ เพื่อป้องกันการเกิดโศกนาฏกรรมเหมือนเช่นในครั้งนี้


ส่วนภาพรวมความเสียหายจนถึงเวลานี้ นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ระบุว่า ขณะนี้มีประชาชนผู้ได้รับผลกระทบมาลงทะเบียนแล้วทั้งสิ้นรวม 365 คน ส่วนตัวเลขผู้สูญหายขณะนี้ไม่มีแล้ว เช่นเดียวกับผู้เสียชีวิตที่ตัวเลขคงที่แล้วอยู่ที่ 12 คน เบื้องต้นสำหรับผู้เสียชีวิต จะได้รับเงินช่วยเหลือจากกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรีแบ่งออกเป็นค่าจัดการศพ รายละ 50,000 บาท เงินทุนเลี้ยงชีพแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต ครอบครัวละ 30,000 บาท

ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ 121 คน ขณะนี้มีที่ยังคงอาการหนัก 1 คน อีก 9 คนปลอดภัยแล้ว ส่วนที่เหลืออีก 101 คนกลับบ้านได้แล้ว เบื้องต้นจะได้รับเงินช่วยเหลือรายละ 30,000 บาท และได้รับเงินทุนเลี้ยงชีพผู้บาดเจ็บทั่วไป รายละ 15,000 บาท กรณีบ้านเรือนเสียหาย ค่าวัสดุในการก่อสร้าง/ซ่อมแซมบ้านเรือนที่เสียหาย ตามความเสียหาย เท่าที่จ่ายจริง ไม่เกินหลังละ :230,000 บาท
: เสียหายมาก (30% – 70%) 70,000 บาท
: เสียหาย (น้อยกว่า 30%) 15,000 บาท
ค่าเครื่องอุปโภค และเครื่องใช้อื่น ๆ ที่จำเป็น (เฉพาะบ้านเรือนที่เสียหายทั้งหลัง และเสียหายมาก) ครัวเรือนละ 5,000 บาท

ส่วนความคืบหน้าเรื่องของคดีวันนี้ พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 9 ลงพื้นที่ตรวจสอบ พร้อมเปิดเผยว่า หลังจากตำรวจได้ออกหมายเรียกเจ้าของโกดังมาสอบสวนตั้งแต่วานนี้ ล่าสุดติดต่อเข้ามาว่าจะเข้ามาพบกับตำรวจในวันพรุ่งนี้ แต่ถ้าไม่มาก็จะออกหมายจับต่อไป

อย่างไรก็ตาม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ไม่ได้ให้ข้อมูลว่าขณะนี้เจ้าของโกดังซึ่งก่อนหน้ามีข้อมูลว่าเดินทางไปท่องเที่ยวอยู่ต่างประเทศได้เดินทางกลับเข้ามายังประเทศไทยแล้วหรือไม่ แต่ยอมรับว่าเจ้าของกิจการรายนี้เคยมีประวัติถูกจับเดินคดีในฐานครอบครองประทัด ดอกไม้เพลิงมาแล้วเมื่อปี พ.ศ.2559 หรือเมื่อราว 7 ปีก่อน ซึ่งทางตำรวจได้สั่งฟ้องและดำเนินคดีไปแล้วครั้งหนึ่ง แต่ยังมีการลักลอบกลับมากกระทำความผิดซ้ำอีก

เบื้องต้นตำรวจเตรียมแจ้ง 3 ข้อหา คือ การทำให้ให้เกิดการระเบิด ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ และทรัพย์สินเสียหายเป็นจำนวนมาก และข้อหาความผิดเรื่องการครอบครองจำพวกระเบิดเพลิงและพื้นที่จังหวัดภาคใต้ เป็นพื้นที่เฉพาะในเรื่องของความมั่นคงในการจำหน่ายดอกไม้เพลิง ส่วนจะมีการแจ้งข้อหาอื่นๆ เพิ่มเติมหรือไม่นั้นต้องรอการสอบสวนเพิ่มอีกครั้ง

ส่วนดอกไม้เพลิงที่อยู่ในโกดัง ทางชุดเก็บกู้ระเบิดที่คำนวณจากหลุมที่โดนระเบิด เบื้องต้นพบมากกว่า 1,000 กิโลกรัม ส่วนการตรวจสอบว่าดอกไม้เพลิงเข้ามาถูกต้องหรือไม่ตอนนี้ได้สั่งการไปแล้วว่าวัตถุพวกนี้ต้องมีที่มาที่ไป มีขบวนการระหว่างเส้นทาง โดยจะมีกฏหมายเข้ามาควบคุมอยู่แล้ว เริ่มตั้งแต่การผลิต ขนส่ง เก็บรักษา และการขาย ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการในการรวจสอบ นอกจากนี้ยังตรวจสอบว่ามีขายที่ไหนบ้าง ลูกค้ามีใครบ้าง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งเจ้าของจะต้องมีเอกสารมาชี้แจง เรื่องนำเข้าและการส่งออก ส่วนการก่อสร้างลักษณะโกดังเก็บประทัด ดอกไม้ไฟต้องมีการของอนุญาตลักษณะพิเศษ ตอนนี้สั่งการให้ตรวจสอบแล้วเช่นกัน ขณะนี้ทางตำรวจเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน หากพบความผิดหรือมีความเกี่ยวข้องก็แจ้งข้อกล่าวหาต่อไป. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกตรวจน้ำท่วมเชียงราย

นายกฯ บินเชียงราย ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม

“นายกฯ แพทองธาร” ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม เตรียมมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ จ.เชียงราย พร้อมตรวจเยี่ยมการลำเลียงสิ่งของช่วยเหลือของกองทัพ

ชิงทองระนอง68บาท

รวบแล้วโจรชิงทอง 68 บาท กลางห้างดังระนอง

รวบแล้ว 2 คนร้ายชายหญิง จี้ชิงทอง 68 บาท ในห้างดังกลางเมืองระนอง ฝ่ายชายรับสารภาพ ชีวิตตกต่ำ ไม่มีรายได้ จึงชวนหลานสาววัย 16 ปี มาร่วมก่อเหตุชิงทอง

น้องชายรัวยิงพี่สาวตายกลางงานศพแม่ อ้างฉุนไม่ให้ร่วมจัดงานศพ

น้องชายชักปืนรัวยิงพี่สาวเสียชีวิตกลางงานศพแม่ ภายหลังน้องชายเข้ามอบตัวกับตำรวจ อ้างเหตุผลฆ่าเพราะโมโห รู้สึกว่าพี่สาวใจดำมากที่กีดกันไม่ให้ตนช่วยจัดงานศพแม่

บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ

เจ้าหน้าที่ อย. ร่วมสืบนครบาล บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ มีเบาะแสต้นตอการทะลักของยาเขียวเหลือง ตะลึงพบซากจิ้งจกตายในหม้อต้ม ขณะที่เจ้าของโรงงานยันประกอบอาชีพโดยสุจริต

ข่าวแนะนำ

ชายแดนแม่สายยังเละจมโคลน จับตาพายุลูกใหม่

แม้จะผ่านน้ำท่วมใหญ่ในรอบร้อยปีมาหลายวันแล้ว แต่ตอนนี้ชายแดนแม่สายยังเต็มไปด้วยความเสียหายและดินโคลนจำนวนมาก ชาวบ้านหลายคนยังไม่สมารถกลับเข้าบ้านได้

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค การซ้อมเป็นรูปขบวนเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา ครั้งที่ 7 ณ โรงเรือพระราชพิธี ท่าวาสุกรี และวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ขณะที่ “เจ้าอาวาสวัดอรุณฯ” ให้กำลังใจทำหน้าที่ได้เต็มที่-ประสบความสำเร็จ

พายุโซนร้อน “ซูลิก” ทำฝนตกหนัก 76 จังหวัด 19-23 ก.ย.

พายุดีเปรสชันบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนทวีกำลังขึ้นเป็นพายุโซนร้อน “ซูลิก” แล้ว คาดขึ้นฝั่งเวียดนามคืนนี้ หัวพายุส่งผลให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกมีฝนแล้ว ช่วงระหว่างวันที่ 19-23 ก.ย.67 มีพื้นที่เสี่ยงฝนตกหนักถึงหนักมาก 76 จังหวัด