กรุงเทพฯ 10 มี.ค. – กรมอุทยานแห่งชาติฯ ปิดอุทยานแห่งชาติ วนอุทยาน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และเขตห้ามล่าสัตว์ป่ารวม 88 แห่ง เพื่อดับไฟป่า ย้ำระดมสรรพกำลังปฏิบัติงานต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ทำงานหนักมาก จนสามารถลดความรุนแรงได้หลายพื้นที่ ยืนยันดำเนินการทางกฎหมายอย่างเข้มงวดต่อผู้จุดไฟเผาป่า เป็นความผิดที่มีโทษหนัก
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชกล่าวว่า ขณะนี้ได้สั่งปิดพื้นที่ป่าอนุรักษ์ในความรับผิดชอบของกรมอุทยานฯ แล้ว 88 แห่งเพื่อควบคุมและดับไฟป่า ประกอบด้วย
- อุทยานแห่งชาติ 43 แห่ง
- เตรียมการอุทยานแห่งชาติ 9 แห่ง
- วนอุทยาน 11 แห่ง
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า 22 แห่ง
- เขตห้ามล่าสัตว์ป่า 3 แห่ง
ทั้งนี้เป็นการปิดพื้นที่ที่มีไฟป่าหรือมีความเสี่ยง แต่ไม่ปิดจุดท่องเที่ยว โดยจะมีการประเมินสถานการณ์ความสุ่มเสี่ยงทุกระยะ
นายอรรถพลกล่าวว่า ได้ระดมสรรพกำลังจากทุกพื้นที่เข้าปฏิบัติการดับไฟป่า ในพื้นที่สูงชันซึ่งเข้าถึงลำบาก เจ้าหน้าที่ต้องเดินหรือนั่งเรือเข้าไปดับไฟป่า ตลอดจนประสานเฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมบินทิ้งน้ำดับไฟ เจ้าหน้าที่ทำงานหนักมาก บางนายสำลักควันจนต้องนำตัวเข้ารักษาในโรงพยาบาล ขณะนี้สามารถลดความรุนแรงได้หลายพื้นที่ แต่ประสานกรมฝนหลวงและการบินเกษตรให้ทำฝนสนับสนุนการดับไฟป่าด้วย
นอกจากนี้ย้ำว่า ไม่ให้ประชาชนเข้าไปเก็บของป่า นำวัวเข้าไปเลี้ยง หรือจงใจจุดไฟ เนื่องจากเจ้าหน้าที่จะบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด บทลงโทษของบุคคลใดที่เผาป่าในอุทยานแห่งชาติ วนอุทยาน สวนพฤกษศาสตร์ หรือสวนรุกขชาติ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 4 – 20 ปี หรือปรับตั้งแต่ 400,000 – 2,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับตามมาตรา 41 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 เนื่องจากก่อให้เกิดความเสียหายรุนแรงต่อป่าไม้และสัตว์ป่า ตลอดจนก่อให้เกิดหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็กที่กระทบต่อสุขภาพของประชาชน
หากพบเห็นไฟป่า หรือการกระทำที่ก่อให้เกิดไฟป่า แจ้งสายด่วนกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โทร 1362 ตลอด 24 ชั่วโมง.-สำนักข่าวไทย