สำนักข่าวไทย 16 ก.พ. – กรมควบคุมโรค ยืนยัน “มาร์บวร์ก” ไม่น่ากลัวเท่าโควิด เพราะเชื้อแรง ตายได้ถึง 88% จึงแพร่ยาก อาการมีไข้สูง อาเจียนเป็นเลือด มีเลือดออกตามอวัยวะ ท้องร่วงรุนแรง และเสียชีวิตภายใน 7 วัน ประสานด่านควบคุมโรคสุวรรณภูมิ ตรวจเข้มผู้ที่มาจากแอฟริกากลาง
นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงการส่งสัญญาณเตือนให้มีการเฝ้าระวังโรคมาร์บวร์ก (Marburg virus disease) ในประเทศอิเควทอเรียลกินี (Equatorial Guinea) ในแอฟริกากลาง ที่ทำให้มีผู้ป่วยเสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 9 คน ว่า โรคดังกล่าวไม่ใช่โรคอุบัติใหม่ เป็นโรคเก่าที่เคยระบาดมาก่อน แต่เนื่องจากครั้งนี้เริ่มพบคนเสียชีวิตมากขึ้น แต่เนื่องจากโรคมีความรุนแรง ธรรมชาติของเชื้อเมื่อโรคมีความรุนแรงเสียชีวิตอย่างรวดเร็ว เชื้อโรคก็แพร่ระบาดได้น้อย โดยเชื้อมาร์บวร์ก ทำให้เสียชีวิตถึง 88% ส่วนใหญ่ของโรคนี้พบในแอฟริกากลาง และประเทศรอบๆ โดยได้ประสานทางด่านควบคุมโรคให้มีการเฝ้าระวัง ตรวจคัดกรองผู้ที่เดินทางมาจากแอฟริกากลางทั้งหมด หากมีความรุนแรงของโรคก็จะมีการยกระดับเฝ้าระวัง แต่เชื่อว่าจะไม่รุนแรงแพร่กระจายเหมือนโควิด-19
นพ.ธเรศ กล่าวว่า สำหรับการติดต่อของโรคมาร์บวร์ก ต้องมีการติดต่อสัมผัสกับสารคัดหลั่งในระบบทางเดินหายใจ เลือด และอุจจาระ โดยระยะฟักตัว 2-21 วัน เมื่อมีอาการจะแสดงภายใน 7 วัน โดยอาการมีไข้สูง อาเจียนเป็นเลือด เลือดออกตามอวัยวะ ท้องร่วงรุนแรง และเสียชีวิตภายใน 7 วัน ปัจจุบันโรคนี้ไม่มียารักษา ใช้การรักษาตามอาการ สำหรับการเดินทางเข้าไทยในกลุ่มประเทศแอฟริกากลาง ตั้งแต่ 27 พ.ย.65-15 ก.พ.66 พบมีผู้เดินทางเข้าไทยแค่ 13 คน ส่วนมาตรการคัดกรองโดยปกติของผู้เดินทางมาจากแอฟริกากลาง จะต้องเข้าด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ต้องผ่านการตรวจไข้เหลืองอยู่แล้ว ก็ให้เข้าช่องทางนี้ ง่ายแก่การติดต่อว่าจะมีการพำนักที่ไหน ส่วนการป้องกันโรคนี้ก็ทำได้โดยสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ และเว้นระยะห่าง เหมือนกับมาตรการโควิด. -สำนักข่าวไทย