fbpx

ลงนามคำสั่งให้แก๊ง ตร.อุ้มรีดทรัพย์ชาวจีนทั้ง 5 นาย ออกจากราชการไว้ก่อน

กรุงเทพฯ 22 มี.ค. – “พล.ต.ต.นพศิลป์” รอง ผบช.น. ร่วมประชุมสรุปคดีอุ้มชาวจีนและล่ามชาวไทยไปรีดไถเงิน 10 ล้านบาท บ่ายนี้ พร้อมเผยได้เชิญนายหน้าคนไทย ต้องสงสัยพาผู้เสียหายชาวจีนไปทำบัตรประชาชนปลอมมาสอบถาม ยืนยันหากพบเกี่ยวข้องต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย


พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยความคืบหน้าการขยายผลตรวจสอบประเด็นการสวมบัตรประชาชนของผู้เสียหายชาวจีนที่ถูกอุ้มรีดทรัพย์ว่า เบื้องต้นตำรวจได้เชิญตัวนายโอภาส นายหน้าคนไทย ชาวอำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ ที่ต้องสงสัยว่าพาผู้เสียหายชาวจีนไปทำบัตรประชาชนคนไทยได้แล้ว โดยอยู่ระหว่างนำตัวนายหน้าคนดังกล่าวจากจังหวัดชัยภูมิ มาสอบซักถามต่อที่กรุงเทพ โดยยังไม่ระบุสถานที่ในการสอบ โดยจะซักในประเด็นว่า มีส่วนรู้เห็นกับคดีอุ้มรีดทรัพย์ครั้งนี้หรือไม่ และมีส่วนเกี่ยวข้องกับการพานายตี้ หลุง ชาวจีนผู้เสียหายไปสวมบัตรประชาชนเป็นนายสาโรจน์ ทองค้าไม้ หรือไม่ ทั้งนี้หากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการสวมบัตรประชาชนปลอม ในขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่ง ก็จะดำเนินคดีฐานเป็นผู้สนับสนุนพนักงานเจ้าหน้าที่ปลอมบัตรประจำตัวประชาชน

อย่างไรก็ตาม จากการสอบประวัติ พบมีประวัติก่อคดีโชกโชน และมีหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2565 ในข้อหาเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นฯ และเป็นผู้สนับสนุนพนักงานเจ้าหน้าที่ปลอมบัตรประจำตัวประชาชนฯ


ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า พบหลักฐานชิ้นสำคัญที่ตำรวจใช้มัดตัว 1 ใน 5 ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองแก๊งอุ้มรีดทรัพย์ชาวจีนและล่ามสาวชาวไทย คือภาพถ่ายที่ถูกโพสต์ลงเฟซบุ๊กบัญชีหนึ่ง ซึ่งปรากฏภาพ ด.ต.ในแก๊งอุ้มรีด ส่งมอบธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 1 ปึก ให้กับหญิงสาวที่มีท่าทางใกล้ชิดสนิมกัน โดยหญิงคนนี้มีรายงานว่าเป็นผู้โพสต์ภาพนี้ในเฟซบุ๊กด้วยตัวเอง เมื่อวันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุอุ้มรีดทรัพย์เพียงวันเดียว โดยตำรวจเตรียมจะเชิญตัวหญิงสาวรายนี้มาสอบปากคำเพื่อขยายผลว่ามีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับการกระทำความผิดหรือไม่

นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า ในเวลา 15.00 พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล จะเดินทางมาประชุมสรุปคดีอุ้มชาวจีนและล่ามชาวไทยไปรีดไถเงิน 10 ล้านบาท ที่ สน.ดินแดง

ล่าสุด พล.ต.ต.ปิยะอนันต์ โตสกุลวงศ์ ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 ได้ลงนามคำสั่งให้แก๊งตำรวจอุ้มรีดทรัพย์ชาวจีนทั้ง 5 นาย ออกจากราชการไว้ก่อน เพื่อรอฟังผลสอบสวนพิจารณาทางวินัย ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคมเป็นต้นไป โดยทั้ง 5 นายนี้ ประกอบด้วย 1.พันตำรวจตรีสรวิศ อินทร์ลับ สารวัตรกองกำกับการสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1, 2.พันตำรวจตรีจิรภัทร บุญนำ สารวัตรกองกำกับการสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1, 3.ร้อยตำรวจโทประวิต พลจังหรีด รองสารวัตรกองกำกับการสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1, 4.ร้อยตำรวจโทสุริยะ รุกขชาติ รองสารวัตรกองกำกับการสืบสวนสอบสวน สายงานสืบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1, 5.ดาบตำรวจพีระศักดิ์ ยิ้มไพบูลย์ ผู้บังคับหมู่ กองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง


ทั้งนี้ ผู้ถูกให้ออกจากราชการไว้ก่อนตามคำสั่งนี้ มีสิทธิอุทธรณ์ต่อ ก.ตร. ได้ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติฯ ภายใน 30 วัน และหากประสงค์จะฟ้องโต้แย้งคำสั่ง หรือคำวินิจฉัยอุทธรณ์นี้ ให้ทำคำฟ้องเป็นหนังสือยืานต่อศาลปกครองภายใน 90 วัน

อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่น่าสังเกตในคำสั่งนี้ คือ เงินเดือนของรองสารวัตรทั้ง 2 คน และดาบตำรวจ ได้รับอัตราเงินเดือนอยู่ระหว่าง 32,450-36,990 บาท ซึ่งสูงกว่าตำรวจยศสารวัตรอีก 2 นาย ที่ได้รับอัตราเงินเดือน 27,960 และ 28,430 บาท. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนักถึงหนักมาก คลื่นลมแรง

กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ระวังน้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก ส่วนทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนคลื่นลมแรง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

ชีวิตติดลบ! ชาวแม่สายจมน้ำจมโคลน 10 วันแทบหมดตัว

หลายชุมชนชายแดนแม่สาย เผชิญน้ำท่วมและจมโคลนมา 10 วันแล้ว อยู่ในสภาพแทบหมดตัว ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่กับชีวิตที่ต้องติดลบจากน้ำท่วมครั้งนี้

อาลัย “อดีตแข้ง U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา

วงการลูกหนังอาลัย “อดีตนักเตะ U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา ชาวบ้านเผยจุดนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อย ลงสะพานอย่าขับเร็ว