กรุงเทพฯ 16 พ.ค. – อธิบดีดีเอสไอรับคดีปราบปรามขบวนการนำเข้าหมูเถื่อนเป็นคดีพิเศษ เนื่องจากส่งผลกระทบต่อผู้เลี้ยงหมูทั่วประเทศ สร้างความเสียหายนับหมื่นล้านบาท เบื้องต้นพบมูลการกระทำผิดของทั้งภาคเอกชนที่โยงใยถึงเจ้าหน้าที่รัฐ สมาคมผู้เลี้ยงหมูคาดปีที่ผ่านมาอาจมีการลักลอบนำเข้าเนื้อหมูแช่แข็งเดือนละ 1,000 ตู้ โดยหมูเถื่อนสร้างผลกระทบต่อโครงสร้างราคาของผู้เลี้ยงและมีความเสี่ยงที่จะนำโรคระบาดสัตว์เข้าสู่ไทยด้วย
พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวภายหลังรับเรื่องจากสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ผู้แทนเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรจากทุกภูมิภาค และนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ซึ่งร้องทุกข์กล่าวโทษผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการลักลอบนำเข้าเนื้อสุกรเถื่อน โดยระบุว่ารับเป็นคดีพิเศษ เนื่องจากเป็นคดีที่ส่งผลกระทบต่อผู้เลี้ยงสุกรทั่วประเทศ มูลค่านับหมื่นล้านบาท จากการตรวจสอบข้อมูลและหลักฐานต่างๆ ที่สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติและนายอัจฉริยะนำมามอบให้ เบื้องต้นเห็นว่ามีมูลการกระทำความผิดของทั้งภาคเอกชนและเจ้าหน้าที่รัฐ ดังนั้น จะต้องสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อดำเนินคดีทั้งหมด
นายสัตวแพทย์สุทัศน์ ตั้งธโนปจัย กรรมการสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ กล่าวว่า ขบวนการค้าเนื้อสุกรเถื่อนสร้างความเสียหายต่อโครงสร้างราคาของผู้เลี้ยงทั่วประเทศนับแสนคน ที่ผ่านมาพยายามเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ปัญหา แต่ยังไม่สามารถแก้ไขได้ จึงไม่ทราบว่าจะหันหน้าไปพึ่งใคร
ก่อนหน้านี้ผู้เลี้ยงสุกรได้รับความเดือดร้อนจากการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) คาดว่าเนื้อสุกรหายไปจากระบบประมาณการว่า 1,000 ตู้คอนเทนเนอร์ต่อเดือน แต่ราคากลับตกต่ำต่อเนื่อง จึงเชื่อว่ามีการลักลอบนำเข้าเนื้อสุกรเถื่อนในอัตราที่ชดเชยกัน ประมาณ 1,000 ตู้คอนเทนเนอร์ต่อเดือนอย่างแน่นอน จึงต้องฝากให้กรมสอบสวนคดีพิเศษปราบปรามและดำเนินคดีผู้กระทำผิดอย่างเด็ดขาด
นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม กล่าวว่า ได้นำหลักฐานต่างๆ มาร้องทุกข์กล่าวโทษต่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการลักลอบนำเข้าเนื้อสุกรแช่แข็ง เชื่อว่ามีการสำแดงเท็จเป็นอาหารแช่แข็งอื่นๆ โดยมีเจ้าหน้าที่รัฐช่วยเหลือในการกระทำผิดด้วย เช่น เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรและผู้บริหารกรมศุลกากรในส่วนกลาง รวมที่ร้องทุกข์กล่าวโทษวันนี้กว่า 50 คน
พร้อมกันนี้ย้ำว่า การลักลอบนำเข้าเนื้อสุกรเถื่อน นอกจากสร้างความเสียหายต่อผู้เลี้ยง ยังส่งผลกระทบต่อประชาชนที่อาจบริโภคเนื้อสุกรซึ่งไม่ผ่านการตรวจโรคระบาดและสารปนเปื้อนต่างๆ เป็นเนื้อสัตว์ที่ไม่ได้รับการรับรองมาตรฐานและความปลอดภัย.-สำนักข่าวไทย
