กรุงเทพฯ 15 ก.พ. – อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ระบุมวลอากาศเย็นระลอกใหม่แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทย แล้วปะทะกับอากาศร้อน ส่งผลสภาพอากาศแปรปรวน มีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และอาจมีลูกเห็บจนถึงวันที่ 17 ก.พ. นี้ โดยมวลอากาศเย็นแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นพื้นที่แรก จากนั้นลมหนาวจะแรงขึ้นอีกครั้ง
นางสาวชมภารี ชมภูรัตน์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยากล่าวว่า ระหว่างวันที่ 15 – 17 ก.พ. ประเทศไทยตอนบนมีสภาพอากาศแปรปรวนเนื่องจากมีมวลอากาศเย็นระลอกใหม่แผ่ลงมาปกคลุม แล้วปะทะกับอากาศร้อน ส่งผลให้มีพายุฝนฟ้าคะนอง เกิดฟ้าร้องและฟ้าผ่าได้ ลมกระโชกแรง และอาจมีลูกเห็บ โดยพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังคือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง รวมกทม. และปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบนคือ ที่จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร
สำหรับมวลอากาศเย็นแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นพื้นที่แรก โดยระยะแรกทิศทางลมยังแปรปรวน แต่จากนั้นอากาศจะเริ่มกลับมาหนาวเย็นอีกครั้ง
เมื่อเวลา 08.30 น. วันนี้ เรดาร์ตรวจอากาศพบกลุ่มฝนปานกลางถึงหนักบริเวณจังหวัดสมุทรสาครสมุทรปราการ ชลบุรีฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี นครนายก ปทุมธานี นนทบุรี และกรุงเทพมหานคร
ทั้งนี้ระหว่างวันที่ 16 – 18 ก.พ. มีคลื่นกระแสลมตะวันตกจากทางด้านประเทศเมียนมาร์พัดปกคลุมภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ทำให้ภาคเหนือได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน และแพร่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนได้แก่ จังหวัดเลยและหนองบัวลำภูมีพายุฝนฟ้าคะนอง และมีลมกระโชกแรง และอาจมีลูกเห็บตกเกิดขึ้นได้ จึงต้องติดตามและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ขณะที่ภาคใต้จะมีฝนบางพื้นที่และคลื่นลมแรงขึ้น จึงต้องติดตามและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
จากนั้นช่วงวันที่ 19-24 ก.พ. ฝนจะน้อยลง ประกอบกับมีลมตะวันออกและตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุม ทำให้อากาศเย็นในตอนเช้า.-สำนักข่าวไทย